ได้มาเป็นเพราะอำนาจปืนหนุนหลัง
ถ้าไม่มีปัญญาในการบริหารประเทศ
ก็อยู่ไม่ได้
ปืนกี่พันกี่หมื่นกระบอกก็ช่วยไม่ได้
เมื่อประชาชนเดือดร้อน
จะมาดื้อดึงอยู่ก็จบไม่สวยแน่ๆ
แต่ที่ทุกวันนี้บางรัฐบาลยังอยู่ได้
ก็เพราะว่าประชาชนไม่มีทางเลือกที่ดีกว่า
ถ้ามีทางเลือกที่ดีกว่า
ประชาชนที่เดือดร้อนเขาพร้อมเทใจมาช่วย
แต่ถ้าไม่พร้อมที่จะมาเป็นทางเลือก
ก็คงต้องทนรอคอยให้รัฐบาลนั้นบริหารไปเรื่อยๆ
รัฐบาลที่เล่นการเมืองเก่งและมีอำนาจปืนหนุนหลัง
การจะไปสู้รบตบมือในสังเวียนที่เขาถนัด
ไม่ใช่เรื่องง่าย
ตัวอย่างชัดๆ ในสภา
ถ้าฝ่ายค้านฝีปากกล้า
มาเจอกับฝ่ายรัฐบาลฝีปากเฉือดเชือนกว่า
ก็คว่ำกันไม่ลง
หรือนอกสภา
การก่อม็อบมาขับไล่
ในขณะที่ฝ่ายรัฐมีพวกถือปืนหนุนหลัง
การปราบปรามแบบชอบธรรมก็จะเกิดขึ้น
หรือไม่ก็ปล่อยให้ป่วนจนเสียแนวร่วมบางส่วนไป
ดูแล้ว
แนวรบเดียวที่สามารถทะลุทะลวงได้
ก็คือเรื่องการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ
ที่ดูแล้วฝ่ายรัฐบาลยังอ่อนและสะเปะสะปะ
ลักษณะลิงแก้แหเอาตัวรอดไปวันๆ
แถมกำลังสร้างภาระให้กับรัฐบาลหน้ามาแก้ปัญหา
ด้วยหนี้จำนวนมหาศาล
ถ้าพรรคฝ่ายค้าน
มีทีมที่แสดงให้ประชาชนเชื่อมั่นได้ว่า
จะเข้ามาบริหารได้ดีกว่า
การสนับสนุนจากประชาชนจะเกิดขึ้นอย่างมาก
หรืออีกกรณีหนึ่ง
จะเน้นแนวก่อม็อบขับไล่
ก็ต้องมีประมาณที่มากขึ้นเรื่อยๆ
ไม่จำเป็นต้องยืดเยื้อ
มาเดือนละหนหรือสัปดาห์ละครั้ง
แต่จำนวนคนมากขึ้นแบบเห็นได้ชัดเรื่อยๆ
ถ้าทำได้แบบนี้
คู่ต่อสู้ที่ไหนมาเห็นก็นั่งไม่ติด
เพราะกลัวเห็นคนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่ได้
เพราะเหมือนกับว่า
เห็นคนหนีห่างจากพวกตนออกไปมากขึ้นเรื่อยๆ
สุดท้ายถ้าไม่เจรจา
ก็คงหาเรื่องปราบปรามอีกครั้ง
ซึ่งการปราบปรามครั้งนี้
จำนวนคนที่มาครั้งหลังสุดจะเป็นฐาน
ที่จะมาต่อต้านไปเรื่อยๆ
ถ้าเป็นกรณีอยู่กับที่แล้วโดนหาเรื่องปราบปราม
พลังโกรธแค้นก็จะเพิ่มมากขึ้น
และสามารถใช้ความชอบธรรม
พามวลชนออกลุยได้ทุกวัน
แต่ไม่ควรไปยุ่ง
กับการประชุมนานาชาติ
เพราะภาพที่ออกไปจะไม่ได้รับการช่วยเหลือ
ยามที่ฝ่ายเราเพลี่ยงพล้ำ
ถ้าจะคัดค้านก็ควรอยู่ห่างๆ สถานที่ประชุม
เพราะเราจะไม่รู้ว่าใครเป็นมือที่สามเข้ามาสร้างสถานการณ์
การถือป้ายประท้วงให้เป็นข่าวแต่อยู่ห่างๆ
ก็ถือว่าได้แสดงความไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลนี้แล้ว
แต่ไม่ใช่ไม่เห็นด้วยกับการประชุมนานาชาติ
โดย มาหาอะไร
----------------------------------------
ผู้นำอาเซียนยื่นคำขาดห้ามชุมนุม5กม.รัฐต้องเด็ดขาด
ขณะที่ ผบ.ทบ.เสนอแนวเขตสกัดกั้นกลุ่มผู้ชุมนุมที่ชัดเจน และเรียกร้องให้อนุญาตให้สามารถใช้เครื่องมือควบคุมฝูงชนตามหลักสากลได้จริง หากมีการฝ่าฝืนจากกลุ่มผู้ชุมนุม จากแนวกั้นที่กำหนดไว้
วันนี้ (2 พ.ค.) สำหรับเนื้อหาสาระการประชุมเตรียมความพร้อมรักษาความปลอดภัยในการประชุมสุดยอดอาเซียน บวกคู่เจรจา ที่จ.ภูเก็ต นั้น ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง ได้มอบหมายให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นผู้รับผิดชอบดูแลรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญที่เข้าร่วมประชุม โดยรัฐบาลไทยจะเสนอให้จัดระหว่างวันที่ 12-14 มิ.ย.นี้ ทั้งนี้ในที่ประชุม นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ได้ชี้แจงเกี่ยวกับเงื่อนไขของแต่ละประเทศที่จะเข้าร่วมประชุมว่า เจ้าหน้าที่ไทยจะต้องไม่ให้มีการชุมนุมของทุกกลุ่มในพื้นที่ ห่างจากจุดการชุมนุมไม่ต่ำกว่า 5 กม. และขอให้ใช้ความเด็ดขาดในการดำเนินการกับกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญ หากรัฐบาลไทยทำไม่ได้ ผู้นำของแต่ละประเทศจะไม่เดินทางมาร่วมประชุม
ขณะที่พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ได้เสนอต่อที่ประชุมว่า จะต้องมีแนวเขตสกัดกั้นกลุ่มผู้ชุมนุมที่ชัดเจน และเรียกร้องให้อนุญาตให้สามารถใช้เครื่องมือควบคุมฝูงชนตามหลักสากลได้จริง หากมีการฝ่าฝืนจากกลุ่มผู้ชุมนุม จากแนวกั้นที่กำหนดไว้ เจ้าหน้าที่จะใช้แก๊สน้ำตา น้ำ กระบอง และอาวุธเพื่อสกัดกั้นไม่ให้เข้าไปขัดขวางการชุมนุม ส่วนพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม กล่าวในที่ประชุม ขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายช่วยกันทำความเข้าใจกับคนในพื้นที่ไม่ให้ออกมาเคลื่อนไหวชุมนุม ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายเสื้อสีใด
วันเดียวกัน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีคำสั่ง แต่งตั้ง พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ที่ปรึกษา (สบ.10) เทียบเท่ารองผบ.ตร. รับผิดชอบงานด้านความมั่นคงเป็น ผอ.ศูนย์รักษาความปลอดภัย และอำนวยการจราจร การประชุมสุดยอดอาเซียน บวกคู่เจรจา ที่จ.ภูเก็ต และพล.ต.ท.สุวัจน์ ธำรงค์ศรีสกุล ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นรองผอ.ศูนย์ฯ โดยมี พล.ต.ท.สันฐาน ชยนนท์ ผบช.ภ.8 ทำหน้าที่เป็นผบ.เหตุการณ์ โดยมีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจากตำรวจภูธร ภาค 6 และ 7 บช.น. บช.ก. เข้าร่วมปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยและการจราจร
----------------------------------------
ถ้าไม่มีปัญญาในการบริหารประเทศ
ก็อยู่ไม่ได้
ปืนกี่พันกี่หมื่นกระบอกก็ช่วยไม่ได้
เมื่อประชาชนเดือดร้อน
จะมาดื้อดึงอยู่ก็จบไม่สวยแน่ๆ
แต่ที่ทุกวันนี้บางรัฐบาลยังอยู่ได้
ก็เพราะว่าประชาชนไม่มีทางเลือกที่ดีกว่า
ถ้ามีทางเลือกที่ดีกว่า
ประชาชนที่เดือดร้อนเขาพร้อมเทใจมาช่วย
แต่ถ้าไม่พร้อมที่จะมาเป็นทางเลือก
ก็คงต้องทนรอคอยให้รัฐบาลนั้นบริหารไปเรื่อยๆ
รัฐบาลที่เล่นการเมืองเก่งและมีอำนาจปืนหนุนหลัง
การจะไปสู้รบตบมือในสังเวียนที่เขาถนัด
ไม่ใช่เรื่องง่าย
ตัวอย่างชัดๆ ในสภา
ถ้าฝ่ายค้านฝีปากกล้า
มาเจอกับฝ่ายรัฐบาลฝีปากเฉือดเชือนกว่า
ก็คว่ำกันไม่ลง
หรือนอกสภา
การก่อม็อบมาขับไล่
ในขณะที่ฝ่ายรัฐมีพวกถือปืนหนุนหลัง
การปราบปรามแบบชอบธรรมก็จะเกิดขึ้น
หรือไม่ก็ปล่อยให้ป่วนจนเสียแนวร่วมบางส่วนไป
ดูแล้ว
แนวรบเดียวที่สามารถทะลุทะลวงได้
ก็คือเรื่องการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ
ที่ดูแล้วฝ่ายรัฐบาลยังอ่อนและสะเปะสะปะ
ลักษณะลิงแก้แหเอาตัวรอดไปวันๆ
แถมกำลังสร้างภาระให้กับรัฐบาลหน้ามาแก้ปัญหา
ด้วยหนี้จำนวนมหาศาล
ถ้าพรรคฝ่ายค้าน
มีทีมที่แสดงให้ประชาชนเชื่อมั่นได้ว่า
จะเข้ามาบริหารได้ดีกว่า
การสนับสนุนจากประชาชนจะเกิดขึ้นอย่างมาก
หรืออีกกรณีหนึ่ง
จะเน้นแนวก่อม็อบขับไล่
ก็ต้องมีประมาณที่มากขึ้นเรื่อยๆ
ไม่จำเป็นต้องยืดเยื้อ
มาเดือนละหนหรือสัปดาห์ละครั้ง
แต่จำนวนคนมากขึ้นแบบเห็นได้ชัดเรื่อยๆ
ถ้าทำได้แบบนี้
คู่ต่อสู้ที่ไหนมาเห็นก็นั่งไม่ติด
เพราะกลัวเห็นคนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่ได้
เพราะเหมือนกับว่า
เห็นคนหนีห่างจากพวกตนออกไปมากขึ้นเรื่อยๆ
สุดท้ายถ้าไม่เจรจา
ก็คงหาเรื่องปราบปรามอีกครั้ง
ซึ่งการปราบปรามครั้งนี้
จำนวนคนที่มาครั้งหลังสุดจะเป็นฐาน
ที่จะมาต่อต้านไปเรื่อยๆ
ถ้าเป็นกรณีอยู่กับที่แล้วโดนหาเรื่องปราบปราม
พลังโกรธแค้นก็จะเพิ่มมากขึ้น
และสามารถใช้ความชอบธรรม
พามวลชนออกลุยได้ทุกวัน
แต่ไม่ควรไปยุ่ง
กับการประชุมนานาชาติ
เพราะภาพที่ออกไปจะไม่ได้รับการช่วยเหลือ
ยามที่ฝ่ายเราเพลี่ยงพล้ำ
ถ้าจะคัดค้านก็ควรอยู่ห่างๆ สถานที่ประชุม
เพราะเราจะไม่รู้ว่าใครเป็นมือที่สามเข้ามาสร้างสถานการณ์
การถือป้ายประท้วงให้เป็นข่าวแต่อยู่ห่างๆ
ก็ถือว่าได้แสดงความไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลนี้แล้ว
แต่ไม่ใช่ไม่เห็นด้วยกับการประชุมนานาชาติ
โดย มาหาอะไร
----------------------------------------
ผู้นำอาเซียนยื่นคำขาดห้ามชุมนุม5กม.รัฐต้องเด็ดขาด
ขณะที่ ผบ.ทบ.เสนอแนวเขตสกัดกั้นกลุ่มผู้ชุมนุมที่ชัดเจน และเรียกร้องให้อนุญาตให้สามารถใช้เครื่องมือควบคุมฝูงชนตามหลักสากลได้จริง หากมีการฝ่าฝืนจากกลุ่มผู้ชุมนุม จากแนวกั้นที่กำหนดไว้
วันนี้ (2 พ.ค.) สำหรับเนื้อหาสาระการประชุมเตรียมความพร้อมรักษาความปลอดภัยในการประชุมสุดยอดอาเซียน บวกคู่เจรจา ที่จ.ภูเก็ต นั้น ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง ได้มอบหมายให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นผู้รับผิดชอบดูแลรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญที่เข้าร่วมประชุม โดยรัฐบาลไทยจะเสนอให้จัดระหว่างวันที่ 12-14 มิ.ย.นี้ ทั้งนี้ในที่ประชุม นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ได้ชี้แจงเกี่ยวกับเงื่อนไขของแต่ละประเทศที่จะเข้าร่วมประชุมว่า เจ้าหน้าที่ไทยจะต้องไม่ให้มีการชุมนุมของทุกกลุ่มในพื้นที่ ห่างจากจุดการชุมนุมไม่ต่ำกว่า 5 กม. และขอให้ใช้ความเด็ดขาดในการดำเนินการกับกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญ หากรัฐบาลไทยทำไม่ได้ ผู้นำของแต่ละประเทศจะไม่เดินทางมาร่วมประชุม
ขณะที่พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ได้เสนอต่อที่ประชุมว่า จะต้องมีแนวเขตสกัดกั้นกลุ่มผู้ชุมนุมที่ชัดเจน และเรียกร้องให้อนุญาตให้สามารถใช้เครื่องมือควบคุมฝูงชนตามหลักสากลได้จริง หากมีการฝ่าฝืนจากกลุ่มผู้ชุมนุม จากแนวกั้นที่กำหนดไว้ เจ้าหน้าที่จะใช้แก๊สน้ำตา น้ำ กระบอง และอาวุธเพื่อสกัดกั้นไม่ให้เข้าไปขัดขวางการชุมนุม ส่วนพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม กล่าวในที่ประชุม ขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายช่วยกันทำความเข้าใจกับคนในพื้นที่ไม่ให้ออกมาเคลื่อนไหวชุมนุม ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายเสื้อสีใด
วันเดียวกัน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีคำสั่ง แต่งตั้ง พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ที่ปรึกษา (สบ.10) เทียบเท่ารองผบ.ตร. รับผิดชอบงานด้านความมั่นคงเป็น ผอ.ศูนย์รักษาความปลอดภัย และอำนวยการจราจร การประชุมสุดยอดอาเซียน บวกคู่เจรจา ที่จ.ภูเก็ต และพล.ต.ท.สุวัจน์ ธำรงค์ศรีสกุล ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นรองผอ.ศูนย์ฯ โดยมี พล.ต.ท.สันฐาน ชยนนท์ ผบช.ภ.8 ทำหน้าที่เป็นผบ.เหตุการณ์ โดยมีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจากตำรวจภูธร ภาค 6 และ 7 บช.น. บช.ก. เข้าร่วมปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยและการจราจร
----------------------------------------