บันทึกเรื่องราว สืบสาวความจริง ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน.
Save the stories. Investigate the truth. Give to the next generation.


08 พฤษภาคม 2552

<<< ไปช่วยกันแสดงความเห็นเรื่องควรปรับค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ 3 เดือนหน้านี้อย่างไร >>>

ที่เว็บนี้

http://www.erc.or.th/PublicHearingForm.aspx?RowID=18

การ รับฟังความคิดเห็นเรื่อง ค่าไฟฟ้าตามสูตรการปรับอัตราค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ (Ft) สำหรับการเรียกเก็บในช่วงเดือนพฤษภาคม - สิงหาคม 2552
...
ผู้สนใจสามารถแสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการประมาณการค่าไฟฟ้าตามสูตรการปรับอัตราค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ (Ft)

สำหรับการเรียกเก็บในช่วงเดือนพฤษภาคม - สิงหาคม 2552 โดยมีรายละเอียดดังนี้ [[ Ft ]] มายังคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน

ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2552 จนถึงวันที่ 11 พฤษภาคม 2552 เวลา 16.30 น.

รายละเอียดเพิ่มเติมอ่านได้ที่เว็บดังกล่าว

-------------------------------------------

ผมพึ่งไปใช้สิทธิแสดงความเห็นมาแล้ว
ตามรูปที่แสดงนี้
















ถ้าส่งไปแล้ว
จะได้รับการตอบกลับมาแบบนี้

















ที่จริงเขาให้แสดงความเห็นหลายครั้งแล้ว
แต่ประชาชนไม่รู้ไม่มีใครสนใจ
ว่าแล้วเลยมุบมิบขึ้นค่าไฟเสียเลย













นี่คือผลของการที่ประชาชนไม่สนใจ
หรือไม่ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบ
กรณีขึ้นค่าผ่านท่อก๊าซของปตท.
ก็เลยผ่านฉลุยเพราะไม่มีคนคัดค้าน
แล้วก็จะกลายมาเป็นต้นทุนค่าไฟในภายหลัง
ที่บอกว่าไม่เกี่ยวกับค่าไฟ
ไม่เกี่ยวได้ยังไง กฟผ.ก็ผลักค่าผ่านท่อที่ขึ้นราคา
ไปบวกเป็นค่าไฟอยู่ดี เขาไม่รับไว้เองอยู่แล้ว

เรื่องก๊าซและน้ำมันอยู่ที่
เว็บไซต์ของสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.)
คงต้องรองวดหน้ามีเรื่องอะไรแอบทำลับๆล่อๆ
เปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนแบบเงียบฉี่แบบนี้
เหมือนไม่ค่อยอยากรับฟังความรู้สึกกันเท่าไหร่

------------------------------------------------

เรคกูเลเตอร์จะพิจารณาขึ้นค่าผ่านท่อก๊าซฯ ปตท.อีก 2.02 บาท/ล้านบีทียู
ปตท.
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 19 กุมภาพันธ์ 2009 16:51:21 น.

นายดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(เรคกูเลเตอร์) เปิดเผยว่า หลังหารือกับผู้บริหาร บมจ.ปตท.
(PTT) เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราค่าผ่านท่อก๊าซธรรมชาติใหม่แล้วได้ข้อสรุปว่าจะ ขยับขึ้นค่าผ่านท่อจาก 19.74 บาท/ล้านบีทียู เป็น
21.76 บาท/ล้านบีทียู หรือปรับขึ้น 2.02 บาท/ล้านบีทียู ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำกว่า ปตท.เสนอมาที่ 22.57 บาท/ล้านบีทียู

นายดิเรก กล่าวว่า เหตุที่เห็นด้วยกับการปรับขึ้นค่าผ่านท่อก๊าซครั้งนี้ เนื่องจากไม่ได้พิจารณาปรับขึ้นอัตราค่าผ่านท่อก๊าซฯ มานาน
แล้ว โดยจะเสนอให้ที่ประชุมเรคกูเลเตอร์พิจารณาในวันที่ 23 ก.พ.นี้

ทั้งนี้ เรคกูเลเตอร์จะนำข้อมูลการปรับขึ้นค่าผ่านท่อก๊าซฯ เผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ของสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) โดย
จะมีการรับฟังความเห็นประมาณ 3 สัปดาห์ หลังจากนั้นจะนำมาปรับปรุงข้อมูล แต่หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงก็คาดว่าจะประกาศอัตรา
ใหม่ได้เร็วสุดประมาณเดือน เม.ย.นี้

นายดิเรก กล่าวว่า ปกติแล้วจะมีการทบทวนค่าผ่านท่อก๊าซทุกๆ 3 ปี แต่ทางเรคกูเลเตอร์จะติดตามข้อมูลการลงทุนโดยตลอด หาก
พบว่า ปตท.ปรับแผนหรือชะลอการลงทุนตามความต้องการพลังงานที่ลดลงก็สามารถปรับเปลี่ยนอัตราใหม่ให้เหมาะสมได้ทุกปี

อย่างไรก็ตาม การลงทุนท่อก๊าซฯ เป็นการลงทุนระยะยาว ดังนั้นเรคกูเลเตอร์ได้พิจารณาทั้งผลกระทบประชาชน จึงต้องเฉลี่ยให้
ปรับขึ้นในอัตราต่ำ แต่ก็ดูถึงผลตอบแทนของผู้ลงทุนที่เหมาะสม เพราะวงเงินลงทุนโครงการใหม่มีมูลค่าสูงมากนับเป็นแสนล้านบาท ทั้ง
โครงการท่อก๊าซฯ เส้นที่ 3 ท่อก๊าซเจดีเอ และโครงการท่อก๊าซฯ เส้นที่ 4 ระยอง-สระบุรี ระยะทาง 300 กิโลเมตร วงเงินลงทุนประมาณ
39,000 ล้านบาท ขณะนี้ ปตท.อยู่ระหว่างทำแผนศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ) โดย ปตท.ประกาศเลื่อนการลงทุนไป 1 ปี ตามผล
กระทบเศรษฐกิจ และการชะลอการก่อสร้างโรงไฟฟ้าไอพีพีใหม่คาดจะก่อสร้างเสร็จประมาณปี 54-55

ด้านนายสมบัติ ศานติจารี ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) กล่าวว่า การปรับขึ้นของค่าผ่านท่อก๊าซฯ ส่งผล
กระทบต่อต้นทุนผลิตไฟฟ้าบ้าง เล็กน้อย เพราะค่าก๊าซปรับขึ้นในอัตราไม่สูงนัก จากปัจจุบันที่มีราคา 230 บาท/ล้านบีทียู เพราะต้นทุน
ส่วนใหญ่แล้วขึ้นอยู่กับราคาเนื้อก๊าซเป็นหลักซึ่งผันแปรตามราคา น้ำมันเตาย้อนหลัง 6-12 เดือน และคาดว่าราคาเนื้อก๊าซจะลดลงได้
ประมาณครึ่งหลังของปีนี้ โดยปัจจุบัน กฟผ.ใช้ก๊าซประมาณ 1,800 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน

--อินโฟเควสท์ โดย อตฦ/ธนวัฏ/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--

-----------------------------------------------

กกพ. อนุมัติการปรับขึ้นอัตราค่าบริการส่งท่อก๊าซธรรมชาติ เชื่อไม่กระทบต่อค่า Ft งวดเดือนเมษายนนี้

นายดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เผยว่า กกพ. ได้พิจารณาข้อเสนอการปรับอัตราค่าบริการ
ส่งก๊าซธรรมชาติของ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ซึ่งการปรับอัตราค่าบริการส่งก๊าซธรรมชาติสะท้อนกับภาระการลงทุนและการ
ดำเนินการขยายระบบโครงข่ายท่อส่งก๊าซธรรมชาติ เพื่อให้มีระบบโครงข่ายก๊าซธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพและสามารถตอบสนอง
ความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติ รวมทั้งให้สอดรับกับความต้องการก๊าซธรรมชาติเพื่อการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นตามแผนพัฒนากำลังผลิต
ไฟฟ้าของประเทศ (Power Development Plan : PDP) พ.ศ.2550 – 2564 ปตท. จึงได้จัดทำแผนการลงทุนขยายโครงข่ายระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติ ตามแผนแม่บทระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติฉบับที่ 3 พ.ศ.2544 – 2554 ที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) และคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2550 และวันที่ 19 มิถุนายน 2550 ตามลำดับ เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 165,077 ล้านบาท

โดย กกพ. ได้อนุมัติอัตราค่าบริการส่งก๊าซธรรมชาติ เพิ่มขึ้นจาก 19.7447 บาทต่อล้านบีทียู เป็น 21.7665 บาทต่อล้านบีทียู เพิ่ม
ขึ้น 2.0218 บาทต่อล้านบีทียู โดยเป็นการปรับขึ้นในส่วนของต้นทุนคงที่ (Td) จำนวน 1.2524 บาทต่อล้านบีทียู และการปรับขึ้นใน
ส่วนของต้นทุนผันแปร (Tc) จำนวน 0.7694 บาท ต่อล้านบีทียู โดยมีผลสำหรับการจัดเก็บตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2552 เป็นต้นไป

อย่าง ไรก็ตามการปรับอัตราครั้งนี้ได้ลดลงจากข้อเสนอของ ปตท. ที่เท่ากับ 22.5726 บาทต่อล้านบีทียู จำนวน 0.8061 บาทต่อ
ล้านบีทียู โดย กกพ. ได้ให้ความเห็นชอบให้ปรับอัตราค่าบริการในส่วนของต้นทุนคงที่ (Td) เป็น 20.6553 บาทต่อล้านบีทียู ลดลงจากข้อเสนอของ ปตท. ที่เท่ากับ 21.4614 บาทต่อล้านบีทียู จำนวน 0.8061 บาทต่อล้านบีทียู ซึ่งเป็นผลมาจาก กกพ. ได้มีการพิจารณาให้มีการปรับลดมูลค่าการลงทุนและบำรุงรักษาในส่วนของท่อส่ง ก๊าซธรรมชาติให้สามารถขยายอายุการใช้งานออกไป จาก 91,556 ล้านบาท เหลือ 61,283 ล้านบาท และให้มีการชะลอการลงทุนบางโครงการตามแผนแม่บทระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติ ฉบับที่ 3 (ปรับปรุงเพิ่มเติม) เป็นจำนวนเงิน 12,706 ล้านบาท นอกจากนี้ กกพ. ให้ความเห็นชอบให้ปรับอัตราค่าบริการในส่วนของต้นทุนผันแปร (Tc) เป็น 1.1112 บาทต่อล้านบีทียู ตามที่ ปตท. เสนอ เนื่องจากอัตราที่เสนอมีความสอดคล้องกับภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น

นายดิเรกกล่าวต่อไปว่า การปรับขึ้นอัตราค่าบริการส่งก๊าซธรรมชาติในครั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ ใช้บริการ และจะไม่ส่งผลต่อ
การปรับค่า Ft ในงวดเดือนมกราคม – เมษายน 2552 ซึ่ง กกพ. ได้พิจารณาแล้วว่าในปี 2552 นี้ ราคาก๊าซธรรมชาติมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง จึงได้กำหนดให้มีการปรับอัตราค่าบริการส่งก๊าซธรรมชาติตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2552 เป็นต้นไป ทั้งนี้หากไม่มีการลงทุนตามแผนที่กำหนด กกพ. จะพิจารณาเรียกเงินคืน และนำไปปรับลดค่าผ่านท่อต่อไป

อัตราค่าบริการส่งก๊าซธรรมชาติได้ผ่านการพิจารณาจากคณะอนุกรรมการกำกับดูแล อัตราค่าพลังงานและค่าบริการ ซึ่งมีผู้แทน
จากหน่วยราชการที่เกี่ยว ข้อง อาทิ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน สำนักงานพัฒนาการเศรฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผู้แทนสำนักงาน
คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ผู้แทนผู้บริโภค อาทิ ผู้แทนสภาหอการค้าไทย ผู้แทนสมาคมธนาคารไทย และนักวิชาการอิสระ เป็นต้น
นอกจากนี้ยังเป็นไปตามมาตรา 67 แห่ง พรบ.การประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ.2550 โดย กกพ. ได้กำหนดให้มีการรับฟังความคิดเห็น
เป็นเวลา 3 สัปดาห์(24 กุมภาพันธ์ – 16 มีนาคม 2552)และได้นำความคิดเห็นมาประกอบการพิจารณาของกกพ.ด้วย

-----------------------------------------------

เรคกูเลเตอร์ถกเครียดลดค่าเอฟที

นาย ดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานคณะกรรมการกำกับกิจการไฟฟ้า (เรคกูเลเตอร์) เปิดเผยว่า เรคกูเลเตอร์ได้พิจารณาอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) ที่จะเรียกเก็บในบิลค่าไฟฟ้าของประชาชนในงวดใหม่ (พ.ค.-ส.ค. 52) แล้วเบื้องต้น ก่อนที่จะมีการหารือตัวเลขขั้นสุดท้ายอีกครั้งในสัปดาห์นี้ โดยในหลักการจะคงค่าเอฟทีไว้ไม่เปลี่ยนแปลง แม้ว่าเอฟทีที่แท้จริงจะต้องปรับลดลงเนื่องจากจะนำเงินส่วนที่ลดดังกล่าวคืน ให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่แบกภาระค่าเอฟทีไว้ก่อนหน้านี้ 20,000 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ค่าเอฟทีที่จะเรียกเก็บในงวดเดือน พ.ค.-ส.ค.หากพิจารณาจากปัจจัยการผลิตจะพบว่า ราคาก๊าซธรรมชาติที่เป็นเชื้อเพลิงหลักได้ปรับลดลง 16 บาทต่อล้านบีทียู รวมกับค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงเล็กน้อย ส่งผลให้ค่าเอฟทีเบื้องต้นสามารถปรับลดลง 15.54 สตางค์ (สต.) ต่อหน่วยจากปัจจุบัน แต่เนื่องจากก่อนหน้านี้ กฟผ.ต้องแบกรับภาระไว้แทนประชาชน 20,000 ล้านบาท จากการปรับขึ้นค่าเอฟทีไปก่อนหน้านี้ แต่รัฐบาลมีนโยบาย ให้ตรึงค่าเอฟทีไว้ทำให้การจัดเก็บไม่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง จึงมีภาระหนี้สะสมดังกล่าว ดังนั้นเรคกูเลเตอร์จึงเห็นว่า เมื่อสามารถปรับลดค่าเอฟทีได้จึงให้กันเงินส่วนที่จะลดลงไปใช้หนี้คืน กฟผ.ก่อน ซึ่งก็จะทำให้ค่าเอฟทีในงวดเดือน พ.ค.-ส.ค.ยังคงเก็บในอัตราปัจจุบันคือ 92.55 สต.ต่อหน่วย
ขณะเดียว กันผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ค้าน้ำมันทุกรายจะทำการปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ ลง 50 สต./ลิตร ยกเว้น อี 85 ซึ่งจะมีผลตั้งแต่ 29 เม.ย.เป็นต้นไป เนื่องจากราคาน้ำมันในตลาดโลกได้ ปรับลดลงต่อเนื่องตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ผู้ค้าน้ำมันก็ยังไม่ได้มีการปรับลดราคาในทันที เนื่องจากต้องการรักษาระดับค่าการตลาดไว้ในระดับสูงโดยเฉพาะกลุ่มเบนซินค่า การตลาดเฉลี่ยสูงกว่า 3 บาท/ลิตร นายมนูญ ศิริวรรณ นักวิชาการด้านน้ำมันกล่าวว่า ราคาน้ำมันตลาดโลกปรับตัวลดลงมีปัจจัยมาจากภาวะเศรษฐกิจเป็นหลัก ประกอบกับช่วงนี้มีปัจจัยอื่นๆเข้ามาเสริมให้ลดลงมากขึ้น.

ไทยรัฐออนไลน์
โดย ทีมข่าวเศรษฐกิจ
29 เมษายน 2552, 05:00 น.

-----------------------------------------------

โดย มาหาอะไร