เจ้าหน้าที่เขื่อน แจ้งว่าจะมีการปล่อยน้ำ
แต่ข่าวนี้ชาวบ้านรู้ไม่ทั่วถึง จึงไม่ได้ระวัง
ทำให้เมื่อเกิดน้ำท่วมฉับพลัน
มีคนเจ็บตายข้าวของเสียหายมากมาย
พอเกิดเรื่องอภิสิทธิ์ก็ออกมาหลอกชาวบ้าน
ว่าเขื่อนไม่ได้ปล่อยน้ำออกมาจนเกิดน้ำท่วมฉับพลัน
แต่เป็นเพราะฝนตกหนักอะไรประมาณนั้น
ซึ่งถ้าฝนตกหนักกว่าน้ำจะท่วม
ชาวบ้านเขาขนของหนีทัน
มากกว่าน้ำเขื่อนที่ปล่อยออกมาจนน้ำท่วมฉับพลัน
-------------------------------------------------------------------------
Daily News Online
หวั่นเขื่อนแตก ลำตะคองปล่อยน้ำ
วันอาทิตย์ ที่ 17 ตุลาคม 2553 เวลา 19:06 น
ลำตะคองสุดอั้น!!! รับน้ำไม่ไหวหวั่นเขื่อนแตก เตรียมปล่อยน้ำคืนนี้ ประกาศเตือนชาวบ้านใต้เขื่อน ระวัง
เมื่อเวลา 17.45 น.วันที่ 17 ต.ค. ได้มีประกาศจากศูนย์วิทยุตำรวจ สภ.สีคิ้ว ศูนย์วิทยุ สภ.สูงเนิน ศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยสว่างแสงธรรมสูงเนิน ศูนย์วิทยุหน่วยกู้มูลนิธิพรหม ธรรมสีคิ้ว และวิทยุชุมชนบางสถานีในพื้นที่ ว่าได้รับแจ้งจากกรมชลประทานว่าอ่างเก็บน้ำเขื่อนลำตะคอง ต.คลองไผ่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ มีความจุในการกักเก็บน้ำได้ ถึง 310 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะนี้ฝนได้ตกอย่างรุนแรงในท้องที่ อ.ปากช่อง ซึ่งอยู่เหนือเขื่อน เป็นเหตุให้น้ำไหลเข้าตัวเขื่อน เป็นจำนวนมากจนเหลือเพียง 30%เท่านั้น น้ำก็จะล้นเขื่อน ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนี้ สำนักงานชลประทานลำตะคอง จึงจำเป็นต้องระบายน้ำออกจากเขื่อนภายในเวลา 24.00 น.คืนนี้ ทั้งนี้เพื่อป้องกันการแตกร้าว ของตัวเขื่อนซึ่งอาจจะเกิด อันตรายกับประชาชนที่อาศัยอยู่ใต้เขื่อน
ดังนั้น จึงขอประกาศให้ประชาชนที่อาศัย อยู่ตามที่ลุ่ม ริมลำตะคอง รีบเก็บสิ่งของขนย้ายไปอยู่บนพื้นที่สูง นอกจากนั้นยังขอให้ทุกฝ่ายออกประกาศเตือนพร้อมเตรียมตัวให้การช่วยเหลือประชาชนเมื่อมีเหตุน้ำท่วมเกิดขึ้นในทันที
ส่วนอ่างเก็บน้ำเขื่อนซับประดู่ซึ่งเป็นเขื่อนขนาดเล็กสามารถกักเก็บน้ำได้ 27.67 ล้านลูกบาศก์เมตร ตั้งอยู่ในเขต อ.สีคิ้ว ก็เช่นกัน ก่อนหน้านี้ได้ประกาศบอกชาวบ้าน ว่าทางเขื่อนไม่สามารถจะรองรับน้ำที่กำลังจะล้นได้ จึงจำเป็นจะต้องระบายน้ำออกซึ่งจะทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ของ อ.สีคิ้ว โดยเฉพาะ อ.สูงเนิน ที่รับน้ำโดยตรงจะได้รับผลกระทบมากที่สุด โดยเตือนให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในรัศมีใต้เขื่อนเก็บสิ่งของขึ้นอยู่ในที่ สูง ซึ่งหลังจากที่มีการประกาศแล้ว ทำให้ชาวบ้านที่ทราบข่าว พากันตกใจเก็บข้าวของกันจ้าละหวั่นและยังวิตกกันว่า ถ้าหากเขื่อนทั้ง 2 แห่งเปิดประตูระบายน้ำออกมาพร้อมๆ กัน ประชาชนทั้งเมืองโคราชจะต้องได้รับความเดือนร้อนอีกหลาย เท่าทวีคูณและอาจจะถึงกับเกิดความสูญเสียอย่างยิ่งใหญ่ขึ้นได้
ส่วนทางด้าน พล.ต.ท.เดชาวัต รามสมภพ ผบช.ตร.ภาค 3 ได้วิทยุสั่งการให้เจ้าหน้าที่ ตำรวจทุกสถานีในเขตประสบภัย น้ำท่วมคือ 1.ให้ผู้บังคับบัญชาทุกสถานี จัดส่งผู้ใต้บังคับบัญชาไปร่วม กับฝ่ายปกครอง ออกช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน 2.ออกไปให้การช่วยเหลือประชาชนที่ถูกน้ำท่วม โดยครอบครัวใดไม่มีที่อยู่อาศัย ก็จัดที่อยู่ให้และป้องกันเหตุร้ายให้ด้วย 3.ให้ผู้บังคับบัญชานำลูกน้องออกตรวจพื้นที่ทั้งกลางวัน และกลางคืนเพื่อป้องกันเหตุร้ายจากมิจฉาชีพรวม ถึงให้เฝ้าระวังบุคคลแปลก หน้าที่ส่อพฤติกรรมมีพิรุธ ซึ่งถ้าหากพื้นที่แห่งไหนไม่ปฎิบัติตาม ก็จะพิจารณาลงโทษต่อไป.
http://www.dailynews.co.th
-------------------------------------------------------------------------
เขื่อนลำตะคอง-ลำพะเพิงน้ำล้นเริ่มปล่อยน้ำ
เตือนระวังเขื่อน ลำตะคอง-ลำพะเพิง น้ำล้น เริ่มปล่อยน้ำแล้ว ปภ.กำชับ จนท.พร้อมรับมือน้ำป่าทะลัก
วันนี้ 18 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.นครราชสีมา เบื้องต้น ได้รับรายงานว่า สถานการณ์ปริมาณน้ำในเขื่อนลำตะคอง อ.สี้คิ้ว ล่าสุด พบว่า ปริมาณน้ำสูงขึ้น 2 ซม. จึงทำให้น้ำล้นสปิงเวย์ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ปล่อยน้ำ ออก 20 ลูกบาทเมตรต่อวินาที รวมถึงเขื่อนลำพะเพิง ก็เช่นกัน น้ำที่ล้นเขื่อนทำให้น้ำท่วมพื้นที่ อ.ปักธงชัย
ด้าน นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณ ภัย (ปภ.) กล่าวว่า ได้รับรายงานในพื้นที่จังหวัด นครราชสีมา และปราจีนบุรี ที่ได้รับปัญหาเดือดร้อนอย่าง หนักจากอุทกภัยช่วงนี้ รวมทั้งพื้นที่รอบอุทยานแห่ง ชาติเขาใหญ่ เนื่องจากน้ำป่าไหลลงทุกพื้นที่โดยรอบ อย่างไรก็ตาม ได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้เฝ้าระวัง ตลอดสัปดาห์นี้ เนื่องจากจะมีพายุลูกใหม่เข้ามา และกำชับทุกจังหวัดเฝ้าระวังเตรียมความพร้อมอย่างใกล้ชิด รวมถึงให้ติดตามประเมินสถานการณ์ปัญหาน้ำเหนือไหลบ่า น้ำทะเลหนุน ที่อาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่ ที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำด้วย
...
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
http://news.impaqmsn.com/articles.aspx?id=370389&ch=lc1
-------------------------------------------------------------------------
โคราช-คืบหน้าน้ำท่วมเขตเทศบาลนครนครราชสีมา เช้า 18ตค.53
ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ / นครราชสีมา
ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ / นครราชสีมา
สถานการณ์น้ำท่วมเขตเทศบาลนครนครราชสีมาล่าสุดศูนย์อำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยประกาศแจ้งเตือนประชาชนอพยพขึ้นที่สูงล่าสุดมีรายงานผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมแล้ว 3 ราย
นครราชสีมา เช้ามืดวันนี้ (18 ต.ค. 2553) ระดับน้ำในลำตะคองซึ่งไหลผ่านตัวเมืองนครนครราชสีมาได้เพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ริมสองฝั่งลำตะคองตลอดทั้งสาย
ตั้งแต่อำเภอสีคิ้ว ผ่านอำเภอสูงเนิน เรื่อยมาจนถึงเขตเทศบาลนครนครราชสีมา ส่งผลให้บ้านเรือนหลายพันหลังคาเรือนเดือดร้อนอย่างหนัก โดยเฉพาะบริเวณถนนมิตรภาพ แยกนครราชสีมา น้ำในลำน้ำลำตะคองได้เอ่อทะลักเข้าท่วมโรงเรียนอัสสัมชัญนครราชสีมา และโรงเรียนเพาะชำ 4 เทศบาลนครนครราชสีมา นอกจากนี้ด้วยประมาณน้ำในลำน้ำลำตะคองมีปริมาณที่สูงอย่างมาก ยังได้ทำให้กำแพงของโรงพยาบาลเซนเมรี่ ที่อยู่ติดกับลำน้ำพังทลายลงมา ส่งผลให้น้ำทะลักเข้าท่วมภายในพื้นที่ของโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ยังคงมีผู้ป่วยและญาติ รวมถึง คณะแพทย์พยาบาลของโรงพยาบาลติดอยู่ภายในโรงพยาบาลหลายร้อยชีวิต ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทำการลำเลียงผู้ป่วยและบรรดาญาติๆออกจากโรงพยาบาลได้แล้วส่วนหนึ่ง แต่ยังคงมีอีกนับร้อยชีวิตที่ยังคงรอ
-------------------------------------------------------------------------
นี่คือคำพูดที่เป็นหลักฐานในการหลอกลวงชาวบ้าน
++++++++++++++++++++++++
++++++++++++++++++++++++
วันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2553 เวลา 18:28:45 น. มติชนออนไลน์
"มาร์ค"ปฏิเสธลำตะคองปล่อยน้ำท่วมโคราชชี้เป็นเพราะฝนตกหนัก
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ เปิดเผยวันที่ 19 ตุลาคมถึงกระแสข่าวน้ำล้นเขื่อน จนทำให้น้ำทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนว่าได้สอบถามการระบายน้ำจากเขื่อน โดยเฉพาะเขื่อนลำตะคอง น้ำในเขื่อนนั้นอยู่ในระดับที่เรียกได้ว่าเต็ม เพราะฉะนั้นที่พูดกันว่าเพราะการระบายน้ำทำให้น้ำท่วมนั้นไม่ใช่ เพราะสามารถตรวจสอบระดับน้ำและปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาซึ่งสูงกว่าระดับปกติเกือบเท่าตัว ทำให้เกิดความสะสม และด้วยระยะเวลาที่สั้นทำให้เมื่อน้ำลงมาแล้วรวมกัน ขณะเดียวกันในสภาพพื้นที่อย่างนครราชสีมาและบางจังหวัด ที่มีสิ่งก่อสร้างที่ไปกีดขวางทางน้ำ เพราะฉะนั้นทิสทางการไหลของน้ำจึงเปลี่ยนแปลงแล้วเป็นปัญหาเรื่องการคาดการณ์และการเตือนภัยที่ไม่แม่นยำเท่าที่ควร
“เมื่อวานนี้ที่ตรวจสอบเขาก็ยืนยันกันว่าเขื่อนต่างๆ นั้นเต็ม เมื่อไหลออกมาก็เต็ม ก็ล้น ผมไปดูก็ตอบไม่ได้ว่าก่อนหน้านี้ระบายหรือไม่ แต่ผมถามข้อเท็จจริงว่าปริมาณน้ำแต่ละช่วงเป็นอย่างไร ซึ่งกรณีลำตะคองได้ให้รายงานมาชัดเจนเลยว่าเมื่อ 2-3 สัปดาห์ที่แล้วปริมาณน้ำอยู่ที่เท่าไร ปริมาณฝนลงมาเท่าไร ที่ปล่อยออกมาเท่าไร แต่ก็จะไปตรวจสอบเขื่อนลำพระเพลิงอีกครั้งหนึ่ง เพราะวันนี้ก็ต้องดูว่าปริมาณน้ำที่ไหลผ่านแต่ละเขื่อนมีปริมาณที่เพิ่มหรือลดลงอย่างไร เพื่อประเมินระดับน้ำว่าจะขึ้นหรือลงอย่างไร แต่ทั้งหมดนั้นความเร่งด่วนอยู่ที่การช่วยเหลือ เพราะครั้งนี้จะหนักที่สุดในรอบ 40-50 ปี”
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สำหรับการแจ้งเตือนนั้นบางพื้นที่ไม่มีปัญหา แต่บางพื้นที่กลับมีปัญหา อาทิ ในพื้นที่บริเวณโรงพยาบาล ในจ.นครราชสีมา มีการประมาณการณ์การแจ้งเตือน การเอากระสอบทราบมาวางเป็นแนวป้องกัน แต่เมื่อถึงเวลาจริงปริมาณน้ำฝนและน้ำที่ไหลมา ทำให้แนวป้องกันเอาไม่อยู่ ซึ่งยืนยันได้ว่ามีการเตือนประชาชนในหลายวิธีการ แต่บางพื้นที่มีปัญหาเรื่องการตัดไฟ ก็ได้สั่งการให้ประสานงานให้ชัดเจนว่าเวลาตัดไฟจะต้องประสานงานกันอย่างไร
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1287487768&grpid=03&catid=00
++++++++++++++++++++++++
...
เมื่อถามว่า ปัญหาน้ำท่วมไม่ใช่จากน้ำป่า แต่เป็นการระบายออกจากเขื่อน ใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวปฏิเสธว่า ไม่ใช่มาจากน้ำฝน ซึ่งได้สอบถามว่ามีการระบายน้ำออกจากเขื่อนหรือไม่ โดยเฉพาะลำตะคอง คำตอบคือไม่มี แต่น้ำในเขื่อนเต็ม ฉะนั้นที่มีการพูดว่า เป็นเพราะมีการระบายน้ำนั้นไม่ใช่ และจากการที่ตนดูปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาสูงกว่าเกณฑ์ปกติเกือบเท่าตัว เมื่อถามต่อว่าการบริหารจัดการน้ำไม่ได้มีการประเมินกันก่อนหรืออย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ที่จริงปีนี้เป็นปีที่เราเริ่มต้นจากปริมาณน้ำในเขื่อนต่ำอยู่แล้ว คงจำได้ตนเคยไล่ติดตามตัวเลข จนถึงวันนี้ เช่น เขื่อนภูมิพลยังถือว่า มีปริมาณน้ำในระดับที่ต่ำ ซึ่งก่อนหน้านี้แล้งมาก ฉะนั้นจริงๆแล้ว ส่วนหนึ่งปัญหาก็เกิดขึ้นจากเรื่องฝนที่ตกลงมาสะสม และระยะเวลาที่ค่อยข้างสั้น ปริมาณน้ำที่ลงมาแล้วไหลมารวมกัน ขณะเดียวกัน สภาพพื้นที่อย่างเช่น โคราช และมีบางจังหวัดมีปัญหาที่เมื่อพื้นที่มีความเจริญมากขึ้น มีสิ่งก่อสร้างกีดขวางทางน้ำ ผลทิศทางของน้ำที่อาจจะเปลี่ยนแปลงไปเป็นปัญหาที่ทำให้การคาดการณ์ หรือการเตือนภัยมันถึงไม่แม่นยำเท่าที่ควร ส่วนการระบายน้ำที่ไหลลงจากเขื่อน ลำพระเพลิงนั้น จากการตรวจสอบเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาเขาก็ยืนยันว่า เรื่องของเขื่อนขณะนี้การรับ น้ำขณะนี้เต็ม ความหมายก็คือล้น
เมื่อถามว่า บางทีการฟังจากเจ้าหน้าที่ไม่ได้ ต้องไปดูจากของจริง นายกฯ กล่าวว่า เราทราบว่าน้ำมันไหลมา มันล้นก็ไหลมาจากตรงนั้น ก่อนหน้านี้ตนก็ตอบไม่ได้ว่า ระบายหรือไม่ระบาย ตนก็ต้องถามข้อเท็จจริงว่าปริ มาณน้ำแต่ละช่วงเป็นอย่างไร แต่กรณีลำตะคองให้รายงานชัดว่า เมื่อ 2 อาทิตย์ที่แล้ว 3 อาทิตย์ที่แล้ว ระดับน้ำอยู่ที่เท่าไร ปริมาณฝนลงมาเท่าไร และที่ปล่อยออกมาผ่านออกมาเป็นอย่างไร ตอนนี้ปริมาณน้ำที่ไหลผ่านแต่ละเขื่อน มีปริมาณที่เพิ่มหรือลดลงอย่างไร ประเมินสถานการณ์น้ำจะขึ้นหรือจะลง ตนไม่ได้ไปนั่งฟังอย่างเดียว และได้ซักถามสอบข้อเท็จจริงเท่าที่จะทำได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นอยู่ที่การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน จริงๆ แล้วพื้นที่โคราชมีน้ำท่วมมาหลายครั้ง แต่ครั้งนี้จะหนักที่สุดในรอบ 40-50 ปี สถานะของเขื่อนในการรับน้ำบริเวณพื้นที่มีการปัญหาน้ำในเขื่อนเต็มหมด
...
http://thairecent.com/Politic/2010/736020/
-------------------------------------------------------------------------
แถมมีหลายๆ เขื่อนในอดีตก็ใช้วิธีปล่อยน้ำ
จนไปสร้างความเสียหายต่อชีวิตหรือทรัพย์สินชาวบ้านมาแล้ว
นี่กรณี เขื่อนศรีนครินทร์
++++++++++++++++++
แจงเขื่อนปล่อยน้ำ ป้องกันไฟดับ เหตุพม่าไม่ส่งก๊าซ
ผอ.เขื่อนศรีนครินทร์ ขอโทษชาวกาญจน์ที่ต้องปล่อยน้ำ เต็มพิกัดทำให้เกิดน้ำท่วม แจงสาเหตุเพราะแหล่งก๊าซธรรม ชาติในพม่า ไม่ทำงาน ทำให้ไม่มีก๊าซผลิตไฟทั้งประเทศ ต้องใช้ระบบน้ำแทน
จากกรณีเขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรีสวัสดิ์ และเขื่อนวชิราลงกรณ์ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เปิดประตูระบายน้ำเต็มพิกัดตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 15 ส.ค. ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำแควใหญ่ เพิ่มสูงขึ้นเกือบ 3 เมตร ไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรที่อาศัยอยู่ตามที่ลุ่มริมแม่น้ำใต้เขื่อน ด้รับความเดือดร้อนจำนวนมากนั้น
เมื่อเย็นวานนี้ (16 ส.ค.) นายกิตติ ตันเจริญ ผู้อำนวยการเขื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี เปิดเผยถึงสาเหตุที่ต้องเปิดระบายน้ำเต็มพิกัดว่า เนื่องจากเมื่อวันที่ 13 ส.ค. แหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติบงกชในอ่าวไทย มีปัญหา ลดการผลิตลง 650 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ต่อมาวันที่ 15 ส.ค. แหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติยาดานา ในสหภาพพม่า มีปัญหาเช่นกันทำให้ก๊าซธรรมชาติหายไป 1,100 ล้านลูกบาศก์ฟุต รวมทั้ง 2 แหล่งหายไป 1,750 ล้านลูกบาศก์ฟุต หรือคิดเป็นกำลังผลิตรวม 10,000 MW ซึ่งเกินความสามารถของโรงไฟฟ้าพลังความร้อน และพลังความร้อนร่วมที่ขนานอยู่ในระบบ
นายกิตติ กล่าวต่อว่า เพื่อไม่ให้ไฟฟ้าดับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จึงให้โรงไฟฟ้าพลังน้ำหลายแห่ง เดินเครื่องช่วยระบบเขื่อนศรีนครินทร์จึงต้องเดินเครื่องทั้ง 5 เครื่อง ตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค. เวลา 08.00-02.00 น.ของวันที่ 16 ส.ค. จึงได้หยุดการผลิตทั้ง 5 เครื่อง ขณะนี้เหตุการณ์ได้เข้าสู่สภาวะปกติแล้ว เพราะแหล่งก๊าซธรรมชาติยาดานาใช้งานได้ปกติ ตั้งแต่เวลา 19.00 น. ของวันที่ 15 ส.ค. และต้องขอโทษชาวกาญจนบุรีในพื้นที่บางส่วนที่อยู่ติดริมน้ำ ได้รับผลกระทบจากการปล่อยน้ำดังกล่าว และขอบคุณชาวกาญจนบุรีที่ช่วยให้ระบบไฟฟ้าของทั้งประเทศ สามารถรักษาระบบไว้ได้ มิฉะนั้นจะเกิดปัญหาไฟฟ้าดับได้ ซึ่งขณะนี้น้ำในลำน้ำจะลดระดับน้ำริมตลิ่งลงเรื่อยๆ และกลับสู่สภาวะปกติ
ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าเหตุที่ปล่อยน้ำออกมาเกิดจากเขื่อนมีปัญหาที่เกิดผลกระทบจากแผ่นดินไหวเมื่อ 4 วันก่อน นายกิตติ กล่าวว่า ขอยืนยันว่าเขื่อนศรีนครินทร์และเขื่อนวชิราลงกรณมีความมั่นคง แข็งแรง 100% โดยในวันที่เกิดแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่นและอินโดนีเซียจุดศูนย์กลางห่างจากเขื่อนประมาณ 600 กิโลเมตร เครื่องรับสัญญาณสั่งสะเทือน ไม่สามารถตรวจจับสัญญาณผิวดินสัญญาณสะเทือนได้ถือว่าเขื่อนไม่ได้รับผลกระทบจากการสั่นไหวของแผ่นดินในเวลาดังกล่าว จึงขอยืนยันว่าเขื่อนแข็งแรงปลอดภัย
http://www.siamsouth.com/smf/index.php?topic=8490.0
-------------------------------------------------------------------------
นี่กรณี เขื่อนจุฬาภรณ์ จ.ชัยภูมิ เขื่อน , อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น และเขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์
++++++++++++++++++
ฝนตก และเขื่อนปล่อยน้ำ ทำให้นาข้าวชาวร้อยเอ็ดจมหลายพันไร่
วันที่ 2 ก.ย. 2553
จากสถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ดติดต่อกันหลายวัน ประกอบกับเขื่อนจุฬาภรณ์ จ.ชัยภูมิ เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น และเขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ ปล่อยน้ำออกเต็มที่ทำให้ไหลลงลำน้ำชีที่อยู่ตอนล่าง ไหลบ่าล้นตลิ่งเข้าท่วมอำเภอที่อยู่ติดลำน้ำชี ของจังหวัดร้อยเอ็ด ได้แก่ อ.จังหาร เชียงขวัญ โพธิ์ชัย เสลภูมิ อาจสามารถ พนมไพร และทุ่งเขาหลวง หนักสุดได้แก่อำเภอจังหารซึ่งเป็นอำเภอแรก ณ วันที่ 31 ส.ค.53 แม่น้ำชีล้นตลิ่งไหลบ่าเข้าท่วม นาข้าวเกษตรกรของอำเภอจัง หารระดับน้ำสูง 1 - 2 เมตร ขยายวงกว้างออกไป 4 ตำบล 16 หมู่บ้าน ได้แก่ ตำบลผักแว่น 11 หมู่บ้าน เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน 210 ราย นาข้าวจมน้ำ 2,778 ไร่ ตำบลม่วงลาด 3 หมู่บ้าน เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน 29 ราย นาข้าวจมน้ำ 285 ไร่ ตำบลแสนชาติ 1 หมู่บ้าน เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน 10 ราย นาข้าวจมน้ำ 20 ไร่ และตำบลดินดำ 1 หมู่บ้าน เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน 10 ราย นาข้าวจมน้ำ 30 ไร่ รวมพื้นที่นาจมน้ำเสียหายสิ้นเชิง 4 ตำบล 16 หมู่บ้าน เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน 259 ราย พื้นที่นาเสียหายสิ้นเชิง 3,113 ไร่ ขณะนี้เกษตรกรเร่งเก็บเกี่ยวข้าวแม้ยังไม่สุกเต็มที่เอาผึ่งแดดไว้กินเองและ เลี้ยงสัตว์ บ่นอุบขาดทุนไปตามๆกัน ด้านนายพิชัย-นางปอน โพธิ์คะมาตย์ สองสามีภรรยาชาวบ้านดินแดง หมู่ 3 ต.ดงสิงห์ อ.จังหาร ถือวิกฤติเป็นโอกาสหารายได้โดยการจับปลาในแม่น้ำชีขายริมทาง อาทิ ปลาปึ่ง ปลาค้าว ปลากด ปลายอน และปลาเนื้ออ่อน มีรายได้วันละ 300 - 500 บาท ต่อวัน ประทังชีวิตไปวันๆ นายทรงวุฒิ กิจวรวุฒิ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานร้อยเอ็ด ได้ฝากเตือนประชาชนที่อยู่อาศัย ที่ติดลำน้ำชีให้ระวังน้ำ ท่วมฉับพลันใน พื้นที่อำเภอจังหาร เชียงขวัญ และอำเภอเสลภูมิ ขณะนี้ประมาณน้ำในลำน้ำชีเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะลำน้ำชี ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นวันละ 10 เซนติเมตร จึงขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารจากทางราชการ เพื่อเตรียมความพร้อมขนย้าย สิ่งของไว้ในที่สูง
...
เมื่อถามว่า ปัญหาน้ำท่วมไม่ใช่จากน้ำป่า แต่เป็นการระบายออกจากเขื่อน ใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวปฏิเสธว่า ไม่ใช่มาจากน้ำฝน ซึ่งได้สอบถามว่ามีการระบายน้ำออกจากเขื่อนหรือไม่ โดยเฉพาะลำตะคอง คำตอบคือไม่มี แต่น้ำในเขื่อนเต็ม ฉะนั้นที่มีการพูดว่า เป็นเพราะมีการระบายน้ำนั้นไม่ใช่ และจากการที่ตนดูปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาสูงกว่าเกณฑ์ปกติเกือบเท่าตัว เมื่อถามต่อว่าการบริหารจัดการน้ำไม่ได้มีการประเมินกันก่อนหรืออย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ที่จริงปีนี้เป็นปีที่เราเริ่มต้นจากปริมาณน้ำในเขื่อนต่ำอยู่แล้ว คงจำได้ตนเคยไล่ติดตามตัวเลข จนถึงวันนี้ เช่น เขื่อนภูมิพลยังถือว่า มีปริมาณน้ำในระดับที่ต่ำ ซึ่งก่อนหน้านี้แล้งมาก ฉะนั้นจริงๆแล้ว ส่วนหนึ่งปัญหาก็เกิดขึ้นจากเรื่องฝนที่ตกลงมาสะสม และระยะเวลาที่ค่อยข้างสั้น ปริมาณน้ำที่ลงมาแล้วไหลมารวมกัน ขณะเดียวกัน สภาพพื้นที่อย่างเช่น โคราช และมีบางจังหวัดมีปัญหาที่เมื่อพื้นที่มีความเจริญมากขึ้น มีสิ่งก่อสร้างกีดขวางทางน้ำ ผลทิศทางของน้ำที่อาจจะเปลี่ยนแปลงไปเป็นปัญหาที่ทำให้การคาดการณ์ หรือการเตือนภัยมันถึงไม่แม่นยำเท่าที่ควร ส่วนการระบายน้ำที่ไหลลงจากเขื่อน ลำพระเพลิงนั้น จากการตรวจสอบเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาเขาก็ยืนยันว่า เรื่องของเขื่อนขณะนี้การรับ น้ำขณะนี้เต็ม ความหมายก็คือล้น
เมื่อถามว่า บางทีการฟังจากเจ้าหน้าที่ไม่ได้ ต้องไปดูจากของจริง นายกฯ กล่าวว่า เราทราบว่าน้ำมันไหลมา มันล้นก็ไหลมาจากตรงนั้น ก่อนหน้านี้ตนก็ตอบไม่ได้ว่า ระบายหรือไม่ระบาย ตนก็ต้องถามข้อเท็จจริงว่าปริ มาณน้ำแต่ละช่วงเป็นอย่างไร แต่กรณีลำตะคองให้รายงานชัดว่า เมื่อ 2 อาทิตย์ที่แล้ว 3 อาทิตย์ที่แล้ว ระดับน้ำอยู่ที่เท่าไร ปริมาณฝนลงมาเท่าไร และที่ปล่อยออกมาผ่านออกมาเป็นอย่างไร ตอนนี้ปริมาณน้ำที่ไหลผ่านแต่ละเขื่อน มีปริมาณที่เพิ่มหรือลดลงอย่างไร ประเมินสถานการณ์น้ำจะขึ้นหรือจะลง ตนไม่ได้ไปนั่งฟังอย่างเดียว และได้ซักถามสอบข้อเท็จจริงเท่าที่จะทำได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นอยู่ที่การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน จริงๆ แล้วพื้นที่โคราชมีน้ำท่วมมาหลายครั้ง แต่ครั้งนี้จะหนักที่สุดในรอบ 40-50 ปี สถานะของเขื่อนในการรับน้ำบริเวณพื้นที่มีการปัญหาน้ำในเขื่อนเต็มหมด
...
http://thairecent.com/Politic/2010/736020/
-------------------------------------------------------------------------
แถมมีหลายๆ เขื่อนในอดีตก็ใช้วิธีปล่อยน้ำ
จนไปสร้างความเสียหายต่อชีวิตหรือทรัพย์สินชาวบ้านมาแล้ว
นี่กรณี เขื่อนศรีนครินทร์
++++++++++++++++++
แจงเขื่อนปล่อยน้ำ ป้องกันไฟดับ เหตุพม่าไม่ส่งก๊าซ
ผอ.เขื่อนศรีนครินทร์ ขอโทษชาวกาญจน์ที่ต้องปล่อยน้ำ เต็มพิกัดทำให้เกิดน้ำท่วม แจงสาเหตุเพราะแหล่งก๊าซธรรม ชาติในพม่า ไม่ทำงาน ทำให้ไม่มีก๊าซผลิตไฟทั้งประเทศ ต้องใช้ระบบน้ำแทน
จากกรณีเขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรีสวัสดิ์ และเขื่อนวชิราลงกรณ์ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เปิดประตูระบายน้ำเต็มพิกัดตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 15 ส.ค. ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำแควใหญ่ เพิ่มสูงขึ้นเกือบ 3 เมตร ไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรที่อาศัยอยู่ตามที่ลุ่มริมแม่น้ำใต้เขื่อน ด้รับความเดือดร้อนจำนวนมากนั้น
เมื่อเย็นวานนี้ (16 ส.ค.) นายกิตติ ตันเจริญ ผู้อำนวยการเขื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี เปิดเผยถึงสาเหตุที่ต้องเปิดระบายน้ำเต็มพิกัดว่า เนื่องจากเมื่อวันที่ 13 ส.ค. แหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติบงกชในอ่าวไทย มีปัญหา ลดการผลิตลง 650 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ต่อมาวันที่ 15 ส.ค. แหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติยาดานา ในสหภาพพม่า มีปัญหาเช่นกันทำให้ก๊าซธรรมชาติหายไป 1,100 ล้านลูกบาศก์ฟุต รวมทั้ง 2 แหล่งหายไป 1,750 ล้านลูกบาศก์ฟุต หรือคิดเป็นกำลังผลิตรวม 10,000 MW ซึ่งเกินความสามารถของโรงไฟฟ้าพลังความร้อน และพลังความร้อนร่วมที่ขนานอยู่ในระบบ
นายกิตติ กล่าวต่อว่า เพื่อไม่ให้ไฟฟ้าดับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จึงให้โรงไฟฟ้าพลังน้ำหลายแห่ง เดินเครื่องช่วยระบบเขื่อนศรีนครินทร์จึงต้องเดินเครื่องทั้ง 5 เครื่อง ตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค. เวลา 08.00-02.00 น.ของวันที่ 16 ส.ค. จึงได้หยุดการผลิตทั้ง 5 เครื่อง ขณะนี้เหตุการณ์ได้เข้าสู่สภาวะปกติแล้ว เพราะแหล่งก๊าซธรรมชาติยาดานาใช้งานได้ปกติ ตั้งแต่เวลา 19.00 น. ของวันที่ 15 ส.ค. และต้องขอโทษชาวกาญจนบุรีในพื้นที่บางส่วนที่อยู่ติดริมน้ำ ได้รับผลกระทบจากการปล่อยน้ำดังกล่าว และขอบคุณชาวกาญจนบุรีที่ช่วยให้ระบบไฟฟ้าของทั้งประเทศ สามารถรักษาระบบไว้ได้ มิฉะนั้นจะเกิดปัญหาไฟฟ้าดับได้ ซึ่งขณะนี้น้ำในลำน้ำจะลดระดับน้ำริมตลิ่งลงเรื่อยๆ และกลับสู่สภาวะปกติ
ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าเหตุที่ปล่อยน้ำออกมาเกิดจากเขื่อนมีปัญหาที่เกิดผลกระทบจากแผ่นดินไหวเมื่อ 4 วันก่อน นายกิตติ กล่าวว่า ขอยืนยันว่าเขื่อนศรีนครินทร์และเขื่อนวชิราลงกรณมีความมั่นคง แข็งแรง 100% โดยในวันที่เกิดแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่นและอินโดนีเซียจุดศูนย์กลางห่างจากเขื่อนประมาณ 600 กิโลเมตร เครื่องรับสัญญาณสั่งสะเทือน ไม่สามารถตรวจจับสัญญาณผิวดินสัญญาณสะเทือนได้ถือว่าเขื่อนไม่ได้รับผลกระทบจากการสั่นไหวของแผ่นดินในเวลาดังกล่าว จึงขอยืนยันว่าเขื่อนแข็งแรงปลอดภัย
http://www.siamsouth.com/smf/index.php?topic=8490.0
-------------------------------------------------------------------------
นี่กรณี เขื่อนจุฬาภรณ์ จ.ชัยภูมิ เขื่อน , อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น และเขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์
++++++++++++++++++
ฝนตก และเขื่อนปล่อยน้ำ ทำให้นาข้าวชาวร้อยเอ็ดจมหลายพันไร่
วันที่ 2 ก.ย. 2553
จากสถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ดติดต่อกันหลายวัน ประกอบกับเขื่อนจุฬาภรณ์ จ.ชัยภูมิ เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น และเขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ ปล่อยน้ำออกเต็มที่ทำให้ไหลลงลำน้ำชีที่อยู่ตอนล่าง ไหลบ่าล้นตลิ่งเข้าท่วมอำเภอที่อยู่ติดลำน้ำชี ของจังหวัดร้อยเอ็ด ได้แก่ อ.จังหาร เชียงขวัญ โพธิ์ชัย เสลภูมิ อาจสามารถ พนมไพร และทุ่งเขาหลวง หนักสุดได้แก่อำเภอจังหารซึ่งเป็นอำเภอแรก ณ วันที่ 31 ส.ค.53 แม่น้ำชีล้นตลิ่งไหลบ่าเข้าท่วม นาข้าวเกษตรกรของอำเภอจัง หารระดับน้ำสูง 1 - 2 เมตร ขยายวงกว้างออกไป 4 ตำบล 16 หมู่บ้าน ได้แก่ ตำบลผักแว่น 11 หมู่บ้าน เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน 210 ราย นาข้าวจมน้ำ 2,778 ไร่ ตำบลม่วงลาด 3 หมู่บ้าน เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน 29 ราย นาข้าวจมน้ำ 285 ไร่ ตำบลแสนชาติ 1 หมู่บ้าน เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน 10 ราย นาข้าวจมน้ำ 20 ไร่ และตำบลดินดำ 1 หมู่บ้าน เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน 10 ราย นาข้าวจมน้ำ 30 ไร่ รวมพื้นที่นาจมน้ำเสียหายสิ้นเชิง 4 ตำบล 16 หมู่บ้าน เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน 259 ราย พื้นที่นาเสียหายสิ้นเชิง 3,113 ไร่ ขณะนี้เกษตรกรเร่งเก็บเกี่ยวข้าวแม้ยังไม่สุกเต็มที่เอาผึ่งแดดไว้กินเองและ เลี้ยงสัตว์ บ่นอุบขาดทุนไปตามๆกัน ด้านนายพิชัย-นางปอน โพธิ์คะมาตย์ สองสามีภรรยาชาวบ้านดินแดง หมู่ 3 ต.ดงสิงห์ อ.จังหาร ถือวิกฤติเป็นโอกาสหารายได้โดยการจับปลาในแม่น้ำชีขายริมทาง อาทิ ปลาปึ่ง ปลาค้าว ปลากด ปลายอน และปลาเนื้ออ่อน มีรายได้วันละ 300 - 500 บาท ต่อวัน ประทังชีวิตไปวันๆ นายทรงวุฒิ กิจวรวุฒิ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานร้อยเอ็ด ได้ฝากเตือนประชาชนที่อยู่อาศัย ที่ติดลำน้ำชีให้ระวังน้ำ ท่วมฉับพลันใน พื้นที่อำเภอจังหาร เชียงขวัญ และอำเภอเสลภูมิ ขณะนี้ประมาณน้ำในลำน้ำชีเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะลำน้ำชี ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นวันละ 10 เซนติเมตร จึงขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารจากทางราชการ เพื่อเตรียมความพร้อมขนย้าย สิ่งของไว้ในที่สูง
-------------------------------------------------------------------------
นี่เป็นต้นเหตุของน้ำท่วมหลายหมู่บ้านในอำเภอแม่พริก
++++++++++++++++++
20 ตุลาคม 2553 / 18:32:58
นายอำเภอแม่พริก จ.ลำปาง ยืนยัน อ่างเก็บน้ำแม่พริก ไม่ได้แตกตามข่าวลือ เป็นเพียงปริมาณน้ำมีมากเกินจนล้นทะลักไหลจากอ่าง
นายสุรพล บุรินทราพันธ์ นายอำเภอแม่พริก ให้สัมภาษณ์ในรายการข่าวยามแลงของ สวท.ลำปาง ว่า จากกระแสข่าวอ่างเก็บน้ำแม่พริก (ผาวิ่งชู้) บ้านสันขี้เหล็ก หมู่ 10 ต.แม่พริก อ.แม่พริก จ.ลำปาง แตก นั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เป็นเพียงน้ำที่มีปริมาณมากเกิน ทำให้ล้นทะลักออกจากอ่าง เข้าท่วมในพื้นที่ใกล้เคียง และเริ่มลดระดับลงแล้ว ซึ่งอ่างเก็บน้ำแม่พริก ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างได้ประมาณร้อยละ 70 โดยทางชลประทานได้ยืนยันเกี่ยวกับการก่อสร้างมีความมั่นคงปลอดภัย มีการควบคุมตลอดเวลาในการก่อสร้าง พร้อมเฝ้าระวังการระบายน้ำอยู่ตลอดเวลาในช่วงที่มีฝนตกหนัก
แต่เพื่อความไม่ประมาทขณะนี้ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เฝ้าติดตามสถานการณ์ 24 ชั่วโมง และประชาสัมพันธ์แจ้งให้ประชาชนทราบว่าไม่เป็นไปตามที่ข่าวลือ
http://region3.prd.go.th/ct/news/viewnews.php?ID=101020183258
-------------------------------------------------------------------------
นายอำเภอแม่พริก จ.ลำปาง ยืนยัน อ่างเก็บน้ำแม่พริก ไม่ได้แตกตามข่าวลือ เป็นเพียงปริมาณน้ำมีมากเกินจนล้นทะลักไหลจากอ่าง
นายสุรพล บุรินทราพันธ์ นายอำเภอแม่พริก ให้สัมภาษณ์ในรายการข่าวยามแลงของ สวท.ลำปาง ว่า จากกระแสข่าวอ่างเก็บน้ำแม่พริก (ผาวิ่งชู้) บ้านสันขี้เหล็ก หมู่ 10 ต.แม่พริก อ.แม่พริก จ.ลำปาง แตก นั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เป็นเพียงน้ำที่มีปริมาณมากเกิน ทำให้ล้นทะลักออกจากอ่าง เข้าท่วมในพื้นที่ใกล้เคียง และเริ่มลดระดับลงแล้ว ซึ่งอ่างเก็บน้ำแม่พริก ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างได้ประมาณร้อยละ 70 โดยทางชลประทานได้ยืนยันเกี่ยวกับการก่อสร้างมีความมั่นคงปลอดภัย มีการควบคุมตลอดเวลาในการก่อสร้าง พร้อมเฝ้าระวังการระบายน้ำอยู่ตลอดเวลาในช่วงที่มีฝนตกหนัก
แต่เพื่อความไม่ประมาทขณะนี้ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เฝ้าติดตามสถานการณ์ 24 ชั่วโมง และประชาสัมพันธ์แจ้งให้ประชาชนทราบว่าไม่เป็นไปตามที่ข่าวลือ
http://region3.prd.go.th/ct/news/viewnews.php?ID=101020183258
-------------------------------------------------------------------------
โดย มาหาอะไร
FfF
FfF