นิติภูมิเขียนหนังสือในราตรีด้วยความมึนนิดหน่อย
เพราะวันนี้เป็นวันที่ผมถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง The Island of the unwanted ได้ 70%
ราตรีนี้ที่สวนนงนุชพัทยาจึงมีงานเลี้ยงที่เป็นชาวรัสเซีย ยูเครน และชาวไทยมากกว่า 150 คน
มาร่วมฉลองแสดงความยินดี ท่านผู้อ่านก็คงจะนึกออกนะครับว่า
ในฐานะผู้บริหารสูงสุดของบริษัท บาลานซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล คอนเน็คชั่นส์ จำกัด นั้น
ผมต้องชนแก้วมากมายนับร้อยแก้ว ทุกแก้วเป็นว้อดก้าทั้งนั้น
วันศุกร์ที่ 20 สิงหาคม 2553 สื่อมวลชนไทยหลายฉบับ
รายงานข่าวเกี่ยวกับ คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เรื่องพระราชบัญญัติส่งผู้ร้ายข้ามแดน
ว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสหรัฐอเมริกา
ควบคุมหรือขังโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ท่านทั้งหลายคงทราบว่า จำเลยในคดีนี้คือ
นาย วิคเตอร์ บูท หรือบอริส หรือวิคเตอร์ บัท หรือวิคเตอร์ บูคาลิน หรือวาดิม มาโควิช อมินอฟ
หลังจากศาลแห่งราชอาณาจักรไทยได้ประกาศคำพิพากษาอย่างเป็นทางการ
ส่วนมากสถานีโทรทัศน์ไทยจะแสดงภาพนายวิคเตอร์ บูท ที่มีสภาพจ๋อยอยู่ในคุกไทย
บางช่องเปิดเผยข้อมูลว่า เขาน้ำหนักลดจาก 120 กิโลกรัม เหลือเพียง 70 กิโลกรัม
ผอมกว่านิติภูมิในขณะนี้เสียอีก
บางสถานีโทรทัศน์ของรัสเซียเผยภาพนายวิคเตอร์ บูท จูบลาเมีย คือนางอัลลา บูท
ก่อนนายบูทจะเดินไปขึ้นรถเรือนจำเพื่อกลับไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เป็นครั้งสุดท้าย
ภาพนี้ประชาชนคนรัสเซีย 148 ล้านคน
และประชาชนคนอีกเกือบถึงหนึ่งพันล้านคนทั่วโลกเห็นแล้วก็ร้องไห้
สถานีโทรทัศน์หลายแห่งของรัสเซีย แปลข่าวจาก
ผู้ประกาศข่าวของสถานีโทรทัศน์ไทยหลายช่อง เช่น โฆษกช่อง 5 บอกว่า
"รู้สึกพอใจเป็นอย่างมากที่ผู้ก่อการร้าย...นานาชาติ อดีตสายลับเคจีบี
พ่อค้าอาวุธที่ใหญ่ที่สุดในโลก นายวิคเตอร์ บูท ถูกส่งกลับไปยังศาลในสหรัฐอเมริกา"
สถานีโทรทัศน์ของไทยหลายช่องเอาภาพเครื่องบิน ILYUSHIN-76
ทะเบียนของสาธารณรัฐจอร์เจีย ซึ่งมีนักบินเป็นชาวคาซัคสถาน ที่ถูกจับในสนามบินดอนเมือง
ในระหว่างการขนอาวุธจากเกาหลี เหนือมาแวะพักที่ประเทศไทย เพื่อจะให้ผู้ชมได้เข้าใจว่า
เครื่องบินดังกล่าวเกี่ยวดองหนองยุ่งกับ นายวิคเตอร์ บูท
คนรัสเซียทั้งประเทศ 148 ล้านคนติดตามข่าวนี้อย่างละเอียด และก็เริ่มสงสัยว่า
ทำไมสถานีโทรทัศน์ 4 ช่องของประเทศไทย จึงเริ่มทำการโจมตีนายวิคเตอร์ บูท
และสหพันธรัฐรัสเซียเหมือนกัน ใช้คำพูดเดียวกัน
ในเวลาเดียวกัน คนรัสเซียและรัฐบาลรัสเซียคิดตรงกันว่า นี่เป็นเรื่องมือที่มองไม่เห็น
ที่ฝากข่าวนี้ไปให้สถานีโทรทัศน์ ของราชอาณาจักรไทย
แต่มือก็เป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย ไอ้คนสั่งนั้นลืมใช้สมอง เพราะคิดว่าผู้ชมชาวไทยนั้นโง่
โดยไม่รู้ว่านายวิคเตอร์ บูท ติดคุกในประเทศไทยมานาน 2 ปีครึ่งแล้ว
และจะไปจัดการกับเครื่องบินขนอาวุธจากเกาหลีเหนือได้อย่างไร
การติดคุกที่แดน8 ของเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ไม่มีทางเลยที่ผู้ติดคุกจะบงการ
เพื่อให้เครื่องบินจากเกาหลีเหนือขนอาวุธมายังประเทศไทย
ผมได้ทราบคำยืนยันจากปากของนายวิคเตอร์ บูท ว่า
ในห้วงช่วงสงกรานต์ มีผู้มาพบนายวิคเตอร์ บูท ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ
และ บอกว่าถ้ายูจะรอดปลอดภัย ยูจะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญ expert ไปให้การในศาลว่า
พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้ทำ operation ดำเนินการทั้งหมดทั้งปวง
ในการขนอาวุธจากเกาหลีเหนือมายังประเทศไทย และอาวุธดังกล่าวจะมาใช้กับพวกเสื้อแดง
นายวิคเตอร์ บูท แกก็งงว่าอะไรคือเสื้อแดง แกก็ปฏิเสธ
เพราะแกไม่ต้องการมาเกี่ยวดองหนองยุ่งกับการเมืองในประเทศอื่น
การรายงานข่าวของสถานีโทรทัศน์ของประเทศไทยถูกนำไปรายงานซ้ำอีกที
ในสถานีโทรทัศน์ของรัสเซีย ทุกคนหัวเราะเยาะ พวกผู้ประกาศโง่ทั้งหลายที่บอกว่า
นายวิคเตอร์ บูท เป็นสายลับเคจีบี
ผู้ประกาศข่าวบางคนทะลึ่งประกาศว่า นายวิคเตอร์ บูท เป็นจำเลยของคดีการค้าอาวุธ
ทั้งๆ ที่ตามความเป็นจริง นายวิคเตอร์ บูท ไม่เคยได้รับการตัดสินลงโทษในศาลใดๆ ในโลกนี้
และแม้แต่ตามกฎหมายของสหรัฐอเมริกาเองก็ยังถือว่า
นายวิคเตอร์ บูท เป็นแค่ผู้ต้องหา มิใช่นักโทษ
นายดักลัส ฟาราห์ ไอ้คนแรกในโลกนี้ที่หากินกับการเขียนหนังสือนิยายเรื่อง
Merchant of Death มันยังเขียนในหนังสือของมันเลยว่า
นายวิคเตอร์ บูท นั้นเป็นแค่ล่ามแปลภาษาของทหาร มียศกระจอกงอกง่อยเพียงแค่ร้อยโท
ก่อนจะลาออกจากทหารมาทำธุรกิจการขนส่งทางอากาศ
นิติ ภูมิผู้อ่านหนังสือเรื่อง Merchant of Death ขอเรียนกับผู้อ่านท่านที่เคารพว่า
อันนี้เป็นเพียงความเป็นจริงสิ่งเดียวในหนังสือดังกล่าว
นอกนั้นมันแต่งขึ้นมาทั้งหมด แต่งเป็นนิยายให้ดูตื่นเต้น ให้มันขายได้
แต่หนังสือบ้านี่ บั้นปลายท้ายต่อมา ดันทะลึ่งขายดี
ก็เลยสร้างภาพพจน์ให้นายวิคเตอร์ บูท เป็นผู้ร้ายระดับโลก
ผู้อ่าน ท่านผู้เจริญ พรุ่งนี้มาว่ากันต่อครับ วันนี้นิทราราตรีสวัสดิ์ ลาไปก่อนครับ ลาไปแล้วนะครับ.
นิติภูมิ นวรัตน์
http://www.thairath.co.th/column/oversea...sky/105603
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
วิคเตอร์ บูท (2) โดย นิติภูมิ นวรัตน์
ใครที่คิดว่าอเมริกาจะช่วยตนและพวกให้พ้นข้อหาอาชญากรรมระหว่างประเทศ
โดยการเอาคดีความบางเรื่องเข้าแลก ก็อย่าหวังว่าอเมริกาจะจริงใจนะครับ
ชีวิตมนุษย์จำนวน 91 คน ที่ต้องตายวายชีวันจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง
ในอนาคตอาจนำความยุ่งยากมาสู่ผู้คนบางกลุ่มด้วยการจะต้องถูกฟ้องร้องของคดี สังหารหมู่
คดีการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ คดีทำร้ายพลเรือน ฯลฯ
เรื่องการรับโทษทัณฑ์เป็นเรื่องในอนาคต ยังไม่มีอะไรจริงแท้แน่นอน
แต่ข่าวที่จะเป็นของแท้แน่ชัดก็คือ
บริษัทไทยที่เกี่ยวดองหนองยุ่งกับเรื่องท่องเที่ยวเตรียมรับความหายนะได้
วันที่ผมเขียนต้นฉบับอยู่นี้
มีข่าวจากกรุงมอสโก ความว่า ส.ส.ซิรินอฟสกี รองประธานสภาดูมาของรัสเซีย
ซึ่งเป็นมหาบัณฑิตจากสถาบันเอเชียและแอฟริกาศึกษา แห่งมหาวิทยาลัยมอสโก ประกาศว่า
จะบอยคอตการท่องเที่ยวไทย
คนไทยครอบครัวไหนเคยมีอาหารอิ่มท้องเพราะนักท่องเที่ยวรัสเซียมาใช้บริการ
ก็เตรียมทำใจไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ พร้อมทั้งต้องลองออกไปหาอาชีพเสริมทำ
ผู้อ่านท่านผู้เจริญ
ศาลอาญาซึ่งเป็นศาลชั้นต้นพิพากษาเมื่อ 11 สิงหาคม 2552 ปฏิเสธคำร้องของสหรัฐอเมริกา
ในการส่งนายวิคเตอร์ บูท เป็นผู้ร้ายข้ามแดน โดยให้เหตุผลว่า ลักษณะนี้เป็นคดีการเมือง
และเป็นคดีที่ศาลไทยพิจารณาไม่ได้
เพราะข้อกล่าวหาของสหรัฐอเมริกาไม่ตรงกับมาตราใดๆ ของศาลไทยเลย
วันเดียวกันนั้น พนักงานอัยการอุทธรณ์คำสั่งและคำพิพากษาศาลอาญา
ศาลอุทธรณ์รับไว้เมื่อ 10 พฤศจิกายน 2552
และศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ขังนายวิคเตอร์ บูท ไว้
เพื่อส่งตัวข้ามแดนไปยังสหรัฐฯ เมื่อ 24 พฤษภาคม 2553
แต่สังคมภายนอกรู้คำพิพากษาพร้อมกันทั่วโลกเมื่อ 20 สิงหาคม 2553
แสดงว่าคำพิพากษามีก่อนหน้าที่ประกาศจริงถึง 2 เดือน 27 วัน
ในห้วงช่วง 3 เดือนที่ว่านี้ นายกษิต ภิรมย์ เดินทางไปกรุงมอสโก
เพื่อคุยกับกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียหลายเรื่องรวมทั้งเรื่องของนายบูทด้วย
แถมนายกษิตเองก็พบกับนายเซรเกย์ ลาฟรอฟ รมว.ต่างประเทศของรัสเซีย
ที่กรุงฮานอยเมืองหลวงของเวียดนาม
เมื่อออกมาจากห้องสนทนา นายลาฟรอฟ บอกกับคนที่นั่งคอยอยู่หน้าห้องว่า
"รัฐมนตรีต่างประเทศของไทยเริ่มพูดถึงกรณีของนายบูทก่อน..."
เรื่องที่นายกษิตพูดกับรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียนั้น เป็นความลับ ไม่มีใครทราบ
แต่ผมก็ไม่คิดนะครับว่านายกษิตจะแย่ขนาดเอาเรื่องอิสรภาพนายวิคเตอร์ บูท
ไปแลกกับการขอให้รัสเซียส่งพันตำรวจโท ดร.ทักษิณ ชินวัตร กลับมาให้รัฐบาลไทยลงโทษ
พันตำรวจโท ดร.ทักษิณเป็นบุคคลที่ผู้ใหญ่ทางฝ่ายรัสเซียรักมาก คบกันเป็นเพื่อนตาย
นิติภูมิรู้จักคนรัสเซียดี ผมจึงมั่นใจว่าคนรัสเซียไม่ขายเพื่อน
ยิ่งถ้าหากนายกษิต ภิรมย์ รู้ผลคำพิพากษาล่วงหน้า ว่าศาลอุทธรณ์ พิพากษาแล้วว่า
ให้ส่งตัวนายวิคเตอร์ บูท ไปให้สหรัฐอเมริกา ทว่าในระหว่างนั้น
นายกษิตยังกล้าไปเจรจาเรื่องแลกตัวนายวิคเตอร์ บูท กับพันตำรวจโท ดร.ทักษิณ
ผมว่าอันนี้ก็เหมือนรัฐมนตรีต่างประเทศของไทยไปหลอกลวงรัฐบาลรัสเซีย
คนบ้านนอกคอกนา ตระกูลแม่ค้าขายขนมในตลาดสด
และทำไร่ไถนาหาปลาในทะเลอย่างนิติภูมิก็ไม่เชื่อหรอกครับ ว่าผู้ดีอย่างนายกษิตจะทำ
แต่ถ้าทำ ก็ต้องถือว่านายกษิตเป็นคนแย่มาก
และก็สมควรที่คณะรัฐบาล
และสมาชิกรัฐสภาแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย
และประชาชนคนรัสเซียจะโกรธมาก
รัสเซียทำทุกอย่างเพื่อให้นายบูทมีอิสรภาพ
และช่วยหาหลักฐานมามอบให้ฝ่ายสงสัยหลายครั้ง
เพื่อยืนยันว่านายบูทเลิกธุรกิจระหว่างประเทศทั้งหมด
รวมทั้งธุรกิจการบินด้วยตั้งแต่ พ.ศ.2544 มีหลักฐานจาก ตม.รัสเซียว่า
ระหว่าง พ.ศ.2544-2551 นายวิคเตอร์ บูท เคยเดินทางไปจีน 1 ครั้ง
มอนเตเนโกร 1 ครั้ง อาร์เมเนีย 1 ครั้ง และ
มาเมืองไทย 1 ครั้ง โดยเหยียบแผ่นดินไทยได้เพียง 3 ชั่วโมงก็ถูกจับ
ถ้าบูทเป็นพ่อค้าอาวุธตัวจริงก็น่าจะรวยนะครับ
สมบัติพัสถานของคนค้าอาวุธบ้าอะไร ทำไมมีน้อยจัง?
มีบ้าน 2 ชั้น 3 ห้องนอน ขนาดไม่กี่ตารางวา
ที่อยู่ห่างจากรุงมอสโกไปตั้งเกือบครึ่งร้อยกิโลเมตร
สมบัติอีกอย่างก็เป็นคอนโดมิเนียมขนาดเล็ก 2 ห้องนอน
และมีหุ้นเล็กน้อยในบริษัทผลิตวัสดุก่อสร้างสำหรับตลาดรัสเซีย
ตั้งแต่หัวหน้าครอบครัวติดคุกไทย
ครอบครัวของบูทต้องวิ่งหาสตางค์มาเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดี จนขณะนี้มีแต่หนี้รุงรัง
นางอัลลา ภรรยาของนายบุช ไม่เคยออกนอกประเทศไทยเลยมามากกว่า 2 ปีแล้ว
เธอเช่าห้องเล็กๆ ขนาด 40 ตารางเมตรแถวเรือนจำ เพื่อซุกหัวนอน
และเพื่อสามารถเดินทางไปเยี่ยมและนำอาหารไปให้สามีได้ทุกวัน วันละ 15 นาที
ลูกสาววัย 16 ปีของวิคเตอร์ บูท และนางอัลลา
ต้องย้ายไปขออาศัยอยู่บ้านตากับยายในกรุงเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
พ่อค้าอาวุธบ้าอภิพญามหาเศรษฐีอะไรกันครับ
ต้องยืมเงินคนไทยเพื่อนำไปใช้จ่ายประคองชีวิตให้ดำรงคงอยู่ได้ ยืมทีละไม่กี่หมื่นบาทซะด้วย
พวกเอ็งจะบ้านิยายที่ไอ้ดักลาส ฟาราห์ โม้กันไปถึงไหน?
นิติภูมิ นวรัตน์
http://www.thairath.co.th/column/oversea...sky/105835
--------------------------------------------------------------------------------
การเมือง : คุณภาพชีวิต
วันที่ 20 สิงหาคม 2553 15:30
ศาลให้ส่ง'วิคเตอร์ บูธ'ไปสหรัฐใน 3เดือน
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
ศาลอุทธรณ์สั่งขังอดีตเคจีบีค้าอาวุธสงครามรอส่ง ตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปสหรัฐฯใน3เดือน อัยการยื่นซ้ำอีก6ข้อหา ศาลนัดไต่สวน4ต.ค. "บัวแก้ว"รับลูกศาล
ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เมื่อเวลา 10.25 น. ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีส่งผู้ร้ายข้ามแดน หมายเลขดำที่ อผ.3/2551 ที่อัยการสำนักงานต่างประเทศ เป็นโจทก์ ยื่นคำร้องขอส่งตัว นายวิคเตอร์ อนาโตลเจวิช บูท( Viktor Bout) หรือบอริส (Boris) หรือ วิคเตอร์ บัท (Viktor But หรือ Viktor Budd) หรือวิคเตอร์ บูลาคิน (Viktor Bulakin) หรือวาดิม มาโควิช อมินอฟ (Vadim Markovich Aminov) อายุ 43 ปี สัญชาติรัสเซีย อดีตทหารหน่วยเคจีบีรัสเซีย ซึ่งเป็นพ่อค้าอาวุธสงครามรายใหญ่ระดับโลก เป็นจำเลย
เรื่องส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับไป ดำเนินคดีอาญาที่ตกเป็นผู้ต้องหาที่ทางการสหรัฐอเมริกาแจ้งดำเนินคดีข้อหา 1.ร่วมสมรู้ร่วมคิดในการฆ่าผู้อื่น 2. ข้อหาร่วมสมรู้ร่วมคิดในการฆ่าเจ้าพนักงานและเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลสหรัฐ อเมริกา 3. ข้อหาร่วมสมรู้ร่วมคิดในการจัดหาและใช้อาวุธสงครามต่อต้านอากาศยาน และ 4. ข้อหาร่วมสมรู้ร่วมคิดในการสนับสนุนอย่างมีสาระสำคัญให้กับองค์การก่อการ ร้ายต่างประเทศ ซึ่งละเมิดกฎหมายสหรัฐอเมริกา
โดยนายวิคเตอร์ ถูกเบิกตัวมาจากเรือนจำฟังคำพิพากษา โดยมีนางเอลล่า(ELLA) ภรรยาและบุตรสาว รวมทั้งเพื่อนสนิท และเจ้าหน้าที่สถานทูตรัสเซียมาร่วมฟังคำตัดสินด้วย
ทั้งนี้ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งเมื่อวันที่ 11 ส.ค.2552 ให้ยกคำร้องของอัยการโจทก์ เนื่องจากเห็นว่าความผิดที่มีการกล่าวหานายวิคเตอร์ ถูกแจ้งข้อหาร่วมมือกับขบวนการ FARC ที่เป็นกลุ่มต่อต้านรัฐบาลประเทศโคลัมเบีย จึงเป็นการกระทำที่มีจุดประสงค์ และมุ่งหวังทางการเมืองมีลักษณะเป็นคดีการเมือง ที่ต้องห้ามตาม พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน โดยอัยการโจทก์ ยื่นอุทธรณ์ขอให้ศาลมีคำสั่งคุมขังนายวิคเตอร์เพื่อส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้าม แดนกลับประเทศสหรัฐฯ
ศาลอุทธรณ์ประชุมตรวจสำนวนแล้ว เห็นว่า คดีนี้การไต่สวนศาลชั้นต้น มีโจทก์มีเจ้าหน้าที่หน่วยงานปราบปรามยาเสพติดของประเทศสหรัฐ ที่เป็นหัวหน้าสืบสวนสอบสวนคดีที่กล่าวหานายวิคเตอร์ เบิกความว่าศาลในรัฐนิวยอร์กได้ออกหมายจับนายวิคเตอร์ไว้แล้ว ซึ่งทางการสืบสวนสอบสวนได้รวบรวมหลักฐานแล้วเห็นว่านายวิคเตอร์ ถือเป็นนักค้าอาวุธรายใหญ่ระดับโลกรายหนึ่ง โดยมีเอกสารที่ศาลออกหมายจับเป็นหลักฐาน
ศาลเห็นว่า ทางการไทยและสหรัฐฯ มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างกัน โดยความผิดที่มีการกล่าวหานายวิคเตอร์ ตามคำร้องอัยการโจทก์ เทียบได้กับความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาของไทย มาตรา 135/1-3 ซึ่งความผิดมีอัตราตั้งแต่เกิน 1 ปี ที่เป็นไปตามข้อกำหนดของพระราชบัญญัติว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่าง ราชอาณาจักรไทยกับสหรัฐอเมริกา พ.ศ.2533 สนธิสัญญาระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสหรัฐ ฯ ว่าด้วยการส่งผู้ร้ายแดน พ.ศ.2526
ส่วนลักษณะความผิดที่กล่าวหานาย วิคเตอร์ สมรู้ร่วมคิดในการฆ่าเจ้าพนักงานและเจ้าหน้าที่องรัฐบาลสหรัฐอเมริกา เป็นลักษณะความผิดอาญาทั่วไป ที่เป็นความผิดทั้ง 2 ประเทศซึ่งสามารถลงโทษได้ ส่วนข้อกล่าวหาดังกล่าวจะถือเป็นความผิดหรือไม่ เป็นเรื่องศาลรัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐฯ จะต้องพิจารณาดำเนินคดี ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งมานั้นศาลอุทธรณ์ไม่เห็นพ้องด้วย
โดยศาลอุทธรณ์ มีคำสั่งให้คุมขังนายวิคเตอร์ เพื่อรอดำเนินการส่งเป็นผู้ร้ายข้ามแดนภายในเวลา 3 เดือน หากถึงกำหนดยังไม่ดำเนินการส่งผู้ร้ายข้ามแดนก็ให้ปล่อยตัว
ภายหลังฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้ว ภรรยาและบุตรสาวได้โผเข้ากอดนายวิคเตอร์ทั้งน้ำตา ขณะที่นายวิคเตอร์ แสดงสีหน้าเศร้าและกังวล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามกฎหมายไทยเมื่อศาลอุทธรณ์มีคำสั่งแล้วกระบวนการพิจารณาจึงยุติถือเป็น ที่สุด
ด้านนางเอลล่าให้สัมภาษณ์สื่อต่าง ประเทศว่า รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยความผิดที่กล่าวหามีลักษณะเป็นคดีทางการเมืองที่ทางการสหรัฐฯ พยายามกดดันทางการไทยที่จะให้ส่งตัว
ขณะที่ช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ อัยการสำนักงานต่างประเทศ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญา ขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนนายวิคเตอร์ อีกฉบับตามที่ทางการสหรัฐ ฯ ประสานงานผ่านกระทรวงการต่างประเทศมาเมื่อประมาณเดือนกุมภาพันธ์ผ่านมา โดยคำร้องอัยการระบุว่า ทางการสหรัฐฯ ขอให้ส่งตัวผู้นายวิคเตอร์กลับไปดำเนินคดีฐานสมรู้ร่วมคิดในการละเมิดกฎหมาย อำนาจเศรษฐกิจกรณีเหตุฉุกเฉินระหว่างประเทศ อันเป็นการฝ่าฝืนประมวลกฎหมายสหรัฐอเมริกา บรรพ 50 มาตรา 1705 และ บรรพ 18 มาตรา 1371
สมรู้ร่วมคิดในการฟอกเงิน อันเป็นการฝ่าฝืนประมวลกฎหมายสหรัฐอเมริกา บรรพ 18 มาตรา 1956 , สมรู้ร่วมคิดในการฉ้อโกงทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือฉ้อฉลผ่านอุปกรณ์สื่อสาร อันเป็นการฝ่าฝืนประมวลกฎหมายสหรัฐอเมริกา บรรพ 18 มาตรา 1349 และสมรู้ร่วมคิดในการฉ้อโกงทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือฉ้อฉลผ่านอุปกรณ์สื่อสาร อันเป็นการฝ่าฝืนประมวลกฎหมายสหรัฐอเมริกา บรรพ 18 มาตรา 1343 มาตรา 2 รวม 6 ข้อหา
ซึ่งความผิดดังกล่าวข้างต้นกำหนดโทษจำ คุกไว้เกินกว่า 1 ปี นอกจากนี้ทางการสหรัฐ ยังร้องขอให้ยึดสิ่งของทั้งปวงที่อาจต้องใช้เป็นพยานหลักฐาน ทรัพย์สินที่ได้รับมาอันเป็นผลมาจากอาชญากรรม และทรัพย์สินและสิ่งของที่อยู่ในความครอบครองของผู้ต้องหา หรือได้ค้นพบขึ้นในภายหลังเพื่อส่งมอบให้แก่ประเทศสหรัฐอเมริกาพร้อมกับส่ง ตัวผู้ร้ายข้ามแดนด้วยหากได้รับอนุญาต
โดยท้ายคำร้องอัยการ ขอให้ศาลพิจารณาไม่อนุญาตให้จำเลยประกันตัว หรือได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว เพราะหากจำเลยได้รับการประกันตัวและได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวไป มีเหตุอันควรเชื่อว่า จำเลยจะหลบหนีและจะไม่ได้ตัวมาดำเนินการในการพิจารณาเพื่อส่งตัวผู้ร้ายข้าม แดน
ทั้งนี้ศาลนัดไต่สวนคำร้องวันที่ 4 ต.ค.นี้ เวลา 13.30 น.
นายศิริศักดิ์ ติยะพรรณ อธิบดีอัยการสำนักงานต่างประเทศ กล่าวว่า หลังจากนี้จะประสานแจ้งผลลคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้กระทรวงการต่างประเทศทราบ เพื่อประสานทางการสหรัฐ ฯ ต่อไป ส่วนคำร้องขอส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนฉบับใหม่นั้น ต้องรอหารือกับทุกฝ่ายอีกครั้ง
ส่วนทางการสหรัฐ ฯ จะให้ยื่นถอนคำร้องหรือไม่ หลังจากทราบผลศาลอุทธรณ์ให้ส่งตัวนั้น นายศิริศักดิ์ อธิบดีอัยการสำนักงานต่างประเทศ กล่าวว่า อัยการตัดสินใจใด ๆ ไม่ได้ ต้องรอหารือกับทางการสหรัฐอีกครั้ง แต่แนวทางทุกอย่างสามารถเป็นไปได้ทั้งหมด
ขณะที่นายลักษณ์ นิติวัฒนวิจารณ์ ทนายความของนายวิคเตอร์ กล่าวว่า เตรียมจะยื่นคัดค้านต่อศาลว่าคำร้องของอัยการ เป็นการยื่นขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนซ้ำ ขณะที่กระบวนการยื่นคำร้องไม่ผ่านขั้นตอนทางการทูต โดยในการไต่สวนตนจะหยิบยกประเด็นที่ตั้งข้อสังเกตุว่า คำร้องนี้สหรัฐ ฯ แจ้งเรื่องมาตั้งแต่ประมาณเดือน ก.พ. แต่เหตุใดจึงยื่นคำร้องล่าช้าที่น่าจะไม่เป็นตามกฎหมาย และได้ยื่นคำร้องในวันเดียวที่จะมีการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
ทั้งนี้นายลักษณ์ ทนายความของนายวิคเตอร์ กล่าวว่า หากทางการสหรัฐฯจะแจ้งให้อัยการถอนคำร้องขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนใหม่จริง หรือไม่ ก็ไม่เป็นห่วงอะไร เพราะตนเตรียมพร้อมที่จะใช้ช่องทางกฎหมายต่อสู้อยู่แล้ว ขณะที่ตนเห็นว่าการให้ส่งตัวกลับหรือไม่ ตามสนธิสัญญานั้นเป็นเรื่องที่ทางการของรัฐบาลจะต้องรับผิดชอบว่าจะให้ส่ง ตัวหรือไม่
บัวแก้วพร้อมรับลูกศาลคดี"วิคเตอร์ บูท"
นายธานี ทองภักดี รองอธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่สหรัฐอเมริกา ส่งหนังสือถึงประเทศไทยผ่านนายดอน ปรมัตถ์วินัย เอกอัครราชทูตไทย ประจำสหรัฐฯ กรณีศาลอุทธรณ์เตรียมตัดสินคดีนายวิคเตอร์ บูท ผู้ถูกกล่าวหาค้าอาวุธชาวรัสเซีย เจ้าของฉายา "พ่อค้าความตาย" ในวันนี้ (20 ส.ค.)
เขาระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการ พิจารณาของศาล ไม่สามารถแสดงความคิดเห็นได้ ส่วนจะส่งตัวนายวิคเตอร์ บูท ไปยังสหรัฐฯ เพื่อดำเนินคดีในข้อหาก่อการร้ายหรือไม่นั้น นายธานีระบุว่าขึ้นอยู่กับอำนาจศาลในการพิจารณา กระทรวงพร้อมให้ความร่วมมือ
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/life/20100820/348891/ศาลให้ส่งวิคเตอร์-บูธไปสหรัฐใน-3เดือน.html
--------------------------------------------------------------------------------
"สุเทพ" ปฏิเสธใช้ "วิคเตอร์ บูท" แลกซื้อแบล็กฮอว์กถูก
ไทยรัฐออนไลน์
* โดย ทีมข่าวการเมือง
* 23 สิงหาคม 2553, 09:50 น.
ยันจัดซื้อปกติ ลั่นสื่อรัสเซียมั่วโบ้ยบัวแก้วช่วยแจงข้อเท็จจริงให้สื่อต่างชาติ ระบุ ไทยอยู่ท่ามกลางคงวามขัดแย้งมหาอำนาจ ยันกระบวนการยุติธรรมไทยได้มาตรฐาน...
ที่ สนามบิน ขส.ทบ. เมื่อเวลา 07.00น.วันที่ 23 ส.ค.53 นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงกรณีที่สื่อรัสเซียเปิดประเด็นว่า การที่ประเทศไทยส่งตัวนาย วิคเตอร์ บูท ผู้ต้องหาคดีค้าอาวุธสงครามไปดำเนินคดีที่สหรัฐอเมริกา เนื่องจากมีการเลกเปลี่ยนกับการซื้อเฮลิคอปเตอร์แบบแบล็กฮอว์กในราคาพิเศษ 3 ลำจากสหรัฐอเมริกา ว่า เป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศต้องชี้แจงในเรื่องนี้ให้สื่อมวลชนต่าง ประเทศให้เข้าใจ
รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวต่อว่า สำหรับตนให้ความมั่นใจกับประชาชนคนไทยได้ว่ารัฐบาลไทยปฏิบัติทุกอย่างตาม กติกาตามกฎหมาย ทั้งกฎหมายภายในประเทศและกฎหมายระหว่างประเทศ แต่โชคไม่ดีที่มันเป็นเรื่องของประเทศมหาอำนาจที่ขัดแย้ง และมีปัญหากัน แล้วไทยอยู่ตรงกลางพอดี โดยเราไม่เข้าข้างใครทั้งสิ้น ว่ากันไปตามกฎเกณฑ์กติกาของเราทุกอย่าง ผ่านกระบวนการยุติธรรมที่ถูกต้อง เพราะฉะนั้นใครจะมาว่าอะไรเราไม่ได้
เมื่อถามว่า ในขณะที่เรามีความขัดแย้งกับรัสเซียซึ่งเป็นประเทศมหาอำนาจประเทศหนึ่ง ฝ่ายความมั่นคงเป็นห่วงสถานการณ์หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่มี ตราบใดที่เราทำในสิ่งที่ถูกต้อง เราชี้แจงได้หมด เราไม่ต้องกังวลใจอะไรทั้งสิ้น เพราะเราผ่านกระบวนการยุติธรรมแล้ว และเห็นกันอยู่ว่าเป็นอย่างไร
เมื่อถามย้ำว่า โดยข้อเท็จจริงแล้วในกองทัพของไทยมีการจัดซื้อเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์กเข้ามา ประจำการหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นคนละเรื่องกันอย่าเอามาโยงกัน การจัดซื้อเฮลิปคอปเตอร์ดังกล่าวเข้ามาเป็นเรื่องการจัดซื้อปกติ และมั่นใจว่าจะสามารถชี้แจงได้ ยืนยันว่ากระบวนการยุติธรรมของบ้านเรามีมาตรฐาน กระบวนการยุติธรรมของไทยมีมาตรฐานเป็นสากล ใครจะมาลบหลู่ก็ไม่ได้ เพราะเราได้ดำเนินการโดยวิธีการและกระบวนการที่เป็นที่ยอมรับในสากล
http://webcache.googleusercontent.com/search?q=cache:BZrzkoiHJPgJ:www.thairath.co.th/content/pol/105611+วิคเตอร์+บูท&cd=2&hl=th&ct=clnk&gl=th
--------------------------------------------------------------------------------
รัสเซีย กล่าวหา คำตัดสินของศาลไทยในการส่งตัว “วิคเตอร์ บูท” ให้สหรัฐเป็นเรื่อง”ไม่ชอบด้วยกฎหมาย” พร้อมทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเหลือ
นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย กล่าวตำหนิคำตัดสินของศาลไทย ขณะเดินทางเยือนประเทศอาร์เมเนีย วานนี้ว่า ตนรู้สึกเสียใจกับการตัดสินที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และมีแรงจูงใจทางการเมือง พร้อมจะทำทุกวิถีทางที่จำเป็น เพื่อให้ความปลอดภัย และได้ติดต่อประสานงานไปยัง นายลักษณ์ นิติวัฒนวิจารณ์ ทนายความของ นายวิคเตอร์ เพื่อช่วยกันหาทางนำตัว วิคเตอร์ บูท กลับยังรัสเซีย ประเทศบ้านเกิดให้จงได้ โดยถ้อยคำตำหนิดังกล่าว เกิดจาก รัสเซีย ที่สงสัยว่า สหรัฐจะใช้อำนาจไม่เหมาะสม เพื่อโน้มน้าวใจให้ได้รับมาซึ่งคำตัดสิน
ทั้งนี้ วิคเตอร์ บูท วัย 44 ปี อดีตเจ้าหน้าที่กองทัพรัสเซีย หรือ เคจีบี ถูกจับกุมตัวในประเทศไทย เดือนมีนาคมปี 2551 ตามคำขอจากรัฐบาลสหรัฐ ในข้อกล่าวหาลักลอบค้าอาวุธ แต่ บูท ได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ต่อมาในปี 2552 ศาลอาญาประเทศไทยปฏิเสธส่งตัว บูท ให้กับสหรัฐในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน เนื่องจาก ไม่มีหลักฐานที่เพียงพอ และข้อกล่าวหา เกิดขึ้นจากแรงจูงใจทางการเมือง แต่ สหรัฐ ได้ยืนอุทธรณ์คำตัดสิน พร้อมยืนข้อหาใหม่กับเขา จนกระทั่งวานนี้ (20) ศาลอุทธรณ์ เห็นด้วยกับสหรัฐ ที่ นายวิคเตอร์ บูท สมควรกลับไปรับข้อกล่าวหา ค้าอาวุธ เพื่อการกบฏ ตามที่สหรัฐได้ยื่นมาเรื่องมาในปี 2552
หลัง ศาลอ่านคำพิพากษาแล้วเสร็จ บูท เข้าสวมกอดนางแอลลา ภรรยาและบุตรสาว พร้อมกับร่ำไห้ โดย นางแอลลา กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “นี่คือการตัดสินใจที่ไม่เป็นธรรมมากที่สุด เป็นเรื่องที่ ๆ รู้กันไปทั่วโลกว่าเป็นกรณีทางการเมือง และสามีของเธอคือตัวประกันทางการเมือง ด้าน นายลักษณ์ ทนายความของ นายวิคเตอร์ กล่าวเช่นกันว่า การตัดสินส่งผู้ร้ายข้ามแดน เกิดจากแรงจูงใจทางการเมืองและกล่าวว่า เขาจะส่งคำขอไปยัง กระทรวงการต่างประเทศ รวมถึง คณะรัฐมนตรี พร้อมทั้ง ถวายฎีกา เพื่อขอพระราชทานอภัยโทษ
ขณะที่ แกรี่ กรินด์เลอร์ รักษาการผู้ช่วยอัยการทั่วไปสหรัฐ กล่าวถึง ความรู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก ภายหลัง ศาลอุทธรณ์ไทย
อนุมัติคำขอส่งผู้ร้ายข้ามแดน วิคเตอร์ บูท ให้กับสหรัฐฯ พร้อมระบุถึงการดำเนินคดีกับ วิคเตอร์ ที่ถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสหรัฐ
และล่าสุด มีรายงานแจ้งว่า กระทรวงต่างประเทศรัสเซีย ได้เชิญตัว นายเฉลิมพล ทันจิตต์ เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงมอสโก เข้าพบ นายอเล็กซี บอโรดาฟกิน รมช.ต่างประเทศของรัสเซีย ที่ กรุงมอสโค เพื่อรับการร้องเรียนจากรัฐบาลรัสเซีย และเพื่อเป็นการแสดงความผิดหวังต่อท่าทีของทางการไทยด้วย
http://www.tipsth.com/story/รัสเซีย-ฉุน-ไทย-ส่งวิคเต-2/
ข่าวการเมือง หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- พุธที่ 25 สิงหาคม 2553 13:21:48 น.
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวถึงกรณีที่นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ และคนสนิทนายกรัฐมนตรี ออกมายอมรับว่า ได้เดินทางไปพบกับ นายวิคเตอร์ บูท พ่อค้าอาวุธสงคราชาวรัสเซีย ที่เรือนจำบางขวางจริง ว่า ตนอยากถามว่า นายศิริโชคใช้สิทธิ์อะไรในการเข้าไปพบ ซึ่งเป็นนอกเวลาการเข้าเยี่ยมนักโทษ เพราะในฐานะส.ส.ฝ่ายนิติบัญญัติไม่สามารถเข้าพบนักโทษในเรื่อนจำได้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการทำหน้าที่ อีกทั้ง นายกรัฐมนตรี ได้ออกมาออกตัวแทนว่า การพูดคุยกับนายวิคเตอร์ บูท นั้น ต้องใช้ภาษารัสเซีย ซึ่งความจริงแล้วนายวิคเตอร์ บูท พูดได้ถึง 6 ภาษา และหากไม่ได้พูดคุยในเรื่องของการที่ให้ วิคเตอร์ บูท กล่าวซักทอดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีส่วนเกี่ยวข้องกับการขนอาวุธดังกล่าว เพื่อนำมาใช้ในการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงจริง ตนอยากให้นำตัว นายวิคเตอร์ บูท ออกมาแจงต่อสาธารณะชน ทั้งนี้ ตนอยากถามตัวนายกฯ ว่าจะแสดงความรับผิดชอบอย่างไร ในเมื่อผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นเงา หรือวอร์เปเปอร์ ของตัวเองกระทำการที่ถือว่าเป็นการใช้อำนาจโดยมิชอบ
http://www.ryt9.com/s/nnd/970819
--------------------------------------------------------------------------------
กรุงเทพฯ 25 ส.ค. - นายธานี ทองภักดี รองอธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางสหรัฐฯ ได้ส่งหนังสือแจ้งถอนฟ้อง นายวิคเตอร์ บูท ในคดีที่สองมาถึงกระทรวงต่างประเทศแล้ว อยู่ระหว่างการประสานงานไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินการถอนฟ้องต่อศาลต่อไป ส่วนจะใช้เวลานานแค่ไหน ต้องขึ้นอยู่กับการดำเนินการของอัยการสูงสุด เมื่อมีการถอนฟ้องเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะมีผลให้สามารถส่งตัว นายวิคเตอร์ บูท ตามคำสั่งของศาลอุทธรณ์ได้ทันที
แต่ นายลักษณ์ นิติวัฒนะวิจารณ์ ทนายความของ นายวิคเตอร์ บูท กล่าวว่า ลูกความมีสิทธิ์ที่จะไม่เดินทางไปสหรัฐ เนื่องจากยังเป็นผู้บริสุทธิ์ โดยช่วงที่ติดคุกอยู่ 2 ปี สร้างความเสียหายทางธุรกิจต่อ นายบูท อย่างมหาศาล ทั้งนี้ ถ้าไทยยังยืนยันจะส่ง นายบูท ไปสหรัฐ ก็จะยื่นเรื่องประท้วงไปยังหน่วยงานความมั่นคงระดับสหประชาชาติต่อไป.-สำนัก ข่าวไทย
ที่มา : MCOT.NET
http://th.88db.com/th/Knowledge/Knowledge_Detail.page?kid=7211513
--------------------------------------------------------------------------------
แสดงให้เห็นถึงขบวนการวางแผน
เพื่อให้พวกเสื้อแดงเป็นผู้ก่อการร้าย
ในสายตาชาวโลกให้ได้
มีการสร้างละครเป็นฉากๆ
เพื่อหวังกล่าวหาคนเสื้อแดง
เรื่องนี้ต้องเก็บไว้ให้ลูกหลานได้อ่าน
จะได้เห็นสันดานคนบางกลุ่มบางพวก
ว่าเขาทำได้ทุกอย่างจริงๆ
งานนี้ต้องให้เครดิตคุณนิติภูมิ นวรัตน์ ที่นำมาแฉ
ซึ่งตามประวัติ เขาเคยไปเรียนอยู่ที่รัสเซียหลายปี
เลยค่อนข้างจะรู้เรื่องเกี่ยวกับประเทศรัสเซีย
ได้ดีมากๆ คนหนึ่งของประเทศไทย
โดย มาหาอะไร
FfF