บันทึกเรื่องราว สืบสาวความจริง ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน.
Save the stories. Investigate the truth. Give to the next generation.


11 ตุลาคม 2553

<<< ครบรอบ 6 เดือนย้ำเตือนความทรงจำ เสื้อแดงถูกกระทำที่แยกคอกวัวและแถวอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย >>>

วันนี้ไปถึงช่วงบ่ายๆ พบว่า
คนยังไม่เยอะเหมือนคราวที่ไป รำลึก 4 ปีรัฐประหาร
4 เดือนสลายม็อบที่ราชประสงค์
ก็เลยเดินไปชม อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา
เห็นแล้วอยากให้อนุสรณ์สถาน
หลายๆ เหตุการณ์ที่เสื้อแดงโดนสลายการชุมนุม
แล้วมีคนเจ็บตายบ้าง

















ที่นี่มีรูปถ่ายเหตุการณ์ในอดีต
และรายชื่อวีรชนเก็บเอาไว้ด้วย
ซึ่งเราถ่ายไว้เยอะเหมือนกัน
แต่เอามาลงพอเป็นตัวอย่าง
เพื่อให้เห็นผลงานวีรชนในอดีต


บริเวณนี้จะมีนิสิตนักศึกษามาเล่นดนตรีให้ฟังด้วย


พอดีพี่ที่ทำงานมาม็อบคนเดียว
เพราะเพื่อนแถวบ้านไม่มาด้วย
นัดเจอแถวร้านแม็ค
เราเลยข้ามถนนมาฝั่งนี้
ถึงเห็นว่า ผู้คนมาออกันอยู่ฝั่งนี้
ค่อนข้างเยอะ



โดยเฉพาะในร้าน Mc คนตรึบ
เพราะแอร์มันเย็นอ่ะ อิอิ


วันนี้อากาศข้างนอกร้านกับในร้าน
ต่างกันอย่างกะอยู่กันคนละทวีปเลย
ข้างนอกร้านร้อนอบอ้าวมากๆ



แถวนี้มีแม่ค้าที่โดนเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลนี้จับไปขัง
ข้อหาขายรองเท้ามีใบหน้านักการเมืองอย่างอภิสิทธิ์ เทพเทือกอยู่
ข้อหาที่โดน อันตรายต่อความมั่นคง อย่างฮาเลยประเทศนี้
มีอะไรขำขำ เยอะจริงๆ ทีสมัยก่อนพวกม็อบเสื้อเหลือง
ไม่เห็นโดนจับอะไรเลย หน้าทักษิณนี่โดนเอามาเล่นหนักกว่านี้อีก



นี่เป็นกลุ่มญาติวีรชน ผมสงสารคนที่อยู่ข้างหลัง
แต่ไม่รู้จะช่วยยังไง วันนี้ผมมีเงินอยู่ในกระเป๋าแค่ 300 เอง
กู้ญาติมารอบหนึ่งแล้ว สงสัยต้องไปกู้อีกรอบหนึ่ง อยู่ไม่ครบเดือนแน่ๆ
แต่เขาพวกนี้คงลำบากกว่าผมเยอะเลย
เห็นหลายๆ กลุ่มเริ่มจะยื่นมือมาช่วยบ้างแล้ว
แต่ยังมีไม่มาก ยังไงก็อย่าลืมพวกเขาเหล่านี้ด้วยน่ะครับ


โดยเฉพาะน้องคนนี้ เห็นแม่ค้าแถวนั้นบอกว่า
มาเฝ้าศพพ่อเขาที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
หลังวันที่ 10 ผ่านมาแล้วหลายวัน
นอกจากนี้เขายังมีน้องสาวที่ยังตัวเล็กๆ อยู่อีกคน
ไม่รู้อนาคตเขาจะเป็นยังไง
ใครพอมีทุนช่วยส่งเสียพวกเขาให้เรียนสูงๆ ได้
ฝากช่วยหน่อยน่ะครับ



สภาพศพพ่อของเขาที่โดนยิง
แม่นไม่แม่นดูเอาเองแล้วกันโดนกลางกระบาลเลย
ซึ่งช่วงที่เด็กน้อยเดินถือกล่องบริจาคผ่านแถวตำรวจ
มีตำรวจ 2-3 คนควักแบงค์ยี่สิบมาให้เขา
ซึ่งทำให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่บางคน ก็ยังมีความรู้สึก
มีความเป็นคนอยู่ ผิดกับเจ้านายของพวกเขาบางคน
และคนใหญ่ๆ โตๆ ในประเทศนี้
ไม่รู้ว่ายังหลงเหลือความเป็นคนอยู่รึเปล่า
สั่งสลายม็อบด้วยอาวุธจริงกระสุนจริงแบบนี้



สักพักใหญ่ๆ พอใกล้ 5 โมงเย็น
ที่ทางเจ้าหน้าที่ขีดเส้นไว้ให้เลิกชุมนุม
และจะจับแกนนำ ที่มานำจุดเทียนหลัง 5 โมงเย็น
แถมวันก่อนหน้านี้มีขู่ใครไม่เกี่ยวให้ห่างจากบริเวณนี้
เพราะอาจมีระเบิดอะไรอีก
สถานการณ์ก็เริ่มจะตึงเครียด
เนื่องจากมีการส่งเจ้าหน้าที่มาล้อมอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
ซึ่งมีคนอยู่ในวงล้อมจำนวนมาก


ระดับผู้บังคับบัญชาดูขึงขังเอาเรื่อง
ลูกน้องคนไหนยืนห่างหน่อยปล่อยให้คนเดินผ่าน
ก็จะถูกดงมาปิดให้ยืนชิดกัน
ทำราวกับว่าเอาเจ้าหน้าที่มายืนกัน 2 แถว จะเอาอยู่




บรรยากาศตอนนั้นเริ่มเปลี่ยนไป
เราเกรงว่าเจ้านายเขาจะเสียสติสั่งให้ลูกน้องลุย
เพราะถ้าทำยังงั้นคนที่เจ็บตัวคือลูกน้องเขานั่นเอง
ต่อให้ชาวบ้านไม่มีอาวุธอะไรในมือ
แต่จำนวนคนพอกระแทก
ทำให้แถวแต่ละด้านแตกออกไปได้
และไปยืนล้อมเจ้าหน้าที่อีกที
คราวนี้ไม่รู้ใครจะบุกใครแล้ว
แต่ช่วงที่กำลังดันกัน เจ้าหน้าที่จะเจ็บตัวแน่ๆ
เพราะเหมือนโดนอัดก๊อปปี๊
หน้าก็มีดันมาหลังก็มี
ไม่รู้ใครคิดแผนนี้


จะอ้างว่าจะขอเปิดทางให้รถวิ่ง
ดูสภาพมันจะวิ่งไปได้ยังไงในเมื่อมีรถเขามาจอดกันเต็มไปหมดแล้ว
แถมปล่อยให้รถวิ่งเส้นทางนี้มันอันตรายต่อการสร้างสถานการณ์
เดี๋ยวเขาก็กลับบ้านแล้ว มีทางอื่นให้วิ่งเยอะแยะที่สามารถหลบไปได้
ไม่ต้องผ่านแถวนี้ เดี๋ยวไม่กี่ชั่วโมงเขาก็จะกลับบ้านกันแล้ว


สุดท้ายไม่ว่าจะส่งนายตำรวจ
หรือตำรวจหนุ่มรูปหล่อพูดเพราะยังไง
ชาวบ้านเขาก็ไม่ปลื้มและไม่ฟังหรอก
แถมจะมาเรียกหาแกนนำ
ก็จับเขาไปขังคุกกันเกือบหมดแล้ว
และก็ขู่ฟ่อๆ ว่าหลัง 5 โมงเย็นจะจับแกนนำ
ห้ามตั้งเวทีหรือใช้เครื่องขยายเสียง
แล้วใครเขาจะมาเป็นแกนนำให้คุณหาเรื่องยัดข้อหาหล่ะ


ชาวบ้านก็ดื้อตาใสงัด 3 ไม่ มาสู้
"ไม่หลีก ไม่หนี ไม่ถอย"








ชาวบ้านหันมาสนใจตำรวจเสื้อแดงแทนที่จะฟังว่า
นายตำรวจที่มาพูดมาข่มขู่หรือพูดว่าอะไร
รู้สึกขึ้นไปโชว์ตัวเฉยๆ

สักพักมาแล้วครับ ทั้งเสธแดง ทั้งทักษิณ อิอิ
ได้รับการต้อนรับจากชาวบ้านอย่างคับคั่ง
จนลืมไปสักพักเลยว่า กำลังเผชิญหน้ากับนายตำรวจบริเวณนั้น



สักพักใหญ่ๆ สงสัยจะอ่อนใจไม่รู้จะทำยังไง
หรือยาขึงขังหมดฤทธิ์ก็ไม่รู้
ก็เลยเลิกขึงขังปล่อยให้ชาวบ้าน
จุดเทียนตามโปรแกรมที่วางไว้ต่อไป
พอมืดๆ หน่อย เห็นตำรวจเด็กๆ
ซึ่งเลิกแถวแล้วมาเดินชมงานซื้อนั่นนี่เหมือนชาวบ้านก็มี

เปลี่ยนบรรยากาศมาชมความน่ารัก
ของแม่หนูน้อยวัย 11 เดือน
แม่พามาร่วมม็อบตั้งแต่อายุได้ 3 เดือน
ผ่านมาทุกเวทีแล้วทั้งผ่านฟ้าหรือราชประสงค์
ถือว่าเป็นสมาชิกม็อบที่อายุน้อยที่สุดที่เคยเห็นมา
ถ้าผมจำชื่อไม่ผิดชื่อน้อง มะเหมี่ยว



ชมบรรยากาศยามโพล้เพล้




จะถ่ายทุ่งดอกกระเจียวน้อยสักหน่อย
ชายคนนี้ก็รักษาจุดยืนไว้อย่างเหนี่ยวแน่น
เลยจับมาเป็นนายแบบซะเลย


พ่อหนุ่มน้อยคนนี้ ดูมาดแล้วอนาคตเป็นแกนนำได้
เห็นเต้นบนรถมาตั้งแต่ราชประสงค์แล้ว


นี่สงสัยจะเป็นแกนนำคนตาสว่าง
เห็นมีคนมาขอถ่ายรูปน้องซาบซึ้งบ่อยๆ



สีสันของม็อบ มาเป่าเขาอะไรก็ไม่รู้
เสียงยังกะช้างร้อง


ที่นี่มีคนตาย เจ๊แกอึดจริงๆ อากาศร้อนมากๆ พื้นก็คงร้อน
แกนอนท่านี้จนมืด

























พอสัก 6 โมงเย็น
ก็มีการการจุดเทียนตามที่ต่างๆ
บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย














หลังชาวบ้านช่วยกันจุดเทียนแล้ว
ก็บังเอิญไปเห็น บก.ลายจุด กำลังเดินเข้ามา
โดยมีนักการเมืองที่รู้จักคือ พงษ์เทพ ตามมาด้วย



พอดีเราจะกลับบ้านแล้ว
เพราะพี่ที่ทำงานเขาโทรมาตามหลายรอบแล้ว
อันที่จริง ถ้าไม่มีการขู่ว่าหลัง 5 โมงจะยังงั้นยังงี้
ผมอาจกลับไปตั้งแต่ 5 โมงเย็นแล้ว
เห็นมีรายการขู่เลยต้องอยู่ดูสักหน่อย
ก็เลยเดินวนถ่ายรูปยามดึกสักหน่อย






งวดนี้เจอข้อความแปลกๆ แบบนี้






สรุปสุดท้าย
งวดนี้คนอาจน้อยกว่าวันชุมนุมที่ราชประสงค์ครั้งหลังสุด
อาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น
วันนี้กับวันที่ 19 ผลกระทบต่อผู้คนต่างกัน
วันที่ 19 นอกจากม็อบราชประสงค์แล้ว
ยังกระทบกับคนทั้งแผ่นดินเนื่องจากมีการปล้นประชาธิปไตย
หลังจากนั้นประเทศก็ถดถอยมาเรื่อยๆ
และสถานการณ์ก็บานปลายมาเรื่อยๆ
ส่วนวันนี้เป็นเหตุที่คอกวัวและแถวอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
ซึ่งคนที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้น
ที่มาช่วยยันทหารแถวๆ นี้ คนยังน้อยกว่าคนที่มาวันนี้เสียด้วยซ้ำ
เพราะคนส่วนใหญ่ยังนั่งฟังปราศรัยทั้งแถวสะพานมัฆวาณและราชประสงค์
เหลือแต่ฮาร์ดคอร์ที่มาลุยแถวนี้ระดับไม่กี่พันเท่านั้น

นอกจากนี้วันนี้ยังถูกขู่ถูกสกัดเต็มรูปแบบ
เหมือนจำลองสถานการณ์รัฐบาลเผด็จการทหารเต็มรูปแบบ
มีการขู่ว่าจะเกิดระเบิดแถวนี้ มีการประกาศจะจับแกนนำ สารพัด
คนยังกล้ามาขนาดนี้ผมก็ว่า น่าชื่นใจแล้ว
ครั้งต่อๆ ไปคนที่ยังกลัวๆ กล้าๆ
เขาจะเริ่มกล้าออกมาร่วมสมทบอีก
และวันนี้มีการจัดม็อบหลายที่เกิน
แทนที่จะเป็นจุดเดียวแล้ว เช้าๆ มีคนมาพรึบเลย
อาจจะดึงคนไม่ค่อยกล้าออกมาอีกเพียบ
นอกนั้นก็คือฝ่ายการเมืองไม่ได้หนุนเต็มที่
คือพยายามปล่อยให้เป็นธรรมชาติ
จึงไม่ค่อยเห็นคนมาจากต่างจังหวัดหรือในกรุงเทพ
ที่มีคนมากันเป็นกลุ่มใหญ่ๆ
ซึ่งก็ดีไปอย่างตรงที่จะได้เห็นภาพจริง
แทนที่จะเห็นแต่ภาพลวงตา
จะได้หาวิธีทำให้คนมาร่วมม็อบแบบมากันเองในอนาคตได้
โดยเฉพาะในกรุงและรอบๆ ที่สามารถเข้ามาได้โดยใช้เวลาไม่นาน
เพราะวันหนึ่งอาจเจอเหตุการณ์ชนกับรัฐบาลทหารเต็มรูปแบบ
คงไม่สามารถพามาจากต่างจังหวัดไกลๆ ได้มาก
วันนี้ก็ยังเห็นคนที่ใส่เสื้อแดงขี่มอเตอร์ไซด์มาแถวลำลูกกา
แล้วโดนตำรวจเรียกพร้อมจะเขียนใบปรับ
ซึ่งไม่จำเป็นอย่าใส่มาเลยครับเสื้อแดง
เสื้อสีอะไรก็ได้ เวลาเจอศึกใหญ่ๆ จริงๆ
ก็ไม่มีใครกล้าใส่มาเป็นเป้าให้เขายิงเล่นง่ายๆ เหมือนกัน
แถมบางคนมาถึงม็อบไม่มั่นใจ
ยังมาเปลี่ยนเสื้อในห้องน้ำทำให้คิวที่ผู้หญิงรอคิวเข้าห้องน้ำ
ยาวรอนาน จนคนมีธุระจริงๆ จะทนไม่ไหว
น่าจะมั่นใจในเสื้อที่ใส่มา
แถมขากลับเพื่อนพี่ที่ทำงาน
พาไปขึ้นรถแถวย่านดงเสื้อเหลืองอีก
ดีที่ว่าทั้ง 3 คนไม่ได้แต่งแดงมาเลย
มันมีโอกาสทั้งขาไปขากลับที่ต้องออกนอกเส้นทาง
จะอันตรายโดยใช่เหตุ

สุดท้ายนี้ก็หวังว่าสักวันหนึ่ง
บ้านเราจะเป็นประชาธิปไตยจริงๆ กับเขาสักที
แทนที่จะมีแต่อนุสาวรีย์ชื่อประชาธิปไตยอย่างเดียว


<<< ครั้งหนึ่งในชีวิต ที่ได้อยู่ท่ามกลางสมรภูมิรบกลางกรุง >>>
http://maha-arai.blogspot.com/2010/04/blog-post_11.html

โดย มาหาอะไร
F
fF