บันทึกเรื่องราว สืบสาวความจริง ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน.
Save the stories. Investigate the truth. Give to the next generation.


05 มีนาคม 2553

<<< แค่เรื่องง่ายๆ ยังทำให้ดีไม่ได้ แล้วเรื่องยากๆ จะเป็นยังไง เฮ้อ >>>

ได้ฤกษ์ทดลองบิน"เรือเหาะ"สายลับเหินเวหา3จังหวัดใต้

คมชัดลึก : หลังจากรอยลโฉมกันมานานหลายเดือนก็ได้ฤกษ์ที่ "เรือเหาะตรวจการณ์" มูลค่ากว่า 350 ล้านบาท ของกองทัพบกก็ได้ขึ้นทดลองการบินเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 14 มกราคม ที่ผ่านมา ท่ามกลางการจับตาว่า ของเล่นไฮเทคของ ทบ.ชิ้นนี้ จะใช้งานได้คุ้มค่าแค่ไหน

หัวหน้าชุดเฝ้าตรวจทางอากาศ ซึ่งรับผิดชอบเรือเหาะ เผยถึงรายละเอียดในการบินวันแรกว่า เป็นการบินเพื่อทดสอบประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ เนื่องจากยังติดตั้งกล้องตรวจการณ์ไม่เสร็จ โดยทำการบินประมาณ 10 กม. รอบค่ายกองพลทหารราบที่ 15 จ.ปัตตานี

เบื้องต้นการทำงานของเครื่องยนต์ปกติ ส่วนกล้องตรวจการณ์จะเริ่มดำเนินการติดตั้งตั้งแต่วันที่ 15 มกราคมเป็นต้นไป

ส่วนที่มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า เรือเหาะจะใช้งานจริงใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ได้แค่ไหน เนื่องจากสภาพภูมิประเทศเป็นป่าเขา ประกอบกับมีฝนตกบ่อยครั้ง ผิดกับประเทศที่ใช้เรือเหาะที่มักมีสภาพภูมิประเทศเป็นที่ราบกลางทะเลทราย นั้น เขาก็มองว่า ไม่ได้เป็นปัญหา

โดยรูปแบบเรือเหาะหลักๆ มี 2 ประเภท คือ 1.แบบ stat ซึ่งเป็นเรือเหาะไม่มีเครื่องยนต์ ลอยนิ่งอยู่กับที่ มักนำมาใช้ในสภาพภูมิประเทศที่เป็นทะเลทรายเพื่อจับตาสิ่งผิดปกติ

2.แบบ airship ซึ่งเป็นแบบที่ ทบ.นำมาใช้ในปัจจุบัน เป็นเรือเหาะติดเครื่องยนต์ มีเครื่องบินบังคับ ใช้สำหรับภารกิจลาดตระเวน

หัวหน้าชุดเฝ้าตรวจทางอากาศ ยอมรับว่า ข้อจำกัดของเรือเหาะ คือ ไม่สามารถปฏิบัติงานในตอนที่ฝนตกได้ และอาจไม่สามารถส่องทะลุป่าเขาได้ก็จริง แต่ภารกิจส่วนนี้ก็มีเฮลิคอปเตอร์ตรวจการณ์ของกองทัพมาช่วยเติมเต็มได้อยู่ แล้ว

ขณะที่ประสิทธิภาพสูงสุดของเรือเหาะ คือ การบินตรวจการณ์ในพื้นที่ชุมชนและในเขตเมือง เพื่อตรวจตราสิ่งผิดปกติ ซึ่งเชื่อว่าจะมีประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานของหน่วยปฏิบัติการในพื้นที่มาก

หัวหน้าชุดเฝ้าตรวจทางอากาศ ระบุว่า ในช่วงตั้งแต่วันที่ 21-31 มกราคม จะมีการสาธิตการใช้งานจริงต่อ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก โดยจะมีการลิงก์สัญญาณภาพไปที่ บก.ทบ. เพื่อประเมินผลการใช้งาน ก่อนจะมีการกำหนดภารกิจในพื้นที่ต่อไป

ขณะที่แหล่งข่าวชุดปฏิบัติการรายหนึ่ง กล่าวถึงผลการบินในวันแรกเครื่องยนต์ทำงานเป็นปกติดี หลังจากนี้จะต้องรอติดตั้งกล้องประมาณ 1 สัปดาห์ ก่อนจะทดสอบการใช้งานต่อไป

สำหรับภารกิจของเรือเหาะหลักๆ จะมี 3 ส่วน คือ 1.ด้านยุทธการ 2.ด้านการข่าว 3.ด้านกิจการพลเรือน โดยจะมีการเชื่อมสัญญาณภาพไปยังกองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) รวมทั้งหน่วยเฉพาะกิจ (ฉก.) ทั้ง 26 หน่วยในพื้นที่เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติงาน

ส่วนวงรอบในการปฏิบัติภารกิจ เบื้องต้นจะมีการบินช่วงเช้า 4 ชั่วโมง ช่วงบ่าย 4 ชั่วโมง ส่วนในตอนกลางคืน หากมีการร้องขอก็จะออกปฏิบัติภารกิจ โดยเรือเหาะมีกล้องอินฟราเรดที่สามารถจับอุณหภูมิความร้อนของมนุษย์ จึงสามารถ "มองเห็นในที่มืด" ได้ชัดเจน

เขายกตัวอย่างประโยชน์ที่จะได้จากเรือเหาะว่า หากกล้องสามารถจับภาพความผิดปกติที่พื้นได้ก็จะถ่ายทอดให้ชุด ฉก.ในพื้นที่ทันที หรือหากพบการรวมกลุ่มของบุคคลต้องสงสัยในตอนกลางคืนก็สามารถรายงานได้เช่น กัน

สำหรับเรือเหาะดัง กล่าวจะติดตั้งตรวจการณ์ 2 ตัว และสามารถเดินทางด้วยความเร็วประมาณ 60 กม./ชั่วโมง โดยสามารถบินได้ต่อเนื่องนานถึงครั้งละ 6 ชั่วโมง

ส่วนสมรรถนะของกล้องตรวจการณ์เท่าที่เคยทดสอบ สามารถซูมเห็นภาพเบื้องล่างได้อย่างชัดเจน

แหล่งข่าวยังกล่าวถึงขั้นตอนการคัดเลือกนักบินเรือเหาะที่ มีทั้งหมด 8 คนด้วยว่า ทั้งหมดถูกคัดเลือกจากนักบินของ ทบ. โดยเขาและเพื่อนอีกคนได้รับการฝึกบินก่อนที่สนามบินอู่ตะเภา จ.ชลบุรี จากนั้นถึงจะมีการถ่ายทอดเทคนิคการบินให้เพื่อนอีก 6 คน

โดยนักบินส่วนใหญ่มีพื้นฐานนักบินเฮลิคอปเตอร์มาก่อน จึงไม่มีปัญหาเรื่องเครื่องยนต์กลไก เพราะ ฮ.มีความซับซ้อนกว่ามาก แต่เทคนิคที่ต้องเรียนเพิ่มเติม คือ การขึ้น-ลงของเรือเหาะ

โดยเฉพาะขั้นตอนการลงที่ต้องระมัดระวังมาก เพราะบ่อยครั้งจะลงยาก เนื่องจากภายในเรือเหาะมีก๊าซฮีเลียม หากอากาศที่พื้นร้อนและเบากว่าก๊าซฮีเลียม ก็จะทำให้ลงได้ลำบาก จึงต้องแก้ไขด้วยการทำมุมลงให้เหมาะสมถึงจะลงจอดได้

แหล่งข่าวคนเดิมกล่าวทิ้งท้ายว่า เรือเหาะของ ทบ.น่าจะช่วยสร้างประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าที่ได้ไม่มากก็น้อย แต่ก็คงไม่ถึงขั้นไร้ประโยชน์เลยอย่างที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ โดยเฉพาะการจับตาความเคลื่อนไหวผู้ต้องสงสัย และการคุ้มครองชีวิตผู้บริสุทธิ์

ทีมข่าวความมั่นคง
http://www.komchadluek.net/detail/20100118/44962/ได้ฤกษ์ทดลองบินเรือเหาะสายลับเหินเวหา3จังหวัดใต้.html

---------------------------------------------------------

Post Today
อนุพงษ์ การันตี เรือเหาะตรวจการณ์ เหมาะสม ตรวจสอบได้
05 มีนาคม 2553 เวลา 12:16 น.

ผบ.ทบ. การันตี เรือเหาะตรวจการณ์ ประสิทธิภาพเหมาะสม ใช้ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ได้ ด้านเพื่อไทย ขู่ ร้องปปช.สอบ

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมประชุม คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนแผนพัฒนาพื้นที่พิเศษภาคใต้ ซึ่งมีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง เป็นประธาน กรณีที่พ.ต.ท. สมชาย เพศประเศรษฐ ประธานกรรมาธิการทหาร สภาผู้แทนราษฎร ระบุว่าเรือเหาะตรวจการณ์ที่ใช้ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่มีประสิทธิภาพเนื่องจากมีรอยรั่วนั้น ไม่ทราบใครบอกว่ามีปัญหา แต่เรื่องนี้สามารถตรวจสอบได้ เพราะต้องโปร่งใส แต่การที่จะไปคิดเอาโดยไม่มีพื้นฐาน จะเกิดความไขว้เขว คงไม่ถูกต้อง

“สรุปคือผมพร้อมให้มีการตรวจสอบทั้งหมด ไม่ว่าใครเป็นผู้ตรวจสอบ แต่ขณะนี้ยังไม่มีการรายงานเรื่องความบกพร่อง ซึ่งคณะกรรมการตรวจรับเรือเหาะดำเนินการตามขั้นตอนแล้ว ไม่มีใครไปดำเนินการได้ ตนก็ไม่ได้ไปสั่งให้ใครทำเมื่อไร อย่างไร เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการจะได้ทำงานได้อย่างสบายใจ ผมยืนยันว่าคุณสมบัติของเรือเหมาะสม ถ้าไม่เหมาะสมจะสั่งซื้อได้อย่างไร” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว

ด้านนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่าจากที่ได้ยื่นเรื่องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้มีการตรวจสอบการจัดซื้อเรือเหาะ Sky Dragon จากสหรัฐอเมริกาของกองทัพบก ราคา 340 ล้านบาท เป็นราคาที่สูงเกินจริงและไม่มีประสิทธิภาพนั้น วันนี้ได้ปรากฏข้อเท็จจริงเพิ่มเติมว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ได้เร่งรัดให้เจ้าหน้าที่รีบดำเนินการตรวจรับและส่งมอบเรือเหาะในวัน ศุกร์ที่ 5 มี.ค.นี้ ที่จ.ปัตตานี เพื่อสยบข่าวอื้อฉาวและจะมีการจ่ายเงินที่ค้านอีก 30 % ให้แก่บริษัทผู้ขายทั้ง ๆ ที่รู้ว่าอุปกรณ์ต่างๆ ของเรือเหาะ ไม่มีความสมบูรณ์และมีราคาสูงเกินจริง อีกทั้งมีข้อบกพร่องที่เห็นชัดเจนว่าน่าจะผิดสเปก มีรอยรั่วจำนวนมาก และไม่สามารถลอยตัวสูงเกิน 10,000 ฟุต หรือประมาณ 1 กิโลเมตร ทำให้ไม่พ้นวิถีกระสุนของผู้ก่อการร้าย และกล้องถ่ายภาพไม่สามารถส่งสัญญาณภาพไปยังหน่วยงานต่างๆ ได้ทั่วถึงและที่สำคัญค่าใช้จ่ายเติมก๊าซแต่ละครั้งนับแสนบาท จากข่าวที่ปรากฎว่ากรรมการตรวจรับลาออกก็แสดงให้เห็นถึงความผิดปกติของการ จัดซื้อเรือเหาะจึงไม่กล้าตรวจรับ

http://www.posttoday.com/ข่าว/การเมือง/14394/อนุพงษ์-การันตี-เรือเหาะตรวจการณ์-เหมาะสม-ตรวจสอบได้

---------------------------------------------------------

วันที่ 03 มีนาคม พ.ศ. 2553 เวลา 21:26:13 น. มติชนออนไลน์

ทบ.เผย"เรือเหาะ"รั่วแล้ว เกิดรอยระหว่างทดสอบบิน เร่งเข้าอู่ซ่อมเตรียมบินสมบูรณ์แบบเดือนนี้

เจ้ากรมขนส่งทบ.เผย"เรือเหาะ"ทดลองบินตรวจใต้มี"รอยรั่ว" ต้องซ่อมฐานอู่ตะเภา แจงรับมอบอุปกรณ์ช้าเพราะต้องรอรัฐบาลมะกันอนุมัติส่งออก พร้อมใช้งานสมบูรณ์แบบเดือนนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร สภาผู้แทนราษฎร โดยมี พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาศึกษาปัญหาและอุปสรรคในการใช้เรือเหาะตรวจการณ์ เพื่อการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มูลค่า 350 ล้านบาท โดย พล.ต.วุทธิ์ วิมุกตะลพ เจ้ากรมขนส่งทหารบก ชี้แจงว่า โครงการจัดซื้อเรือเหาะตรวจการณ์ มีการลงนามสัญญาเมื่อเดือนเมษายน 2552 และเดือนพฤศจิกายน 2552 พัสดุที่เกี่ยวข้องต่างๆ ก็ส่งมาครบ โดยการประกอบจะมีบริษัทเอกชนดำเนินการ สินค้ารับประกัน 2 ปี นับแต่วันตรวจรับ ขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการเชื่อมสัญญาณระหว่างเรือเหาะกับภาคพื้น คาดว่าจะสามารถใช้ได้สมบูรณ์แบบในเดือนมีนาคมนี้ และยอมรับว่าในการทดสอบก่อนหน้านี้ เกิดอุบัติเหตุการปะทะกับลมจนเกิดรอยรั่วเล็กน้อย แต่มีการนำมาซ่อมที่ฐานอู่ตะเภาจนสมบูรณ์แล้วนำลงประจำการที่ จ.ปัตตานี จนขณะนี้ยังมีการฝึกบินตามปกติทุกวัน

ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า กมธ.ตั้งข้อสงเกต เหตุใดจึงไม่มีรายงานการนำเข้าอุปกรณ์ต่างๆ กับกรมศุลกากร และบริษัท แอลเรียล อินเตอร์ เนชั่นแนล สหรัฐอเมริกา ผู้จำหน่ายได้รับการรับรองจากรัฐบาลสหรัฐหรือไม่ และขณะนี้ที่ยังไม่สามารถใช้งานได้ เพราะส่งมอบอุปกรณ์ล่าช้าไม่เป็นไปตามสัญญาหรือไม่ ซึ่ง พล.ต.วุทธิ์ชี้แจงว่า อุปกรณ์บางส่วนที่มีสมรรถภาพสูง เช่น กล้องตรวจการณ์ บริษัทเอกชนต้องรอการอนุมัติจากรัฐบาลก่อนถึงจะส่งออกได้

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1267626400&grpid=no&catid=01

---------------------------------------------------------

ไทยรัฐออนไลน์
โดย ทีมข่าวการเมือง
5 มีนาคม 2553, 01:50 น.

ทบ.ดันรับเรือเหาะเจ้าปัญหา

ผบ.ทบ. เร่งดันส่งมอบเรือเหาะ 5 มี.ค.หวั่นกระแสต้านทำซื้อเรือเหาะล่ม เผย 2 คกก.ชิงลาออก กลัวถูกสอบย้อนหลัง เหตุไม่ได้มาตรฐานตามสเปก...

ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้าในการจัดซื้อเรือเหาะตรวจการณ์ มูลค่า 340 ล้านบาท ที่กองทัพบกจัดซื้อ จากสหรัฐอเมริกา ที่มีเสียงวิจารณ์ ว่า ไม่สามารถใช้การได้ และ ส่งมอบล่าช้า เพราะอุปกรณ์ไม่เป็นไปตามสเปกตามสัญญานั้น นอกจากนี้ ยังมีนายทหารระดับ พ.อ. และ พ.ท. 2 นาย ลาออกจากคณะกรรมการตรวจสอบ ล่าสุด พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่รีบดำเนินการตรวจรับและส่งมอบเรือเหาะ Sky Dragon ในวันที่ 5 มี.ค. 2553 ที่กองพลทหารราบที่ 15 สนามบินบ่อทอง จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงเก็บเรือเหาะ (airship) หลังเลื่อนกำหนดส่งมอบมาตั้งแต่วันที่ 25 ส.ค. 2552

นอกจากนี้ กองทัพบกไม่ได้เรียกค่าปรับกรณีส่งมอบล่าช้า โดยอ้างว่า กองทัพบกต้องการให้บริษัทเพิ่มประสิทธิภาพในหลายด้าน เช่น การส่งสัญญาณภาพจากเรือเหาะ มาที่รถหุ้มเกราะบังคับภาคพื้นเพียงคันเดียว ขอให้เชื่อมสัญญาณภาพสด เรียลไทม์ ไปยังหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ปฏิบัติการต่างๆ ในเวลาเดียวกัน แต่ปัญหา คือ กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ไม่ยอมขายกล้องตรวจการณ์ให้บริษัทฯ นอกจากนี้ ยังมีปัญหาการลอยตัวไม่ได้ตามมาตรฐานที่กำหนด

“บริษัทฯ อ้างว่าน้ำหนักดังกล่าวเป็นการลอยตัวสำหรับ เรือเหาะเปล่า แต่เมื่อติดตั้งกล้อง และอุปกรณ์แล้ว ทำให้มีน้ำหนักเพิ่มมาก จนลอยได้แค่ 1 ใน 3 เท่านั้น แม้ระยะ 1 กิโลเมตร จะทำการบินได้ แต่เสี่ยงเกินไปที่อาจจะถูกลอบโจมตีจากขบวนการก่อความไม่สงบ ที่อาจมีอาวุธยิงที่ร้ายแรงก็ตาม นอกจากนี้ มีที่นั่งแค่ 1 ที่นั่ง ไม่มีห้องโดยสารสำหรับลูกเรือ จากเดิมที่ ทบ. ตั้งไว้ 2-4 คน” แหล่งข่าวจากกองทัพบก กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากพยายามแก้ไขเรือเหาะไม่สามารถใช้ได้ตามที่ระบุในร่างสัญญา รวมถึงบริษัทฯ ต้องการให้กองทัพบกรับมอบ และจ่ายเงินส่วนที่ค้างอีก 30% ของราคาเต็ม 9.7 ล้านเหรียญสหรัฐ และ ขอร้องให้กองทัพบกรับมอบไปเลย ทั้งๆ ที่ยังมีปัญหา แต่ ผบ.ทบ. ยังสั่งให้คณะกรรมการตรวจรับ ในวันที่ 5 มี.ค.นี้เ พื่อต้องการลดกระแสทางการเมืองที่จะมีการตรวจสอบ ทั้งเรื่องจีที 200 และเรือเหาะ จึงเป็นสาเหตุให้คณะกรรมการระดับ พ.อ.1 คน และ พ.ท. 1 คน ลำบากใจ และ กลัวความผิดภายหลัง ทำให้ประธานคณะกรรมการ ซึ่งเป็นนักบินสังกัดกองทัพภาคที่ 4 และ คณะกรรมการที่เป็นนักบินของกรมขนส่ง ทบ. ขอลาออก ผ่านทาง พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาค 4 ยังไม่อนุมัติ โดยอ้างว่า ไม่ใช่ผู้บังคับบัญชาโดยตรง

http://www.thairath.co.th/content/pol/68748

---------------------------------------------------------

"อนุพงษ์"เร่งดันส่งมอบเรือเหาะ5 มี.ค.
4 มีค. 2553 22:12 น.

รายงานข่าวแจ้งว่า ความคืบหน้าการจัดซื้อเรือเหาะตรวจการณ์ มูลค่า 340 ล้านบาท ที่กองทัพบกจัดซื้อจากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มีการวิจารณ์ว่าไม่สามารถใช้การได้ และส่งมอบล่าช้า เพราะอุปกรณ์ไม่เป็นไปตามสเปคที่ทำสัญญานั้น นอกจากนี้ ยังมีคณะกรรมการที่เป็นนายทหารระดับ พ.อ. 1 นาย และ พ.ท. 1 นายได้ประกาศลาออกจากคณะกรรมการ เพราะไม่อยากเสี่ยงรับเรือเหาะลำนี้ ล่าสุด พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ได้ให้เร่งให้เจ้าหน้าที่รีบดำเนินการตรวจรับ และส่งมอบเรือเหาะ Sky Dragon ในวันศุกร์ที่ 5 มีนาคมนี้ ที่กองพลทหารราบที่ 15 สนามบินบ่อทอง จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงเก็บเรือเหาะ (airship) หลังเลื่อนกำหนดส่งมอบมาตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม 2552แหล่งข่าวนายทหาร ในกองทัพบก ระบุว่า กองทัพบกไม่ได้เรียกค่าปรับเรื่องการส่งมอบล่าช้า โดยอ้างว่ากองทัพบกต้องการให้บริษัทเพิ่มประสิทธิภาพในหลายด้านให้เอง เช่น จากที่จะส่งสัญญาณภาพจากเรือเหาะ มาได้แค่ที่รถหุ้มเกราะบังคับด้านภาคพื้นแค่คันเดียว ก็ขอให้เชื่อมสัญญาณภาพสด เรียลไทม์ ไปยังหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ปฏิบัติการต่างๆในเวลาเดียวกันด้วย
“ ปัญหาที่เกิดขึ้นตลอด 6 เดือน คือ กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯไม่ยอมขายกล้องตรวจการณ์ทั้ง 5 ตัวให้ แต่บริษัทไปเดินเรื่องจนได้มา จึงมาติดตั้ง แต่มีปัญหาเรื่องการเชื่อมสัญญาณ ทำให้ระบบล่ม โดยเฉพาะการติดตั้งกับเฮลิคอปเตอร์อีก 3 ลำ รวมทั้งมีปัญหาเรื่องการจัดเก็บ จนทำให้เกิดรอยรั่วซึม ราว 20 จุด ทำให้ต้องมีการแก้ไข จนเกิดคำถามว่าเป็นเรือเหาะใหม่ถอดด้าม หรือว่าของต้นแบบที่สร้างมานานแล้ว และยังมีปัญหาการลอยตัวไม่ได้ตามที่กำหนด”แหล่งข่าวกล่าวแหล่งข่าวกล่าวว่า หลังจากพยายามแก้ไขมาแล้ว เรือเหาะยังไม่สามารถใช้ได้ตามที่ระบุในร่างสัญญา และไม่มีอะไรดีขึ้น แม้กระทั่งเลยกำหนดมา 6 เดือนแล้ว อีกทั้งบริษัทต้องการให้กองทัพบกรับมอบและจ่ายเงิน ส่วนที่ค้างอีก 30% ของราคาเต็ม 9.7 ล้านเหรียญสหรัฐ และขอร้องให้กองทัพบกรับมอบไปเลย ทั้งที่ยังมีปัญหา แต่ผบ.ทบ.ก็สั่งให้คณะกรรมการตรวจรับในวันที่ 5 มีนาคมนี้ เพื่อลดกระแสทางการเมืองที่มีการตรวจสอบ ทั้งเรื่องจีที 200 และเรือเหาะ รวมทั้งเห็นใจบริษัท ทำให้มีคณะกรรมการ ที่เป็นระดับ พ.อ.1 คน และ พ.ท. 1 คน ลำบากใจ และกลัวความผิดในภายหลัง ทำให้ประธานคณะกรรมการ ซึ่งเป็นนักบินสังกัดกองทัพภาคที่ 4 และ คณะกรรมการที่เป็นนักบินของกรมขนส่ง ทบ. ขอลาออก แต่ พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาค 4 ยังไม่อนุมัติ โดยอ้างว่า ตนเองไม่ใช่ผู้บังคับบัญชาโดยตรงให้เป็นเรื่องของกรมขนส่งทหารบก

แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบล่าสุดก่อนส่งมอบ พบว่าบริษัทยังไม่สามารถทำตามที่ทบ.ร้องขอ เรื่องการเชื่อมสัญญาณภาพไม่สมบูรณ์ โดยบริษัทอ้างสัญญาที่ทำไว้เมื่อ 23 เม.ย.2552 ว่า คณะกรรมการทางเทคนิคได้ตรวจรับ ก่อนการบรรจุ...บห่อ แล้วส่งมาถึงบรรจุก๊าซฮีเลี่ยมลอยให้ดูว่าลอยได้ก็จบแล้วตรวจรับ โดยในสัญญาไม่ได้ระบุว่า ต้องลอยตัวได้ระยะเท่าไหร่ หรือต้องขึ้นบินให้ดู หรือตรวจสอบระบบต่างๆ จึงจะตรวจรับได้ ขณะนี้เรือเหาะสามารถลอยตัวประมาณ 1 หมื่นฟุต หรือประมาณ 1กิโลเมตรเศษเท่านั้น ทั้งที่ตามสเปคต้องลอยได้สูงถึง 3 กิโลเมตร หรือกว่า 3 หมื่นฟุต “ บริษัทอ้างว่าน้ำหนักดังกล่าวเป็นการลอยตัวสำหรับ เรือเหาะเปล่า แต่เมื่อติดตั้งกล้องและอุปกรณ์แล้ว ทำให้มีน้ำหนักเพิ่มมาก จนลอยได้แค่ 1 ใน 3 เท่านั้น แม้ระยะ 1 กิโลเมตร จะทำการบินได้ แต่เสี่ยงเกินไปที่อาจจะถูกลอบโจมตีจากขบวนการก่อความไม่สงบ ที่อาจมีอาวุธยิงที่ร้ายแรงก็ตาม นอกจากนี้ มีที่นั่งแค่ 1 ที่นั่ง ไม่มีห้องโดยสารสำหรับลูกเรือ จากเดิมที่ ทบ.ตั้งไว้ 2 - 4 คน ”แหล่งข่าวกล่าว

http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=435805

---------------------------------------------------------

ของไม่ดียังคิดที่จะเร่งให้ตรวจรับผ่านให้ได้
จนลูกน้องกลัวติดคุก
ได้ประกาศลาออกจากคณะกรรมการตรวจรับ

ซึ่งก็เดาไม่ยาก
คงมีคนอยากให้ผ่านแต่มันผิดสเป็คบาน
ไม่รู้จะหลับหูหลับตาช่วยกันยังไง
ลูกน้องอายกลัวความผิดขอลาออกจากคณะกรรมการตรวจรับ
ยังแกล้งไม่ให้ลาออกอีก
กะให้เป็นตรายางตรวจรับให้ผ่านหรือยังไง
เข้าใจว่าคงโดนดองไม่โตในหน้าที่แน่ๆ
ตามแบบฉบับข้าราชการไทย
เพราะตามน้ำไม่เป็น


ขนาดซื้อรถราคาไม่กี่แสนบาท
ไม่ถูกสเป็ค ใช้งานไม่ได้ มีรอยขีดข่วน
มีใครยอมรับรถใหม่คันนั้นได้บ้าง
แต่นี่ราคาหลายร้อยล้านบาท
จะต้องยอมทุกอย่าง จะต้องรับทุกอย่างเลยหรือ
ของใหม่พึ่งซื้อใช้ไม่ได้ ยังไม่คิดที่จะเปลี่ยนใหม่
แถมยังคิดที่จะซ่อมเอามาใช้งานอีก เฮ้อ
แต่ถึงแม้จะทำอะไรยังไงไม่ถูกก็ตาม
เชื่อได้ว่ายังไงก็ไม่ผิด
เพราะเส้นใหญ่ทำอะไรก็ไม่ผิด
ประกาศิตพิเศษประเทศนี้

ตอนมาใหม่ๆ
เขาลือกันว่าลอยไม่ขึ้น
ก็สร้างภาพทดสอบว่าลอยขึ้น
แถมโม้โอ้อวดสรรพคุณไว้เพียบ
แล้วตอนนี้เป็นยังไง
แถมออกมาอีกแหล่ะ มิสเตอร์การันตี
งวดที่แล้วดาหน้าออกมาการันตี GT 200
จนหน้าแหกมาแล้ว
และล่าสุดคนจากหว้ากอนำเครื่อง GT200
ไปเข้าเครื่องสแกนในคลีนิคเอกชน
ผลออกมาตามคาดไม่มีแผงวงจรอะไรอยู่ข้างในเลย
http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X8923249/X8923249.html

นี่เอาอีกแล้วออกมาการันตี
ว่าเรือเหาะลำนี้ดีทำงานได้อีกแหล่ะ

ไม่รู้งวดนี้ มิสซิสการันตี หมอพรทิพย์
จะออกมารับประกันด้วยอีกคนหรือเปล่า
ว่าเรือเหาะลำนี้สุดยอดดดดดดดดดดด
คงได้ฮากันน่าดู

การซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์
เพื่อให้ลูกน้อง
ที่เสี่ยงตายทำงานในแนวหน้าได้ใช้งาน
แต่กลับได้ของใช้งานไม่ได้บ้าง ไม่ดีบ้าง
ไม่ว่าด้วยสาเหตุใดๆ
ก็ถือว่าแย่พอแล้วสำหรับคนเป็นเจ้านาย
ไม่ต้องพูดถึงเรื่องรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ อะไร
ที่ชอบท่องๆ ให้ฟังอยู่บ่อยๆ
เพราะการกระทำมันฟ้องได้อย่างดีว่า
เป็นอย่างที่ท่องๆ กันไหม
ถ้าลองหลับตานึกถึงสภาพสงครามสมัยก่อน
อาจเห็นภาพ
ได้ชัดเจนขึ้นว่า
การจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ที่แย่ ไม่ดี ใช้งานไม่ได้
มันเหมือนช่วยให้ข้าศึกตีเมืองได้ง่ายขึ้นไหม

แค่เรื่องง่ายๆ
เช่นการซื้ออาวุธ
ยังทำให้ดีไม่ได้
ซื้อมาแต่ละอย่างใช้ไม่ได้บ้าง รั่วบ้าง โดนหลอกบ้าง
แถมไม่คุ้มค่าเงินอีกต่างหาก
ทั้ง GT200 เอย ทั้งเรือเหาะเอย
แล้วเรื่องยากๆ
ที่จะต้องนำอาวุธยุทโธปกรณ์เหล่านี้ไปใช้งาน
จะทำได้ดีได้อย่างไร
ไม่ต้องพูดถึงเรื่องการนำไปใช้ในยามศึกสงคราม
หลับตานึกแล้วรู้สึกวังเวงจริงๆ ประเทศไทย เฮ้อ

โดย มาหาอะไร
FfF