บันทึกเรื่องราว สืบสาวความจริง ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน.
Save the stories. Investigate the truth. Give to the next generation.


15 พฤษภาคม 2552

<<< เมื่อเลือกทางเดินผิด ก็มีสิทธิไปไม่ถึงจุดหมาย >>>

ถ้าคุณมีจุดมุ่งหมายจะไปเชียงใหม่
แต่เลือกขับรถไปตามทางถนนเพชรเกษม
ก็ไปไม่ถึงเชียงใหม่หรอก
ต่อให้คนขับรถเก่งแค่ไหน หรือ มีเงินเติมน้ำมันเยอะยังไง
ถ้าไม่ยอมเลี้ยวกลับก็คงเลยไปถึงมาเลเซีย สิงคโปร์ นั่นแหล่ะ
ถ้าจะถึงก็คงเสียเวลา เสียเงินเพิ่มและ เสียความรู้สึก
ที่ต้องเลี้ยวกลับขึ้นอยู่กับว่าหลงทางไปไกลแค่ไหน

เช่นเดียวกับการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาลอภิสิทธิ์ยามนี้
ที่เหตุวิกฤตตอนนี้กำลังมีคนตกงานนับล้าน
จากอุตสาหกรรมท่องเที่ยว อิเลคทรอนิคส์
รถยนต์และส่งออกแทบทั้งหมด
แล้วทุ่มเงินเป็นล้านล้านบาท
เพื่อสร้างงานที่คุยว่าล้าน สองล้านตำแหน่ง
งานเกี่ยวกันไหม กับที่กำลังตกงานอยู่
ไปก่อสร้างนั่นนี่ก็งานกรรมกรใช่ไหมที่เพิ่มขึ้น
แล้วพวกที่กำลังตกงานจากอุตสาหกรรมที่กำลังมีปัญหา
จะฟื้นยังไง จะมีงานทำขึ้นมาได้ยังไง

อีกอย่างการขึ้นภาษีน้ำมันและสารพัดภาษี
การดันราคาน้ำมันขึ้นแพงกว่า
ราคาน้ำมันสำเร็จรูปหน้าโรงกลั่นถึงเกือบเท่าตัว
ซึ่งตอนนี้ราคาหน้าโรงกลั่นส่วนใหญ่ไม่ถึง 14 บาทต่อลิตร
ที่เพิ่มมาทั้งหมดเป็นภาษีต่างๆ กองทุนน้ำมัน
และ ค่าการตลาด(กำไรของพ่อค้าน้ำมัน)
การที่น้ำมันราคาแพงแบบนี้
จะช่วยอุตสาหกรรมที่กำลังมีปัญหายังไง
การท่องเที่ยวน้ำมันแพงดีขึ้นไหม
อิเลคทรอนิคส์ รถยนต์ ขายได้ดีขึ้นไหม
ถ้าน้ำมันแพงขึ้นแบบนี้
คนจะเหลือเงินไปซื้อสินค้าและบริการต่างๆ มากไหม
หรือมีอารมณ์อยากซื้อสินค้าและบริการต่างๆ เพิ่มขึ้นไหม
และ การส่งออกต้นทุนจะสูงขึ้นไหม

ทางที่ดีควรลดราคาน้ำมันให้ถูกลง
ไม่ต้องไปรีดภาษีมาแบ่งเค้กเพื่อรอเลือกตั้งสมัยหน้า
เศรษฐกิจจะดีขึ้นเองโดยไม่แย่หนักกว่าเก่า
และไม่มีหนี้เพิ่มมากมายมหาศาล
การขึ้นภาษีต่างๆ
เป็นการชะลอเศรษฐกิจไม่ใช่การกระตุ้นเศรษฐกิจ
ใครมาคุยว่าการขึ้นภาษีต่างๆ
เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ชี้หน้าไปได้เลยว่าพวกหลอกลวง
เพราะการขึ้นภาษี
จะเป็นการดึงเงินจากกระเป๋าของประชาชนหรือผู้บริโภคนั่นเอง
เมื่อคนมีเงินน้อยลง
บวกกับความเครียดที่ข้าวของแพงขึ้น
จะเอาอารมณ์ที่ไหนมาใช้จ่าย
ต่อให้ทุ่มเงินไปช่วยผู้ผลิตให้ตายก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมา
ถ้าผู้บริโภคไม่มีอารมณ์และไม่มีกำลังจะซื้อ

โดย มาหาอะไร