หลายปีที่ผ่านมาเหมือนว่าเรามีผู้นำแล้ว
เพราะเรามีแกนนำหลากหลายและหลายคนมาก
รวมไปถึงผู้นำตัวจริงที่อยู่นอกประเทศอีก
แต่ทำไมผมยังรู้สึกว่า
เรายังขาดผู้นำในการเปลี่ยนแปลง
ผู้นำในการนำม็อบ ในการปราศรัยอันนี้เราไม่ขาดแล้ว
เผลอๆ จะมีมากเกินไป จนจัดคิวปราศรัยกันไม่ถูก
มีคนพร้อมมานำม็อบ มาเป็นผู้ปราศรัยมากมายไม่ขาดสาย
แต่ยังไม่เห็นแววว่าจะมานำเพื่อการเปลี่ยนแปลงได้ยังไง
เพราะคุณสมบัติต้องมีบารมีพอสมควร
คือมีคนเคารพนับถือและพร้อมจะทำตามจำนวนมาก
ซึ่งคุณสมบัติข้อนี้ พบว่าตอนนี้มีอยู่หลายคน
แต่ส่วนใหญ่อยู่ในคุกกับอยู่นอกประเทศ
นอกจากเรื่องบารมีแล้ว
ยังมีเรื่องความกล้าที่จะมานำเพื่อการเปลี่ยนแปลง
ซึ่งก็พอเห็นแววบางคนแต่พวกเขากลับไม่มีบารมีพอมานำ
มันเลยทำให้ไปไม่ถึงไหน วนเวียนแพ้ชนะแค่ศึกเลือกตั้ง
กับม็อบแสดงพลังในแต่ละครั้ง
ยังไม่เห็นแววว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ได้
ซึ่งการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในระดับที่พอกล้าแสดงออก
ยกตัวอย่างเช่น การต่อต้านพวกทหารสายเผด็จการ
ที่ชอบรับคำสั่งมาไล่ยิงพวกเรา จะต้องไม่ให้ได้ดิบได้ดี
ปรากฏว่ามีข่าวประกาศแต่งตั้งพวกนั้น ให้มียศใหญ่โตขึ้น
กลับไม่มีผู้นำกล้าออกมาต่อต้านอะไร
ทั้งๆ ที่สมัยก่อนหลังพฤษภาทมิฬ
ยังมีการต่อต้าน ชัยณรงค์ หนุนภักดี ซึ่งคั่วตำแหน่ง ผบ.ทบ.
จนสุดท้ายก็ไม่สามารถฝืนกระแสสังคมไปได้
แต่ตอนนี้ที่เห็น เห็นกล้าแตะเฉพาะตำแหน่งนายก กับอำมาตย์บางคน
ซึ่งกรณีพวกอำมาตย์ก็กล้าแค่ด่าไม่กล้าไล่ให้ออกไปเท่าไหร่
ดูจากข้อเรียกร้องครั้งหลังสุด
ส่วนการต่อต้านพวกทหารรับจ้างทำชั่วทำเลว
ไม่ให้ได้ดิบไม่ให้ได้ดี กับไม่มีใครกล้าแตะเท่าไหร่
แค่นี้ก็พอมองเห็นแววแล้วว่า
ยังอีกนานกว่าจะได้ประชาธิปไตยที่แท้จริง
เรายังขาดคนที่มีบารมีและมีความกล้า
พร้อมที่จะลุกขึ้นมาประกาศท้าทายอำนาจไดโนเสาร์เต่าล้านปีจริงๆ
หวังว่าอีกไม่นานจะมีผู้มีบารมีและกล้าพอมานำ
เพื่อการเปลี่ยนแปลงในไม่ช้า
โดยการคัดสรรแบบธรรมชาติ
แต่คิดว่าคงอีกนานพอสมควร
อีกอย่างหนึ่งลักษณะม็อบที่พร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงใดๆ
ที่อาจต้องมีการปะทะ เพราะว่าฝ่ายผู้มีอำนาจต้องสู้สุดใจ
หรือปกป้องป้องกันสถานที่หรือสิ่งสำคัญใดๆ ไว้อย่างเหนี่ยวแน่น
ม็อบสำหรับเรื่องแบบนี้คงไม่ใช่ม็อบมาฟังปราศรัยอย่างเดียว
จะต้องพร้อมเผชิญหน้าด้วยกันเยอะๆ
แบบไม่มีไปหลบในที่ปลอดภัยก่อน
ถ้ายังเป็นแบบนี้ ก็ยังเป็นม็อบลักษณะการหาเสียง
หรือม็อบแสดงพลังอย่างเดียว
แล้วใช้พลังมหาประชาชน
ไปทำให้ฝ่ายตรงข้ามเปลี่ยนแปลงตนเอง
ซึ่งถ้าเจอพวกดื้อรั้นมั่นใจตนเองสูงว่าคนมากมายแค่ไหน
ฉันก็สู้ได้หรือไม่ยี่หระอะไร
ก็คงแสดงพลังอย่างเดียวไม่ได้เรื่องแน่ๆ
ซึ่งม็อบลักษณะนี้มีอยู่แล้ว
แต่น้อยกว่าม็อบที่เหมือนตั้งใจมาฟังปราศรัยเพียงอย่างเดียว
ลองนึกสิ่งที่ตนเองฝันอยากให้เป็น
แล้วลองคิดว่าผู้นำในการเปลี่ยนแปลงไปถึงสิ่งที่ฝันนั้น
สมมุติว่าเป็นคนนั้นเป็นคนนี้ แล้วลองพิจารณาดูว่า
พวกเขาสามารถนำไปได้ถึงสิ่งที่เราฝันไหม
โดยดูวิธีการ ดูหลายๆ อย่างประกอบกัน
แต่ละคนก็น่าจะมีคำตอบในใจตนเอง
ถ้าไม่คิดหลอกตนเองไปวันๆ
แนวทางที่ควรจะเป็น เมื่อรู้ว่าขาดแคลนสิ่งไหน
ก็ควรพยายามทำให้มีสิ่งนั้นๆ เยอะๆ
เผื่อมีโอกาสได้เลือกสรรสิ่งที่ดีที่สุด
ตอนนี้เป็นโอกาสดี ที่แต่ละคนจะสามารถแสดงศักยภาพ
เพื่ออนาคตจะได้มีทางเลือกเยอะๆ
จะได้มีผู้นำที่พร้อมสู้กับฝ่ายตรงข้ามได้
ไม่จำเป็นต้องรอคนนั้นคนนี้โดนจนน่วมก่อน
ถึงคิดจะลุกขึ้นมานำ
กลุ่มเล็กกลุ่มน้อยในเน็ต ในชีวิตจริง
ถนัดแบบไหนแนวไหน ลองทำๆ ดู
ไม่แน่ท่านอาจพบว่าตนเองก็มีศักยภาพพอสมควร
ถ้าวันหนึ่งขาดแคลนผู้นำจริงๆ
เรียกว่าไม่เน้นตามอย่างเดียว
เน้นพัฒนาพร้อมมานำแทนได้ทุกตำแหน่ง
จะว่าไปแล้ว พวกที่มีโอกาส
ได้แสดงการนำก่อนมักจะเสียเปรียบ
ตรงที่ว่าเขาอาจจะไม่รู้ว่าจะโดนอะไรบ้าง
ในขณะผู้มานำทีหลัง
จะเห็นบทเรียนข้อผิดพลาดของผู้นำมาก่อน
และต้องนำไปแก้ไขปรับปรุง
ไม่เช่นนั้นถือว่าแย่กว่าคนนำก่อนหน้า
เพราะว่ารู้แล้วเห็นแล้วยังทำผิดพลาดซ้ำรอยเดิมอีก
ใครที่ตามหลังและกำลังพัฒนาเพื่อมานำต่อไป
ควรจะศึกษาประวัติศาสตร์ในการต่อสู้ครั้งก่อนๆ ด้วย
เพื่อจะได้ไม่พลาดท่าซ้ำรอยเดิม
แต่ถ้ามันจะพลาดท่ารอยใหม่ หรือเรื่องใหม่ๆ
อันนี้พอให้อภัยกันได้
แต่ถ้าพลาดท่าซ้ำรอยเดิมอีก
อันนี้ลำบากใจที่จะอภัยให้จริงๆ
การต่อต้านคนที่จะมาคุมกองทัพจากสายเผด็จการอยู่ตลอดเวลา
เป็นแนวทางในการรุกกลับอย่างต่อเนื่อง
นอกจากจะต่อต้านพวกบริหารบ้านเมืองอย่างเดียว
มันเป็นการจี้ไปที่จุดอ่อน จี้เข้าไปที่กล่องดวงใจของพวกมีอำนาจ
จะหนุนต่อก็หนุนไป เข้าใจว่าคงหนุนกันจนล้มไปด้วยกัน
แต่ว่ามีเรื่องให้รุกกลับ แทนที่จะตั้งรับ
นั่งรอเขาเมตตา ยกเลิก พรก. ฉุกเฉิน
เพื่อจะมาจัดม็อบปราศรัยกันแบบนี้
ดูไปแล้วมีประโยชน์น้อยกว่าการออกมาเรียกร้องกดดัน
กล่องดวงใจของพวกมีอำนาจให้กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
เสียดายว่าผู้นำที่มีบารมีพอมีคนตาม
กลับไม่เล่นเรื่องพวกนี้จริงจัง
นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น
เพื่อกดดันไม่ให้มีพวกรับจ้างฆ่าคน
เพื่อหวังมาเป็นใหญ่เป็นโตในอนาคต
ไม่ใช่บอกว่าจะแก้แค้นแทนคนที่เจ็บตาย
แต่ไม่ทำอะไรกับพวกที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
อย่างน้อยที่สุดคนมารับตำแหน่งหลักในกองทัพ
จะต้องไม่ใช่พวกมือเปื้อนเลือด
ที่สั่งการหรือลงมือจัดการทั้งทางตรงหรือทางอ้อม
กับพี่น้องพวกเราที่ออกมาขอแค่ให้ยุบสภา
ด้วยข้อเรียกร้องที่อ่อนมากๆ ยังงี้
ยังคิดจะจัดการเข่นฆ่า แถมยังอยู่ดีมีสุขกันอีก
จี้ 2 จุดนี้เยอะๆ ต่อเนื่องไปเรื่อยๆ
มันหน้าด้านอยู่ เราก็หน้าด้านไล่ต่อไป
โดย มาหาอะไร
FfF
บันทึกเรื่องราว สืบสาวความจริง ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน.
Save the stories. Investigate the truth. Give to the next generation.