บันทึกเรื่องราว สืบสาวความจริง ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน.
Save the stories. Investigate the truth. Give to the next generation.


24 มกราคม 2553

<<< ยุทธวิธีที่เวียตนามใช้เพื่อเอาชนะอเมริกา >>>

มี 2 ยุทธวิธีหลักๆ
แบ่งเป็นการเมืองกับการทหาร
การทหารนั้นก็อย่างที่รู้ๆ กันอยู่แล้ว
ตามสูตรที่ท่องๆ กัน คือ
"เอ็งมาข้ามุด เอ็งหยุดข้าแหย่ เอ็งแย่ข้าตี เอ็งหนีข้าตาม"
สูตรนี้เป็นสงครามจรยุทธ์
เรียกว่าไม่สู้กันซึ่งๆ หน้าเท่าไหร่
เล่นลอบโจมตีเป็นหลัก
เพราะอาวุธสู้ไม่ได้
เวียตนามใช้วิธีนี้
รบถ่วงเวลาอเมริกา
หรือว่ามันยืดเยื้อเองก็ตาม
เพื่อให้อเมริกาที่ส่งทหารเข้ามาในเวียตนาม
เขาว่ามีประมาณ 5 แสนนาย
ต้องมีค่าใช้จ่ายมหาศาล
และสารพัดปัญหา
ในการเข้ามาอยู่ในสงครามเวียตนาม
แล้วต้องมาเจอการรบแบบผุดๆ โผล่ๆ
ทำให้ทหารอเมริกาขวัญเสีย

สงครามนี้ยืดเยื้อหลายสิบปี
กว่าจะสิ้นสุดสงคราม
ช่วงท้ายสงคราม
เวียตนามโดนอเมริกาบอม์บอย่างหนัก
แต่เวียตนามก็สอยเครื่องบินรบอเมริกาได้หลายร้อยลำ
จับนักบินอเมริกาไปเป็นเชลยสงครามได้หลายร้อยคน
เวียตนามใช้กลยุทธ์ที่สอง
ในการบีบให้รัฐบาลอเมริกายอมจำนน
ในการเซ็นต์สัญญาสงบศึก
ทั้งๆ ที่ประธานาธิบดีนิกสัน
พึ่งจะชนะมาเป็นสมัยที่สอง
เท่ากับว่าได้รับฉันทานุมัติจากคนอเมริกันส่วนใหญ่
ให้สู้ศึกในสงครามเวียตนามต่อไป

กลยุทธ์ด้านการเมือง
เวียตนามเหนือได้ดูแล
เหล่าเชลยศึกสงครามเป็นอย่างดี

อยู่ในคุกเหมือนคุกปกติ
ที่นักโทษสามารถเดินไปมาทำกิจกรรมได้
และมีการปล่อยข่าวและให้นักข่าวอเมริกัน
มาเสนอข่าวต่างๆ
โดยเฉพาะการสัมภาษณ์นักโทษ
และให้ลูกเมียนักโทษบินมาเยี่ยมได้อีกด้วย
แถมนักโทษก็ต้องหลบการบอม์บของฝ่ายตนเองอีก
จึงเป็นแรงผลักดันส่วนหนึ่ง
ที่ออกมาเรียกร้องให้เจรจาสงบศึก
เพื่อแลกกับอิสรภาพของเชลยสงครามทั้งหมด
ทำให้กระแสต่อต้านสงครามในอเมริกา
ซึ่งก็มีมาเรื่อยๆ เป็นระยะๆ อยู่แล้ว
ได้เริ่มมีกระแสต่อต้านสงครามมากขึ้น
จนประธานาธิบดีอเมริกา
ต้องยอมไปทำสัญญาสงบศึกกับเวียตนาม

มีอยู่หลายครั้ง
ที่มีข่าวหลุดไปให้คนอเมริกันได้เห็น
ก็คือการฆาตกรรมหมู่คนเวียตนามหลายร้อยศพ
แบบไม่มีอาวุธจะสู้ เป็นชาวบ้านธรรมดา
จนเกิดกระแสเรียกร้องให้ดำเนินคดีขึ้น
และในที่สุดทหารชุดนั้นโดนตัดสินให้ติดคุก

ทหารอเมริกันส่วนใหญ่ที่ส่งเข้ามาเสริม
ก็เป็นเด็กวัยรุ่นแทบทั้งนั้น
บางครั้งเครียดเดินไปเดินมา
เพื่อนโดนยิงแล้วหาตัวพวกที่ยิงไม่เจอ
เวลาลาดตะเวนไปเจอหมู่บ้านต่างๆ
ก็ไปจุดไฟเผาบ้านชาวบ้านทิ้งหมด
มีชุดนี้โหดหน่อยฆ่าทิ้งเรียบทั้งหมู่บ้าน
ไม่ว่าจะเป็นเด็กสตรีหรือคนชราไม่มีอาวุธจะสู้
เรื่องแดงถึงหูสื่ออเมริกัน ก็เพราะว่า
พวกเดียวกันเองทนเห็นพฤติกรรมกันเองไม่ได้
มีการออกมาแฉและกลายเป็นคดีไปในที่สุด

อะไรพวกนี้แหล่ะ
ที่แฉให้เห็นพฤติกรรมอันโหดร้าย ไร้มนุษยธรรม
ถ้าโดนแฉออกไประดับนานาชาติ
โดนประนามแน่ๆ
ขนาดรัฐบาลชาติมหาอำนาจยังโดนเอง
ดังนั้นกล้องถ่ายรูป
คืออาวุธสำคัญ
ในการสู้เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย
ไม่ใช่อาวุธน้องเอ็ม น้องอาร์ อะไร
เพราะอาวุธพวกนั้น
เป็นแค่เพียงตราประทับ
รับรองความชอบธรรม

ที่ต้องถูกยิงตายเท่านั้นเอง

ส่วนกองกำลัง
ถ้าไม่มีแบบเรียกได้ว่าเป็นกองกำลัง
ก็อย่าได้เอามาพูด
เพื่อดิสเครดิตความชอบธรรม
ขบวนการเคลื่อนไหว
เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยอะไรเลย
โดยเฉพาะการเรียกร้องประชาธิปไตย
จากรัฐบาลในขณะที่ยังไม่โดนเล่นก่อน
ไม่ควรนำมาผูกติดไว้
กับกระบวนการเรียกร้องประชาธิปไตย
ใครรู้ใครเห็นไม่มีใครเชื่อหรอกว่า
กำลังมาเรียกร้องประชาธิปไตยอะไรกัน

โดย มาหาอะไร