บันทึกเรื่องราว สืบสาวความจริง ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน.
Save the stories. Investigate the truth. Give to the next generation.


19 สิงหาคม 2552

<<< ในโลกประชาธิปไตย ต่อสู้แบบหมากล้อมน่าจะดีกว่าหมากรุก >>>

เคยเห็นในหนังจีนกำลังภายใน
เขาชอบเล่นหมากล้อมหรือโก๊ะกัน
เห็นนั่งล้อมกันไปล้อมกันมา
เพื่อให้มีพวกเยอะๆ ไว้ก่อน
สุดท้ายใครล้อมได้มากกว่ากันก็ชนะ
แต่ถ้ามีพวกเยอะๆ แล้วประมาท
โอกาสโดนล้อมกลับไปเป็นพวกเขาก็มีมาก
การเล่นแบบหมากล้อมในยุคประชาธิปไตย
เป็นสิ่งที่ทำได้ตามกฏหมาย
แต่การเล่นแบบหมากรุก
จะทำไม่ได้มักจะผิดกฏหมาย
แถมไม่มีกำลังเท่าเทียมกันเหมือนหมากรุก
ที่แต่ละฝ่ายก็ได้กำลังเท่าเทียมกันก่อนเล่น
เมื่อกำลังก็น้อยแล้วยังจะใช้วิธี
ที่เขาสามารถหาเรื่องกวาดล้างได้โดยความชอบธรรม
ก็คล้ายๆ กับพวกประชดชีวิต
วิ่งให้รถชนเล่นยังงั้นแหล่ะ
จะไปด่าคนชนก็ไม่ได้ด้วย
ต่อให้ผิดกฏหมาย
แต่ชาวบ้านที่เห็นเขาเข้าใจ
ว่าจริงๆ ใครเป็นคนผิด
ไม่ได้อะไรเสียแรงเปล่า
โลกประชาธิปไตย
สู้ด้วยจำนวนคนดีที่สุด

การจะคิดหรือทำอะไร
แม้ไม่ใช่ที่แจ้ง
ก็อย่าคิดว่าไม่มีสาย
ดังนั้นควรเน้นให้ถูกกฏมายไว้ก่อน
ไม่ให้เขาหาเรื่องมากวาดล้างได้ในตอนนี้
ถ้าใช้คำรุนแรงแบบคำว่าสงคราม ( War ) อะไรพวกนี้
แค่ Copy ไปกล่าวหาก็ฟังขึ้นแล้ว
ดังนั้นไม่ควรมีคำจำพวก War อะไร
เพื่อไม่ให้เขาเอาไปอ้างได้
ว่ากำลังสุมหัวกันทำผิดกฏหมายอยู่

ถ้าต้องการได้ระบอบประชาธิปไตยที่ยั่งยืน
ต้องทำให้มวลชนฉลาด คิดวิเคราะห์อะไรได้เอง
ถ้าคิดอยากจะใช้วิธีทำให้มวลชนไม่ฉลาด
เพื่อจูงไปทำนั่นทำนี่ได้ตามใจ
ก็อย่าลืมว่า
พวกอื่นเขาก็ทำแบบนี้ได้
ถ้าคุณจูงได้พวกอื่นเขาก็จูงได้
ถ้าคุณจูงไม่ได้ คนอื่นก็จูงไม่ได้ง่ายๆ
เหมือนกับการพยายามทำให้คน
สั่งซ้ายหันขวาหันแล้วทำตามกันหมดได้
เพื่อตัวเองจะได้ควบคุมได้ง่ายๆ
แล้วคิดว่าวิธีเหล่านี้
พวกไหนชำนาญ
พวกเสื้อเขียวแน่นอน
ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจว่า
ทำไมพวกเสื้อเขียวถึงคิดว่าตัวเองเก่งกว่า
สามารถเข้ามาบริหารประเทศได้ดีกว่า
ก็เพราะเขาคิดว่า
การควบคุมคนแบบซ้ายหันขวาหันนั้น
เขาเก่งกว่า ชำนาญกว่า
แต่ถ้าเมื่อไหร่มีคนที่ไม่ยอมโดยจูงจมูกง่ายๆ เยอะๆ
ไม่ยอมก้มหัวให้ใครง่ายๆ เยอะๆ
ไม่มีเสื้อเขียวคนไหนอยากเสี่ยงมาเป็นหรอก
เพราะจะงงคุมคนไม่ได้
เหมือนที่ตนชำนาญในการคุมลูกน้องตนเอง
ที่สั่งซ้ายหันขวาหันแล้วทำตาม
แต่นี่เจอพวกประเภทไม่ทำตามเยอะๆ
แล้วยังมีต่อต้านเรื่องนั้นเรื่องนี้อีกเยอะๆ
ไม่มีใครกล้าทำหรอก
ต่อให้มีใครสั่งให้ทำก็ตาม
เผลอๆ จะหันปากกระบอกปืนไปทางคนสั่ง
ถ้าวันหนึ่งเขามั่นใจว่า
มีคนเกินครึ่งประเทศเป็นพวกเสรีชนของจริงเยอะๆ
แก้ทั้งทีต้องแก้ที่ต้นตอ
ไม่ใช่มีแค่คนเยอะๆ แล้วพอ
เยอะแล้วต้องเป็นเสรีชน
คนที่คิดอะไรได้เองเป็น
และยังวิเคราะห์อะไรได้เองด้วย
แค่ปลูกฝังให้รักประชาธิปไตยไว้
เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวรวมกัน
จะแก้ปัญหาได้ยั่งยืนกว่าทำแค่ฉาบฉวย
เอาชนะเป็นครั้งๆ
อาศัยคนมากๆ สร้างความวุ่นวาย
มีพระเอกขี่ม้าขาว หรือไม่มี
หรือก่อจราจลมั่วไปหมด
สุดท้ายพวกตัวเองมาเป็นก็โดนเหมือนกัน
ไม่มีประโยชน์ไม่ยั่งยืน

ถ้ามวลชนยังไม่เป็นเสรีชนจริงๆ
ยิ่งมีโอกาสถูกจูงไปทางนั้นทางนี้ได้ง่ายๆ
คล้ายๆ กับว่า คุณมีไม้เท้าศักดิ์สิทธิ์
คนศรัทธาในไม้เท้าศักดิ์สิทธิ์ของคุณ
เลยทำตามที่คุณสั่ง ที่คุณบอกทุกอย่าง
แล้วคุณไม่คิดบ้างว่า
วันหนึ่งอาจมีคนที่มีไม้เท้าศักดิ์สิทธิ์กว่า
ที่คนเขาศรัทธากว่า
เขาจะไม่ไปทำตามคำบอกของคนนั้นแทนคุณหรือ
แต่ถ้าคนคิดเป็นมีเหตุผล
ใครจะมีไม้เท้าศักดิ์สิทธิ์อะไร
เขาก็ไม่สนใจ สนใจที่เหตุผล
ว่าคุณมีดีกว่าไหม ถ้าไม่ดีกว่าก็ไม่ทำตาม
ต่อให้มีใครมีไม้เท้าศักดิ์สิทธิ์กว่า
อีกกี่อันก็ไม่มีผลอะไรกับเสรีชนจริงๆ

ดังนั้นพวกนักการเมืองหรือพวกที่อยากเล่นการเมือง
ถ้าคิดอยากให้พวกเสื้อเขียวมาแย่งงานทำบ่อยๆ
ก็ทำแบบที่พวกเสื้อเขียวนั้นถนัด
ถ้ามีโอกาสเหมาะๆ
เดี๋ยวเขาก็อาสามาแย่งงานทำโดยไม่ได้รับเชิญอีก
นับตั้งแต่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองมา
ก็ไม่เคยเห็นนักการเมืองคนไหน
คิดทำให้ประชาชนฉลาด
คิดเองเป็น รักเสรีภาพอะไรเลย
เพราะกลัวจะคุมกันไม่อยู่
ถ้าคุณสามารถคุมอยู่
ในขณะที่เขาเป็นเสรีชนจริงๆ
พวกเก่งแต่สั่งซ้ายหันขวาหัน
ไม่มีใครบ้าจี้มาแย่งพวกคุณทำงานหรอก
เพราะเขารู้ว่ามันคุมไม่อยู่
เหมือนคุณคุมเสือได้
คนที่คุมไม่ได้ ไม่มีใครเขาอยากมาแย่งคุณทำ
แต่ถ้าคุณคุมเสือ
โดยการทำให้เสือเชื่องกลายเป็นแมวตัวโตๆ
วันนั้นจะมีคนอื่นมาแย่งคุณคุมแน่นอน
คุณต้องคุมเสือได้โดยที่มันยังเป็นเสือ
คนที่จะมาแย่งงานคุณทำได้
ก็ต้องใช้วิธีเดียวกับคุณหรือมาแบบคุณ
จะเที่ยวตบเท้ามาชี้นิ้วสั่งแบบเดิมๆ ไม่ได้

โดย มาหาอะไร