วันนี้ผมได้ฟังการปราศรัยของใครต่อใครหลายๆ คน
โดยเฉพาะสองนักพูดแห่งยุคนี้ คือ จตุพร กับ ณัฐวุฒิ
ผมไม่สงสัยถึงความสามารถในการปราศรัยปลุกระดมเลย
แต่ผมชมคนไม่เก่งเอาเป็นว่า
เป็นยอดฝีมือด้านการปราศรัยแห่งยุคแล้วกัน
เพียงพบว่าการปราศรัยเรื่องชนชั้น อำมาตย์ ไพร่ นั่นนี่ก็ดี
หรือประชาธิปไตยที่แท้จริงอะไรก็ดี
ไม่สัมพันธ์กับข้อเรียกร้องให้อภิสิทธิ์ยุบสภา
และแม้แต่ป้ายบนเวทีที่มีคำว่า โค่นอำมาตย์
ก็ไม่สัมพันธ์กับข้อเรียกร้องให้อภิสิทธิ์ยุบสภา
ยิ่งถ้าใครต่อใครไม่ว่าในหรือนอกประเทศนี้
ที่ไม่มีโอกาสได้ฟังการปราศรัยอธิบายความคำว่าอำมาตย์
อาจจะเข้าใจผิดๆ ได้ว่า แท้ที่จริงแล้วคำว่า อำมาตย์
ในความหมายของม็อบเสื้อแดงตอนนี้
ก็คือนายอภิสิทธิ์ ที่กำลังดำรงตำแหน่งนายกตอนนี้
หรือตำแหน่งนายกคืออำมาตย์เพราะว่าต้องการโค่นอำมาตย์
แล้วมีข้อเรียกร้องคือให้ยุบภาเลือกตั้งใหม่
ก็แสดงว่าอำมาตย์ก็คือนายกตอนนี้นี่เอง
แล้ววันข้างหน้าก็อาจโดนฝ่ายตรงข้าม
ออกมาขับไล่โค่นอำมาตย์เหมือนกัน
เมื่อวันที่พรรคพวกที่คนเสื้อแดงเชียร์ ได้เป็นนายกรัฐมนตรี
ก็จะเป็นสงครามชนชั้นไม่สิ้นสุดไม่มีจุดจบ
ถ้าคำว่าชนชั้นอำมาตย์หมายถึงนายกรัฐมนตรี
ตามข้อเรียกร้องที่ต้องการโค่นอำมาตย์ โดยให้ยุบสภา
แต่ถ้าคนได้ฟังการปราศรัยแล้วยังไม่ตัดสินใจไปชุมนุม
แต่ใจรักประชาธิปไตย ฟังข้อเรียกร้องแล้วคิดไตร่ตรอง
ก็จะพบว่า การเรียกร้องให้นายกลาออกเพื่อเลือกตั้งใหม่นั้น
แค่นอนอยู่บ้านเฉยๆ เดี๋ยวก็ได้เลือกตั้งเหมือนกัน
หรือนายกที่ตนเชียร์ลาออกแล้วเดี๋ยวเลือกตั้งใหม่
พรรคที่หนุนเสื้อแดงตอนนี้ก็มีโอกาสชนะจะออกมาทำไม
จะบอกว่าให้ออกมาเพื่ออนาคตลูกหลานก็ไม่น่าจะใช่
ถ้าจะให้ทำเพื่ออนาคตลูกหลานจริงๆ
มันต้องเรียกร้องให้แก้ปัญหาที่ปราศรัยกันอยู่นั่นแหล่ะ
เช่นเรื่องรัฐธรรมนูญ องค์กรที่ไม่อิสระ หรืออำมาตย์ให้ลาออก
หรือยกเลิกระบบอำมาตย์อะไรแบบนี้
แบบนี้สิต่อให้เชียร์พรรคหนึ่งก็น่าออกมาช่วย
หรือต่อให้เชียร์พรรคพวกเดียวกันก็น่ายิ่งออกมาช่วย
เพราะนอนอยู่กับบ้านเฉยๆ ไม่ได้สิ่งที่ว่าแน่ๆ
จะเห็นได้ว่าข้อเรียกร้องมีผลอย่างมากต่อการตัดสินใจ
แล้วทำไมถึงเรียกร้องแค่ให้นายกยุบสภาเลือกตั้งใหม่
ทำไมไม่คิดเสนอข้อเรียกร้องอย่างที่ว่า
หรืออย่างที่นำมาปราศรัยกันแทบทุกคน
เพื่อให้ผู้คนที่เห็นด้วยมาร่วมด้วย
เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศกันจริงๆ
ไม่ใช่แค่ขอให้อีกพรรคชนะเลือกตั้งเท่านั้นพอ
แล้วเมื่อไหร่เราจะได้ประชาธิปไตยที่แท้จริง
ถ้าแค่นี้ยังไม่กล้าเรียกร้องกันจริงๆ จังๆ
แล้วคิดหรือว่ามาเป็นรัฐบาลจะกล้าทำอะไร
แล้วจะทำเพื่อลูกเพื่อหลานได้ยังไง
ถ้าแค่ต้องการให้เลือกตั้งใหม่
แล้วจะเป็นสงครามครั้งสุดท้ายได้ยังไง
ถ้าข้อเรียกร้องแค่นี้
แล้วที่เหลือที่มีปัญหาไว้สู้สงครามครั้งไหนต่อไปหรือ
แล้วจะบอกใครต่อใครให้เชื่อได้ยังไงว่า
ถ้าเป็นนักประชาธิปไตยต้องออกมาช่วยกัน
เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภาแค่นี่
แล้วพรรคพวกที่เคยร่วมสู้มาด้วยกัน
ยังโดนถีบออกมาโดยข้อหาที่ฝ่ายตรงข้ามยัดเยียดให้
แล้วนำมาเป็นข้ออ้างในการถีบคนที่เคยสู้มาด้วยกันให้พ้นทาง
แล้วจะเรียกร้องให้พวกอื่นสีอื่นมาร่วมได้ง่ายๆ ยังไง
แล้วต้องเชื่อเรื่องที่เขากล่าวหาทักษิณต่างๆ นาๆ ด้วยไหม
สุดท้ายแล้วอำมาตย์ใหญ่เขาจะสะเทือนหรือสนใจอะไร
กับข้อเรียกร้องที่ไม่กระทบอะไรกับพวกเขาเลย
ทั้งๆ ที่เวลาคนปราศรัยถึงอำมาตย์ใหญ่มวลชนก็ตอบสนองด้วยดี
แล้วทำไมข้อเรียกร้องถึงไม่มีอะไรเกี่ยวกับพวกอำมาตย์ใหญ่เลยสักข้อ
ทั้งๆ ที่ ถ้ามีข้อเรียกร้องเกี่ยวกับอำมาตย์ใหญ่
แล้วมีคนออกมาร่วมชุมนุมแสดงพลังมากมาย
มันจะส่งผลทำให้อำมาตย์ใหญ่สะเทือน
คล้ายๆ เกิดสึนามิ ในไทย จนทั่วโลกตื่นตะลึงมากกว่านี้
ที่อาจเฉยๆ หรือประหลาดใจที่รัฐบาลไทยโดนคนออกมาไล่เยอะ
สรุปมันจะเข้าตำรา "พูดอย่างทำอีกอย่าง" หรือไม่
โดย มาหาอะไร
FfF
บันทึกเรื่องราว สืบสาวความจริง ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน.
Save the stories. Investigate the truth. Give to the next generation.