พอดีมีช่วงหนึ่งบ้าเห่อจักรยาน
นั่งค้นไปค้นมาไปเจอจักรยานพับเล็กที่สุดในโลก
ยี่ห้อ A-Bike ของอังกฤษ
แต่ราคาประมาณ 200 ปอนด์สำหรับของแท้
เป็นเงินบาทก็ประมาณหมื่นบาท
ปรากฏว่าไปเห็นของเทียม
ทำจากจีนแดงเหมือนกันทุกอย่าง
อาจเป็นโรงงานอังกฤษมาสั่งทำด้วยซ้ำ
แล้วให้ขายแถวเอเชียราคาถูกกว่า
ไม่รู้เข้าใจถูกหรือเปล่า
แต่เอาเป็นว่าเห็นราคาไม่ถึง 3 พัน
วันนั้นตัดสินใจไปซื้อถึงออฟฟิสแถวดินแดงเลย
กะซื้อเอามาออกกำลังกาย
ปั่นไปกลับที่ทำงานกับคอนโด
แบบจะลดน้ำหนักไปในตัว
ปรากฏว่ากลับน้ำหนักเพิ่มขึ้นไปอีก
เพราะหิวมากขึ้นและก็กระหายน้ำมากขึ้น
จึงหาของกินตามรายทางไปเรื่อยเปื่อย
ใช้เวลาปั่นเกือบชั่วโมง
ระหว่างคอนโดกับที่ทำงาน
แต่ปั่นได้ไม่ถึงเดือนก็ต้องเลิก
อาจเป็นเพราะหายบ้าเห่อด้วยก็ได้
แต่เหตุผลหลักน่าจะเป็นเพราะว่า
มันไม่ปลอดภัย
เนื่องจากหลายสาเหตุเช่น
ปั่นไปเจอหลุมแล้วจะตีลังกาง่าย
ล้อมันเล็กเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณฝ่ามือผู้ใหญ่
เวลาไปเจอหลุมลึกแค่ไม่ถึงนิ้วมือคน
ก็ตีลังกาสองตลบได้เลย
ทั้งๆ ที่พึ่งออกตัวและปั่นเร็วๆ ไม่ได้มากอยู่แล้ว
แต่การถ่วงน้ำหนักและการทรงตัวมันไม่ได้
เล่นทำให้เรางงเหมือนกัน
เพราะตอนแรกไม่รู้ไม่ทันระวัง
ปั่นออกตัวได้ไม่กี่ช่วงตัว
เจอหลุมตัวเราหงายไปข้างหลัง
ส่วนรถหลุดมือหมุนตีลังกาสองรอบแล้วตกลงมา
ก็มีรอยนิดหน่อยแต่ไม่บาดเจ็บอะไร
เพราะขายันอยู่กับพื้นประมาณเสียหลักนิดหน่อย
ซึ่งเรื่องนี้หลังๆ รู้ว่าล้อเล็กข้ามหลุมไม่ได้ก็ระมัดระวังขึ้น
อีกสาเหตุที่น่ากังวล
ก็คือกลัวโดนรถตามหลังมาชน
แต่ก็พยายามปั่นๆ หยุดๆ ดูรถหลังไปเรื่อยๆ
และพยายามปั่นซิกแซกผ่าหมู่บ้านหลายหมู่บ้าน
จากคอนโดแทนที่จะออกด้านหน้าแล้วอ้อมตั้งไกล
กว่าจะมาโผล่ถนนด้านหลังคอนโด
ก็ปั่นออกมาจากหลังคอนโดไม่กี่นาที
ก็มาเจอถนน 2 เลนแล้ว
แล้วก็ทะลุหมู่บ้านสองสามหมู่บ้าน
ก็ตัดตรงไปครึ่งทางแล้ว
ซึ่งหลังๆ ก็ไม่กังวลกับเรื่องรถเท่าไหร่
แต่สาเหตุที่น่ากังวลมากที่สุดกลับเป็น หมา
ที่เฝ้าบ้านแต่ละหลังตามหมู่บ้าน มีอยู่แทบทุกซอย
มีทั้งแบบเห่าแล้วตัวโดนขังอยู่ในบ้าน
แบบเห่าแต่ตัวเดินเพ่นพ่านอยู่ในซอย
กับไม่เห่าแต่เดินตามมาทางด้านหลัง
แบบแรกไม่น่ากังวลเท่าไหร่
เพราะเรารู้ว่ายังไงก็ไม่มีปัญญามากัดเรา
เพราะกระโดดออกมานอกรั้วบ้านไม่ได้
เชิญเห่าตามสบาย
ส่วนแบบสองเห่าแล้วตัวเดินไปมาอยู่แถวๆ รถเรา
พวกนี้เราก็จะลงจากรถจักรยาน
และทำหน้าดุๆ ใส่มัน
แล้วตะคอกเสียงดังๆ ว่า แฮะ
และตัวเราจะยืนหลังรถจักรยาน
เผื่อมันพุ่งเข้ามา
กะยกจักรยานฟาด เพื่อป้องกันตัว
เพราะรถน้ำหนักเบายกมือเดียวยังไหว
แค่นี้ก็ได้ผลไอ้ที่เห่าๆ ก็หยุด
ไม่หยุดมันก็ไม่ทำอะไร มันเห่าอย่างเดียว
เราก็ผ่านด่านนี้ไปได้ไม่ยากอะไร
แต่ช่วงที่ปั่นจักรยานไปทำงานอยู่นั้น
จะรู้สึกเจ็บคอไปบอกใครแล้วจะแปลกมาก
ถ้าไม่อธิบายเหตุผลประกอบ
เขาจะงงว่าปั่นจักรยานแล้วมันเกี่ยวอะไรกับคอ
ส่วนแบบสุดท้าย
ประเภทไม่เห่าแต่เดินตามหลังมาเงียบๆ
ทำให้เราเข้าใจสุภาษิตโบราณขึ้นมาทันที
กับคำว่า "หมาลอบกัด"
สังเกตุเวลาปั่นจักรยานผ่านมัน
มันจะนิ่งๆ เงียบๆ ไม่สนใจเราเท่าไหร่
เราก็จะไม่ลงจากรถจักรยานและตะคอกมัน
เหมือนพวกที่ชอบเห่า
ก็ปั่นไปเรื่อยๆ นึกว่าไม่มีอะไร
แต่เอ๊ะใจลองหันกลับมาดูข้างหลัง
ปรากฏว่ามันย่องตามมาอย่างเงียบเชียบ
น่ากลัวมากตัวก็ใหญ่
เสียวน่องเราจะโดนมันแทะโลม
เลยต้องหันมาตะคอกใส่มัน
มันถึงหยุดเดินตามมา
เราว่าพวกที่สามน่ากลัวกว่า
ในบรรดาทั้ง 3 พวก
และทุกวันก็วนเวียนอยู่ยังงี้
แทนที่วันเดียวก็น่าจะรู้จักกัน
มันเล่นทำแบบเดิมกันทุกตัว
รู้สึกกลัวเจ้าพวกหมามันจะกัด
มากกว่ากลัวรถชนเสียอีก
เลยหยุดปั่นเลย
พอดีกำลังจะเอาไปแปลงเป็นรถไฟฟ้า
รู้วิธีหมดหาคนทำให้ไม่ได้
ก็เลยหยุดปั่นชั่วคราว
ถ้าเป็นรถไฟฟ้าได้แล้ว
มันวิ่งได้เร็วขึ้นกว่าเดิมมาก
แต่ถนนต้องเรียบไม่งั้นตีลังหลายตลบแน่ๆ
ขนาดแค่ปั่นช้าๆ โดนหลุมหน่อยเดียว
ตีลังกาไม่เป็นท่าเลย
สรุปสำหรับเรื่องนี้ว่า
"หมาเห่ามักไม่ค่อยกัด แต่หมาลอบกัดมันจะกัดเอา"
โดย มาหาอะไร
FfF
บันทึกเรื่องราว สืบสาวความจริง ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน.
Save the stories. Investigate the truth. Give to the next generation.