บันทึกเรื่องราว สืบสาวความจริง ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน.
Save the stories. Investigate the truth. Give to the next generation.


21 มีนาคม 2553

<<< ถ้าข้อเรียกร้องไม่สัมพันธ์กับการปราศรัย ก็เหมือนกับพูดอย่างทำอีกอย่าง >>>

วันนี้ผมได้ฟังการปราศรัยของใครต่อใครหลายๆ คน
โดยเฉพาะสองนักพูดแห่งยุคนี้ คือ จตุพร กับ ณัฐวุฒิ
ผมไม่สงสัยถึงความสามารถในการปราศรัยปลุกระดมเลย
แต่ผมชมคนไม่เก่งเอาเป็นว่า
เป็นยอดฝีมือด้านการปราศรัยแห่งยุคแล้วกัน
เพียงพบว่าการปราศรัยเรื่องชนชั้น อำมาตย์ ไพร่ นั่นนี่ก็ดี
หรือประชาธิปไตยที่แท้จริงอะไรก็ดี
ไม่สัมพันธ์กับข้อเรียกร้องให้อภิสิทธิ์ยุบสภา
และแม้แต่ป้ายบนเวทีที่มีคำว่า โค่นอำมาตย์
ก็ไม่สัมพันธ์กับข้อเรียกร้องให้อภิสิทธิ์ยุบสภา
ยิ่งถ้าใครต่อใครไม่ว่าในหรือนอกประเทศนี้
ที่ไม่มีโอกาสได้ฟังการปราศรัยอธิบายความคำว่าอำมาตย์
อาจจะเข้าใจผิดๆ ได้ว่า แท้ที่จริงแล้วคำว่า อำมาตย์
ในความหมายของม็อบเสื้อแดงตอนนี้

ก็คือนายอภิสิทธิ์ ที่กำลังดำรงตำแหน่งนายกตอนนี้
หรือตำแหน่งนายกคืออำมาตย์เพราะว่าต้องการโค่นอำมาตย์
แล้วมีข้อเรียกร้องคือให้ยุบภาเลือกตั้งใหม่
ก็แสดงว่าอำมาตย์ก็คือนายกตอนนี้นี่เอง
แล้ววันข้างหน้าก็อาจโดนฝ่ายตรงข้าม
ออกมาขับไล่โค่นอำมาตย์เหมือนกัน
เมื่อวันที่พรรคพวกที่คนเสื้อแดงเชียร์ ได้เป็นนายกรัฐมนตรี
ก็จะเป็นสงครามชนชั้นไม่สิ้นสุดไม่มีจุดจบ
ถ้าคำว่าชนชั้นอำมาตย์หมายถึงนายกรัฐมนตรี
ตามข้อเรียกร้องที่ต้องการโค่นอำมาตย์ โดยให้ยุบสภา

แต่ถ้าคนได้ฟังการปราศรัยแล้วยังไม่ตัดสินใจไปชุมนุม
แต่ใจรักประชาธิปไตย ฟังข้อเรียกร้องแล้วคิดไตร่ตรอง
ก็จะพบว่า การเรียกร้องให้นายกลาออกเพื่อเลือกตั้งใหม่นั้น
แค่นอนอยู่บ้านเฉยๆ เดี๋ยวก็ได้เลือกตั้งเหมือนกัน
หรือนายกที่ตนเชียร์ลาออกแล้วเดี๋ยวเลือกตั้งใหม่
พรรคที่หนุนเสื้อแดงตอนนี้ก็มีโอกาสชนะจะออกมาทำไม
จะบอกว่าให้ออกมาเพื่ออนาคตลูกหลานก็ไม่น่าจะใช่
ถ้าจะให้ทำเพื่ออนาคตลูกหลานจริงๆ
มันต้องเรียกร้องให้แก้ปัญหาที่ปราศรัยกันอยู่นั่นแหล่ะ
เช่นเรื่องรัฐธรรมนูญ องค์กรที่ไม่อิสระ หรืออำมาตย์ให้ลาออก
หรือยกเลิกระบบอำมาตย์อะไรแบบนี้
แบบนี้สิต่อให้เชียร์พรรคหนึ่งก็น่าออกมาช่วย
หรือต่อให้เชียร์พรรคพวกเดียวกันก็น่ายิ่งออกมาช่วย
เพราะนอนอยู่กับบ้านเฉยๆ ไม่ได้สิ่งที่ว่าแน่ๆ

จะเห็นได้ว่าข้อเรียกร้องมีผลอย่างมากต่อการตัดสินใจ
แล้วทำไมถึงเรียกร้องแค่ให้นายกยุบสภาเลือกตั้งใหม่
ทำไมไม่คิดเสนอข้อเรียกร้องอย่างที่ว่า
หรืออย่างที่นำมาปราศรัยกันแทบทุกคน
เพื่อให้ผู้คนที่เห็นด้วยมาร่วมด้วย
เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศกันจริงๆ
ไม่ใช่แค่ขอให้อีกพรรคชนะเลือกตั้งเท่านั้นพอ

แล้วเมื่อไหร่เราจะได้ประชาธิปไตยที่แท้จริง
ถ้าแค่นี้ยังไม่กล้าเรียกร้องกันจริงๆ จังๆ
แล้วคิดหรือว่ามาเป็นรัฐบาลจะกล้าทำอะไร
แล้วจะทำเพื่อลูกเพื่อหลานได้ยังไง
ถ้าแค่ต้องการให้เลือกตั้งใหม่
แล้วจะเป็นสงครามครั้งสุดท้ายได้ยังไง
ถ้าข้อเรียกร้องแค่นี้
แล้วที่เหลือที่มีปัญหาไว้สู้สงครามครั้งไหนต่อไปหรือ
แล้วจะบอกใครต่อใครให้เชื่อได้ยังไงว่า
ถ้าเป็นนักประชาธิปไตยต้องออกมาช่วยกัน
เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภาแค่นี่
แล้วพรรคพวกที่เคยร่วมสู้มาด้วยกัน
ยังโดนถีบออกมาโดยข้อหาที่ฝ่ายตรงข้ามยัดเยียดให้
แล้วนำมาเป็นข้ออ้างในการถีบคนที่เคยสู้มาด้วยกันให้พ้นทาง
แล้วจะเรียกร้องให้พวกอื่นสีอื่นมาร่วมได้ง่ายๆ ยังไง
แล้วต้องเชื่อเรื่องที่เขากล่าวหาทักษิณต่างๆ นาๆ ด้วยไหม
สุดท้ายแล้วอำมาตย์ใหญ่เขาจะสะเทือนหรือสนใจอะไร
กับข้อเรียกร้องที่ไม่กระทบอะไรกับพวกเขาเลย
ทั้งๆ ที่เวลาคนปราศรัยถึงอำมาตย์ใหญ่มวลชนก็ตอบสนองด้วยดี
แล้วทำไมข้อเรียกร้องถึงไม่มีอะไรเกี่ยวกับพวกอำมาตย์ใหญ่เลยสักข้อ
ทั้งๆ ที่ ถ้ามีข้อเรียกร้องเกี่ยวกับอำมาตย์ใหญ่
แล้วมีคนออกมาร่วมชุมนุมแสดงพลังมากมาย
มันจะส่งผลทำให้อำมาตย์ใหญ่สะเทือน
คล้ายๆ เกิดสึนามิ ในไทย จนทั่วโลกตื่นตะลึงมากกว่านี้
ที่อาจเฉยๆ หรือประหลาดใจที่รัฐบาลไทยโดนคนออกมาไล่เยอะ

สรุปมันจะเข้าตำรา "พูดอย่างทำอีกอย่าง" หรือไม่

โดย มาหาอะไร
FfF