การสร้างความเกลียดชังเพื่อหวังเอาชนะคู่ต่อสู้
ก็มักจะได้รับความเกลียดชังตอบ
เช่น ใช้สื่อ นสพ. ทีวี วิทยุ โหมกระแสปลุกระดม
ให้เกลียดชังอีกพวก
เพื่อหวังทำลายอย่างชอบธรรมในภายหลัง
โดยมีสื่อมวลชนที่หวังเป็นผู้สั่งฆาตกรรมหมู่ทางอ้อม
ทำหน้าที่สร้างความเกลียดชังให้กับฝ่ายตรงข้าม
ถ้าเป็นคนละชาติกันก็ยังพอเข้าใจว่า
เป็นเทคนิคปลุกระดมคนชาติเดียวกัน
เพื่อร่วมต่อสู้กับชาวต่างชาติ
ที่อาจกำลังมารุกรานประเทศเรา
แต่ถ้าเป็นคนชาติเดียวกัน
การกระทำแบบนี้
ก็คือการสนับสนุนให้มีรัฐใหม่ทางอ้อมดีๆ นี่เอง
เพราะคนที่เขากำลังต่อสู้เหมือนกำลังจะเป็นศัตรูกันอยู่
การใช้วิธีสร้างความเกลียดชังปลุกระดมแบบนี้
ก็เหมือนผลักอีกพวกเป็นคนละชาติกันดีๆ นี่เอง
เพราะพวกที่ถูกผลักเขาก็คงไม่หันหลังกลับมา
ยืนข้างพวกที่กำลังปลุกระดมโจมตีพวกเขาอยู่หรอก
มีแต่เดินหน้าต่อ ด้วยแรงฮึดอยากจะเอาชนะมากขึ้นเท่านั้น
ที่สำคัญ วิธีสร้างความเกลียดชัง
โดยยัดเยียดให้อีกพวกเป็นคอมมิวนิสต์
แล้วไปล้างสมองราวกับว่า
พวกคอมมิวนิสต์เหมือนพวกยักษ์พวกมาร
ทั้งที่จริงๆ แล้วทั้งโลกปัจจุบันประเทศคอมมิวนิสต์
เหลือแค่ไม่กี่ประเทศคือ
จีน, เวียดนาม, ลาว, เกาหลีเหนือ และคิวบา
แถมเป็นคอมมิวนิสต์ที่ไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์
แทบจะเป็นคอมมิวนิสต์แบบทุนนิยมกันไปหมดแล้ว
ดังนั้นการเป็นคอมมิวนิสต์แบบจีน
ที่ประเทศกำลังเจริญเติบโตที่สุดในโลกขณะนี้
ดูยังไงก็ไม่เห็นว่ามีข้อเสียอะไร ดีเสียอีก
ไม่แน่น่ะ ผลักให้พวกอื่นไปเป็นคอมมิวนิสต์มากๆ
เขาอาจอยากเป็นบ้างก็ได้น่ะ
เพราะมีประเทศคอมมิวนิสต์แบบจีนเป็นตัวอย่างที่ดี
อันที่จริงรูปแบบการปกครองระบอบคอมมิวนิสต์
มันไม่ใช่ว่าจะเลวร้ายอะไร
แต่ที่ในไทยชอบเอามาใช้กล่าวหาพวกตรงข้าม
เป็นเพราะว่ามีการแฝงเรื่องไม่เอาเจ้าไว้ในคำว่าคอมมิวนิสต์
หมายความว่าถ้าใครไม่เอาเจ้า
ก็จะถูกเหมาว่าเป็นคอมมิวนิสต์ทันที
ทั้งๆ ที่ทั้งโลกตอนนี้
มีประเทศที่มีกษัตริย์ 28 ประเทศเท่านั้น ได้แก่
อังกฤษ, นอร์เวย์, สวีเดน,
สเปน, เดนมาร์ก, เนเธอร์แลนด์,
จอร์แดน, เลโซโท, โมร็อกโก,
โอมาน, บาห์เรน, กาตาร์,
ตองกา, ซามัว, สวาซิแลนด์,
ลิคเตนสไตน์, ซาอุดีอาระเบีย,
มาเลเซีย, สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์,
คูเวต, ภูฏาน, กัมพูชา,
โมนาโก, เบลเยียม, บรูไน
ญี่ปุ่น, ไทย และ ลักเซมเบิร์ก
และประเทศคอมมิวนิสต์ 5 ประเทศ
นอกนั้นก็เป็นประชาธิปไตยแบบต่างๆ
ทำไมเขาไม่เหมาว่าพวกไม่เอาเจ้า
เป็นพวกประชาธิปไตยบ้าง แปลกไหม
วันหลังเจอใครกล่าวหาว่าเป็นคอมมิวนิสต์
ลองถามเขากลับไปซิว่าทำไมไม่กล่าวหาว่า
เป็นพวกประชาธิปไตยบ้าง
ดังนั้นการกระทำการโฆษณาชวนเชื่อ
โดยกล่าวหาและเหมาคนเสื้อแดงทั้งหมด
เป็นพวกคอมมิวนิสต์
ถ้าพวกอื่นกล่าวหากลับบ้างว่า
สื่อนั้นๆ เป็นฆาตกรอำมหิต
หวังฆ่าประชาชนที่ไม่เห็นด้วย
กับรัฐบาลที่สื่อนั้นรับใช้ ก็ได้ใช่หรือไม่
เช่นเดียวกันก็สามารถด่ารัฐบาลที่ปล่อยให้สื่อของรัฐ
กระทำการสร้างกระแสเกลียดชังแบบนี้
ว่าเป็นฆาตกรเลือดเย็น พูดอย่างทำอีกอย่าง
ชอบอ้างว่าจะยึดแนวทางสมานฉันท์
แต่พฤติกรรมชอบยุแยงให้เกิดความรุนแรง
เป็นรัฐบาลทรราชชาติชั่ว อะไรแบบนี้ก็ได้ใช่หรือเปล่า
การกระทำแบบนี้ รวมไปถึงการทำเป็นมองไม่เห็น
ทั้งๆ ที่ควบคุมได้และก็ควบคุมอยู่แล้วในทุกวันนี้
จะให้ชาวบ้านเขาเข้าใจว่า
ไม่รู้ไม่เห็นกับพฤติกรรมที่ต้องการฆ่าหมู่
หวังล้างบางคนเสื้อแดงในอนาคตใช่หรือไม่
แต่การกระทำแบบนี้
ก็มีข้อดีสำหรับฝ่ายตรงข้าม
ในกรณีนี้ก็คงเป็นคนเสื้อแดง
ข้อดีก็คือว่า ต่อไปคงจะเหลือแดงเดียว
แดงที่เขายัดเยียดข้อกล่าวหาให้
เหมือนที่อเมริกาเคยทำตอนต่อสู้กับพวกบิลลาเดน
คือจะไม่มีประเทศเป็นกลาง หรือ กลางแบบแอบๆ
มีแต่ประเทศที่สนับสนุนการก่อการร้าย
กับประเทศที่ต่อต้านการก่อการร้ายเท่านั้น
ให้ประเทศต่างๆ เลือก ว่าจะเลือกข้างไหน
นี่ก็เหมือนกัน
อนาคตคนเสื้อแดงจะเจอทางเลือก 2 ทาง
ที่พวกเขาต้องเลือกข้างให้ได้ว่า
"จะลุกขึ้นสู้ หรือจะอยู่ใต้ฝ่าเท้าไปตลอด"
ถ้าไม่ลุกขึ้นสู้ ก็ต้องยอมรับสภาพ
และยอมอยู่ใต้ฝ่าเท้าเผด็จการซ่อนรูปไปตลอดชาติ
ไม่ว่าเขาจะรังแกยังไง
หรือแสดงอำนาจบาตรใหญ่ยังไง
หรือไร้ความยุติธรรมยังไงก็ต้องรับได้
ถ้าเลือกที่จะอยู่ใต้ฝ่าเท้าเผด็จการไปตลอด
ถ้าไม่เช่นนั้นก็ต้องลุกขึ้นสู้
จนกว่าจะชนะพวกเผด็จการทุกรูปแบบ
จะเห็นได้ว่าเพราะพวกเขาทำตัวเอง
ผลักคนโดยหวังคัดแยก
ให้คนที่กลัวโดนข้อหาที่ยัดเยียดให้
ไม่กล้าสู้ต่อกลัวจนเลิกต่อต้านอำนาจมืด
แต่สุดท้ายแล้ว
กระแสความเกลียดชังที่สร้างขึ้นมันจะย้อนกลับมา
ด้วยกระแสความเกลียดชังของฝ่ายตรงข้าม
โดย มาหาอะไร
บันทึกเรื่องราว สืบสาวความจริง ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน.
Save the stories. Investigate the truth. Give to the next generation.