เมื่อ วันที่ 6 พ.ค.ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. แถลงภายหลังการประชุม กกต. ว่า ที่ประชุมได้มีมติเอกฉันท์เห็นตามที่อนุกรรมการไต่สวนเสนอให้ยกคำร้องกรณี นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา และนายคารม พลทะกลาง ร้องขอสอบนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย กระทำการมอบเงินสงเคราะห์ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และผ้าห่มให้กับ ประชากรที่มีรายได้น้อย โดยใช้บ้านพักเป็นสถานที่จัดมอบ และเห็นว่าไม่ปรากฏหลักฐานเหตุผลเพียงที่นายบุญจงใช้ตำแหน่ง ส.ส. และตำแหน่ง รมช.มหาดไทย เข้าไปก้าวก่ายแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ราชการเพื่อประโยชน์ ของตน ของผู้อื่น ของพรรคการเมืองไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม อันเป็นการกระทำต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ
การที่นายบุญ จงต้องไปแจกเงินที่บ้านพักก็เพราะว่าหอประชุมที่ว่าการอำเภอโชค ชัยไม่ว่าง เนื่องจากกลุ่มแม่บ้านได้ขอเพื่อใช้ซ้อมรำบวงสรวงท้าวสุรนารี คาดว่าวันดังกล่าวประชาชนจะเดินทางมาแสดงความยินดีกับนายบุญจงที่เพิ่งรับ ตำแหน่ง รมช.มหาดไทย จำนวนมาก ทำให้นายอำเภอโชคชัย ซึ่งเป็นพยานชี้แจงว่า ทำให้ต้องจัดหาสถานที่ใหม่ และที่เลือกบ้านพักของนายบุญจงนั้น เป็นการตัดสินใจของตนเอง นายบุญจงจึงไม่ได้เข้ามายุ่งเกี่ยวหรือสั่งการ อีกทั้งระเบียบว่าด้วยการสงเคราะห์ของกรมประชาสงเคราะห์ไม่ได้กำหนดสถานที่ การจ่ายเงินเป็นการเฉพาะ โดยให้เป็นความสะดวกของเจ้าหน้าที่และประชาชน เพียงแต่ให้การจ่ายจะต้องมีเจ้าหน้าที่คอยดูแล
เลขาธิการ กกต. กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีการแนบนามบัตรนั้นเห็นว่าไม่อาจฟังได้ ว่านายบุญจงแนบนามบัตรของตนไปพร้อม กับผ้าห่มและเงิน และไม่อาจฟังได้ว่าทำให้ประชาชนเข้าใจผิดว่าเงินดังกล่าวเป็นของนายบุญจง หรือใช้อำนาจหน้าที่จัดสรรเงินมาให้ประชาชน ซึ่งผ้าห่มที่แจกที่ นายจุมพฏ บุญ ใหญ่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย อ้างว่าเป็นของราชการ เพราะได้มีรถปิกอัพขนผ้าห่มดังกล่าวเข้ามา ในบ้านพักนายบุญจงนั้น จากการสอบสวนนายบุญจงชี้แจงว่า ผ้าห่มดังกล่าวได้จัดซื้อจากราษฎร ต.บ้านหนองยาลัด โดยอ้างภาพถ่าย ข้อเท็จจริง
จึงน่าเชื่อว่าผ้าห่ม ดังกล่าวนายบุญจงใช้เงินส่วนตัวจัดหามา ไม่ได้เป็นผ้าห่มของราชการตามที่มีการกล่าวอ้าง ซึ่งกรณีนี้ยังไม่อาจถือว่าเป็นการแจกทรัพย์สินที่เข้าข่ายจูงใจเพื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนเลือกตั้งให้ ตนตามมาตรา 53 ของ พ.ร.บ.เลือกตั้ง ส.ส. และ ส.ว. เพราะขณะนั้นการเลือกตั้งเพิ่งจะเสร็จสิ้นไปและยังไม่มีการประกาศให้มีการ เลือกตั้งใหม่ นอกจากนี้วันเวลาที่มีการมอบเงินก็ยังไม่มีการประกาศของ กกต. ให้มีการเลือกตั้ง ส.ส. หรือการเลือกตั้งใด ๆ การให้สิ่งของของนายบุญจงจึงไม่เข้าข่ายความผิดดังกล่าว
ขอบ คุณเนื้อหาข่าวจาก เดลินิวส์
http://news.mthai.com/politics-news/28316.html
กกต.มีมติเอกฉันท์ยกคำร้องคดี บุญจง แจกเงิน
กกต. 6 พ.ค. – กกต.มีมติเอกฉันท์ยกคำร้องคดี “บุญจง วงศ์ไตรรัตน์” แจกเงินพร้อมนามบัตร หลังตรวจสอบไม่พบหลักฐานเพียงพอว่าใช้สถานะ ส.ส.หรือรัฐมนตรีเข้าแทรกแซงหน่วยงานรัฐ
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงภายหลังการประชุม กกต. ว่า ที่ประชุมได้พิจารณากรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา และนายคารม พลทะกลาง
ร้องให้ กกต.ตรวจสอบกรณีการแจกเงินพร้อมผ้าห่มและนามบัตร ของนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่บ้านพัก อ.ด่านเกวียน จ.นครราชสีมา โดยที่ประชุม กกต.มีมติเป็นเอกฉันท์ เห็นควรยกคำร้องตามผลการสอบสวนของคณะกรรมการไต่สวนฯ หลังจากพบว่าการมอบเงินสงเคราะห์ของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของ มนุษย์ ไม่มีหลักฐานเพียงพอว่าใช้สถานะ ส.ส.หรือรัฐมนตรีเข้าไปแทรกแซงหน่วยงานรัฐ การนำเงินของกระทรวงพัฒนาสังคมฯ ไปแจก ซึ่งเป็นเงินที่ส่วนราชการได้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ปกติ และมีการอนุมัติงบประมาณดังกล่าวก่อนที่นายบุญจงได้รับตำแหน่ง
นายสุทธิพล กล่าวด้วยว่า การเปลี่ยนสถานที่แจก จากหอประชุมอำเภอ ไปจัดที่บ้านพักนายบุญจง เนื่องจากหอประชุมไม่ว่าง ต้องใช้ซ้อมรำบวงสรวง
การ ย้ายสถานที่ไปยังบ้านพักนายบุญจงยังทำให้ระยะทางที่ชาวบ้านจะต้องเดินทางมา รับใกล้กว่าเดิม ผ้าห่มที่นำมาแจกก็เป็นการ ใช้เงินส่วนตัว ไม่ใช่งบฯ ของทางราชการ และในการสอบสวนยังพบว่าไม่ได้เป็นการจูงใจให้ลงคะแนน เพราะเพิ่งเลือกตั้งเสร็จสิ้น และ กกต.ยังไม่ได้สั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ ประกอบกับการแจกเงิน และสิ่งของ ไม่ได้พบว่ามีการพูดจูงใจให้ประชาชนไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย และในนามบัตรไม่พบสัญลักษณ์พรรคภูมิใจไทย หรือระบุตำแหน่งรัฐมนตรี
นายสุทธิพล กล่าวอีกว่า ในการพิจารณาดังกล่าวของ กกต.ไม่ถือว่าเป็นบรรทัดฐานที่จะเปิดโอกาสให้รัฐมนตรีแจกสิ่งของได้ เพราะต้องพิจารณาเป็นกรณี ๆ ไป ซึ่ง กกต.ดูตามกฎหมายและความเหมาะสม
เลขาธิการ กกต. แถลงด้วยว่า ที่ประชุม กกต.เสียงข้างมาก ยังมีมติยกคำร้องกรณีนายสงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูน ร้องเรียนว่า 22 ส.ว.แทรกแซงการปฏิบัติราชการ หรือการดำเนินงานตำแหน่งประจำของข้าราชการ
ในกรณีมี หนังสือขอให้อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ห้ามการถ่ายทอดรายการความจริงวันนี้ โดยที่ประชุมเห็นควรให้ยกคำร้อง เพราะการดำเนินการดังกล่าวของ 22 ส.ว.ไม่ถือว่าเป็นความผิด หรือขัดต่อรัฐธรรมนูญ นาย สุทธิพล กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ที่ ประชุม กกต.ยังได้อนุมัติขยายเวลากรณีที่คณะอนุกรรมการไต่สวนขอขยายเวลาการสอบสวนคำ ร้องยุบพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากผู้ร้องได้ยื่นเอกสารเพิ่ม โดยให้ขยายเวลาออกไป 15 วันนับตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2552 ซึ่งจะครบในวันที่ 15 พฤษภาคม 2552.-สำนักข่าวไทย
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:"ข่าวเข้ม ฉับไว เป็นกลาง" MCOT.NET
http://tnews.teenee.com/politic/35706.html
---------------------------------------------------------------
จับพิรุธ คำชี้แจง กกต.หตุไม่แจก ใบแดง-ดองดำเนินคดีอาญา "บุญจง วงศ์ไตรรัตน์" ชัวร์หรือมั่วนิ่ม?
| |||
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน http://tnews.teenee.com/politic/31909.html |
ปธ.กกต.ลั่นคดี บุญจง แจกเงินฯให้เวลาอนุฯสอบ30วัน
ปธ.กก ต. ลั่นคดี บุญจง แจกเงินแนบนามบัตร ให้เวลาอนุกรรมการสอบฯแค่ 30 วันเท่านั้น เผยไม่หนักใจดำเนินคดี สุเทพ ระบุไม่คำนึงว่าเป็นผู้ที่มีอำนาจและมาจากพรรคการเมืองใด ขอดูที่กม.อย่างเดียว ชี้กำลังเร่งปรับปรุงการทำงาน
(4ก.พ.) นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กล่าวถึงการร้องเรียนให้ตรวจสอบนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมว.กระทรวงมหาดไทย กรณีแจกเงินพร้อมนามบัตร ว่า ได้สั่งตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ซึ่งคงต้องรอทางคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน โดยเบื้องต้นให้เวลา 30 วัน และคงไม่ขยายเวลาอีก ตนยืนยันกรณีดังกล่าวกกต.จะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา โดยไม่สนใจว่ามาจากฝ่ายไหน
นายอภิชาต ยังกล่าวถึงการดำเนินคดีอาญากับนาย สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี นั้น ว่า ทางสำนักวินิจฉัยและคดีได้ยกร่างสำนวนดังกล่าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว และกก ต.ได้ลงนามเรียบร้อยแล้ว พร้อมส่งยื่นฟ้องต่อศาลภายในสัปดาห์นี้ ยืนยันไม่หนักใจในการพิจารณาสำนวนดังกล่าว เพราะกกต.ไม่ ได้คำนึงว่าเป็นผู้มีอำนาจจะมาจากพรรคการเมืองใด และกกต.ไม่ สนใจตัวบุคคล เราดูในเนื้อหาว่าถ้ากระทำอย่างนี้แล้วผลจะเป็นอย่างไร จะผิดกฎหมายหรือไม่อย่างไร
นายอภิชาต ยอมรับว่าการทำงานของกกต.มีขั้นตอนที่ล่าช้าไปบ้าง ซึ่งตนก็พยายามเร่งรัดการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ผ่านมาตนมักจะพูดในที่ประชุมเสมอว่าได้รับหนังสือร้องเรียนให้เร่งการทำ งานมาโดยตลอด บางทีตนก็เรียกสำนวนที่ถูกร้องเข้ามาตรวจดูก็พบว่า กกต.เคยมีมติไปหลายเดือนแล้วก็ได้แต่เร่งรัดเจ้าหน้าที่ และถ้ามีการประพฤติมิชอบก็ลงโทษตามกฎระเบียบ อย่างไรก็ตามกกต.พยายามปรับปรุงการทำงาน เช่น การเปิดเผยผลคำวินิจฉัยทางอินเตอร์เน็ตของทางราชการ
"อยากฝากถึงประชาชนว่ากกต.พยายามทำงานให้รวดเร็ว และโปร่งใส ซึ่งก็ย้ำกับเจ้าหน้าที่ให้ระมัดระวังการทำงานในทุกขั้นตอน เพราะหน้าที่ตรงนี้ หากช้าเกินไปก็อาจถูกมองว่าให้ความช่วยเหลือ ทางที่ดีที่สุดคือทำให้เร็วโปร่งใส ทั้งนี้กกต.พร้อมให้ผู้ที่สงสัยในการทำหน้าที่ของ กกต. สามารถยื่นตรวจสอบได้ เพราะเรามั่นใจในการทำงานที่โปร่งใส สุจริต"ประธานกกต.กล่าว
ด้านนายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. กล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โฟนอินปลุกระดมในการสัมมนา ส.ส.พรรคเพื่อไทย ว่า สิ่งที่กกต.ดำเนิน การ ต้องทำด้วยความระมัดระวัง เพราะทุกคนมีสิทธิเสรีภาพที่จะแสดงความคิดเห็นได้ตามรัฐธรรมนูญ แต่ต้องไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น อย่างไรก็ตามในส่วนของกกต.หาก มีการร้องเรียนเข้ามา ก็มีหน้าที่ต้องไปตรวจสอบดูว่า กรณีดังกล่าวเข้าข่ายขัดต่อพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองหรือ ไม่ อย่างไรก็ตามทุกเรื่องเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน เราก็ไม่อยากให้การเมืองใช้กกต.เป็นเครื่องมือ หรือทำให้กกต.ถูก มองว่าไปฟาดฟันกับทางการเมืองฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพื่อผลประโยชน์ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ตรงนี้กกต.ให้ความระมัดระวังอย่างยิ่ง ที่จะปฏิบัติงานอย่างสุดจริตโปร่งใส
http://news.sanook.com/ปธ.กกต.ลั่นคดี-บุญจง-แจกเงินฯให้เวลาอนุฯสอบ30วัน-205612.html
กกต.แจกใบแดงสรชาผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 สมุทรปราการ ปชป.
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 10 กุมภาพันธ์ 2552 18:48:06 น.
ที่ประชุมคณะ กรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) มีมติให้จัดการเลือกตั้งใหม่ในพื้นที่เขต 1 จังหวัดสมุทรปราการ พร้อมให้ใบแดง น.ส.สรชา วีรชาติวัฒนา ผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ หลังสอบสวนพบแจกเงินพร้อมนามบัตรซื้อเสียง โดยเตรียมส่งสำนวนให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาเห็นชอบ พร้อมประกาศรับรองอีก 6 ส.ส.
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต.เปิดเผยว่า ที่ประชุม กกต.มีมติเอกฉันท์ให้งดประกาศผลการเลือกตั้ง ส.ส.สมุทรปราการ เขต 1 และให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง น.ส.สรชา วีรชาติวัฒนา ผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากให้หัวคะแนนแจกเงินซื้อเสียง พร้อมด้วยแนบนามบัตร ซึ่งผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว.มาตรา 53, 55 และ 57 รวมทั้งสั่งให้มีการเลือกตั้งในพื้นที่เลือกตั้งดังกล่าวใหม่
นอกจากนี้ ยังให้ผู้ถูกเพิกถอนสิทธิชดใช้ค่าเสียหายในการจัดการเลือกตั้งใหม่ รวมทั้งให้ดำเนินคดีอาญากับ น.ส.สรชา และ นายชินโชติ หรือประเทือง แสงสังข์
ทั้งนี้ กกต.จะส่งสำนวนให้คณะกรรมการกลั่นกรองที่มาจากคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณา ซึ่งหากคณะกรรมการชุดดังกล่าวเห็นต่างกับมติของ กกต.ก็มีสิทธิที่จะยืนยันความเห็นของตนเอง แต่ต้องมีการแสดงเห็นผลประกอบ
เลขาะการ กกต.กล่าวว่า ที่ประชุม กกต.ยังประกาศรับรอง 6 ว่าที่ ส.ส.เนื่องจากครบกำหนด 30 วันตามที่ระเบียบ กกต.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ข้อ 194 ระบุไว้แม้บางคนจะมีเรื่องร้องคัดค้าน โดยรายชื่อของผู้ที่ กกต.ประกาศรับรอง ประกอบด้วย จ.นครพนม เขต 1 นายสุริยา พรหมดี พรรคเพื่อไทย, จ.มหาสารคาม เขต 1 นายขจิต ชัยนิคม พรรคเพื่อไทย,
จ.ร้อยเอ็ด เขต 2 นายปิยะรัช หมื่นแสน พรรคเพื่อไทย, จ.ลำปาง เขต 1 นายสมโภช สายเทพ พรรคเพื่อไทย, จ.ลำพูน เขต 1 นายขยัน วิพรหมชัย พรรคประชาธิปัตย์ และ จ.อุบลราชธานี เขต 2 นายอุดร ทองประเสริฐ พรรคเพื่อแผ่นดิน
--อินโฟเควสท์ โดย รฐฦ/ธนวัฏ/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--
http://www.ryt9.com/s/iq02/519465
---------------------------------------------------------------------
FfF