บันทึกเรื่องราว สืบสาวความจริง ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน.
Save the stories. Investigate the truth. Give to the next generation.


10 พฤศจิกายน 2553

<<< อภิสิทธิ์บริหารประเทศทุบ 2 สถิติประเทศไทย >>>

สถิติที่ 1
สั่งสลายม็อบจนมีคนตายเฉียด 100 ศพ
บาดเจ็บพันกว่าราย
ทุบสถิติสมัย 14 ตุลา ไปเรียบร้อยแล้ว

<<< บันทึกประวัติศาสตร์ ของญาติผู้เสียชีวิตและผู้รอดตาย จากการสังหารโหดของทหารไทย >>>
http://maha-arai.blogspot.com/2010/05/blog-post_30.html

สถิติที่ 2
ปีที่มีคนตายเกี่ยวกับอุทกภัยมากที่สุด
จากข่าว ณ วันที่ 9 พ.ย.53
มีคนตาย 181 รายแล้ว
เมื่อเทียบกับหลักฐานสถิติอุทกภัยในรอบ 30 ปีของประเทศไทย
ปรากฏว่าปีนี้ทุบสถิติเก่าไปเรียบร้อยแล้ว
ทั้งที่มีปริมาณฝนตกใน 24 ชม. น้อยกว่าสถิติในอดีตมาก
[ สถิติ อุทกภัยในรอบ 30 ปีของประเทศไทย ]

แต่มีคนตายมากและตายเยอะในจังหวัดที่เกี่ยวกับเขื่อนปล่อยน้ำด้วย
โดยเฉพาะโคราชและสงขลา ตายสูงมาก
ตามไปดูสาเหตุได้ที่ 2 เรื่องนี้

<<< ข้อเท็จจริงที่ควรรู้ เรื่อง โคราชน้ำท่วมใหญ่ในรอบ 50 ปี ซึ่งมีปริมาณน้ำฝนน้อยกว่าอดีตทำไมถึงท่วมหนักได้ >>>
http://maha-arai.blogspot.com/2010/10/1-200.html

<<< ข้อเท็จจริงที่ควรรู้ เรื่อง น้ำท่วมใหญ่สงขลารูปแบบเดียวกันกับน้ำท่วมใหญ่โคราช >>>
http://maha-arai.blogspot.com/2010/11/blog-post_05.html

โดย มาหาอะไร

-----------------------------------------------

85 ศพ "อภิสิทธิ์"อันดับ 1 นายกฯที่คนตายมากสุดจากการต่อต้าน

กระทรวงสาธารณสุข สรุปตัวเลขผู้เสียชีวิต ตั้งแต่เริ่มมีการชุมนุมเรียกร้องยุบสภาเมื่อวันที่ 12 มีนาคมจนถึงวันที่ 19 พฤษภาคม

ก่อนหน้านี้ประวัติศาสตร์การชุมนุมทางการเมืองในไทย อันเนื่องมาจากประชาชนร่วมกันออกมาต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตย หรือขับไล่รัฐบาลขณะนั้น เหตุการณ์ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด คือ เหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 นายกรัฐมนตรีขณะนั้นคือ จอมพลถนอม กิตติขจร มียอดรวมผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการ 77 คน

หลังจากนั้น 3 ปี เกิดเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ซึ่งก็เป็นผลพวงจากเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 นายกรัฐมนตรีขณะนั้น คือ หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช จากพรรคประชาธิปัตย์ มียอดรวมผู้เสียชีวิต 41 คน อีก 16 ปีต่อมา เกิดเหตุการณ์ 17-19 พฤษภาคม 2535 นายกรัฐมนตรีขณะนั้น คือ พลเอกสุจินดา คราประยูร มียอดรวมผู้เสียชีวิต 40 คน

ส่วนเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เหตุการณ์วันที่ 7 ตุลาคม 2551 สมัยรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ มีผู้เสียชีวิต 2 คน

ขณะที่ในยุคนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ตั้งแต่เริ่มมีการชุมนุมเรียกร้องยุบสภาเมื่อวันที่ 12 มีนาคมจนถึงวันที่ 19 พฤษภาคม สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตรวม 85 คน บาดเจ็บ 1,189 ราย

เฉพาะระหว่างวันที่ 14-19 พฤษภาคม มีผู้เสียชีวิต 53 ราย อยู่ในเขตกทม. 52 ราย และขอนแก่น 1 ราย / ส่วนผู้บาดเจ็บมี 480 ราย อยู่ในกทม. 437 ราย และใน 7 จังหวัด 43 ราย

ในจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด 85 ราย เป็นอาสาสมัครกู้ชีพในหน่วยปฏิบัติการแพทย์ฉุกเฉิน 2 ราย / เป็นสื่อมวลชนต่างชาติ 2 ราย และจากตัวเลขดังกล่าว ทำให้นายอภิสิทธิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ที่มีสถิติผู้เสียชีวิตเพราะการชุมนุมต่อต้าน มากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งในประวัติศาสตร์การเมืองไทย

Content by Vocie TV
22 พฤษภาคม 2553 เวลา 15:40 น.

http://www.voicetv.co.th/content/13717/85ศพอภิสิทธิ์อันดับ1นายกฯที่คนตายมากสุดจากการต่อต้าน

-----------------------------------------------

ยอดผู้เสียชีวิต181รายน้ำท่วม-หนาว10จ.
วันอังคาร ที่ 09 พฤศจิกายน 2553 เวลา 10:18 น

ปภ.รายงานยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 30 จว.ยอดผู้เสียชีวิต 181 ราย ประสบภัยหนาวแล้ว 10 จว.

วันที่ (9 พ.ย.) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวม 18 จังหวัด 87 อำเภอ 669 ตำบล 4,912 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 474,497 ครัวเรือน 1,421,140 คน ผู้เสียชีวิต 125 ราย แบ่งเป็น ภาคเหนือ 1 จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 8 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา ศรีสะเกษ สุรินทร์ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด อุบลราชธานี ภาคกลาง 9 จังหวัด ได้แก่ ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี นนทบุรี ปทุมธานี ส่วนภาคใต้เกิดสถานการณ์อุทกภัย ใน 12 จังหวัด 130 อำเภอ 817 ตำบล 5,642 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 535,696 ครัวเรือน 1,731,876 คน ผู้เสียชีวิต 56 ราย ได้แก่ สงขลา สตูล ตรัง นราธิวาส ยะลา ปัตตานี พัทลุง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช กระบี่ ชุมพร และระนอง ขณะนี้ทั่วประเทศมีพื้นที่ประสบอุทกภัย รวม 30 จังหวัด 217 อำเภอ 1,486 ตำบล 10,554 หมู่บ้าน 1,010,193 ครัวเรือน 3,153,016 คน ผู้เสียชีวิต 181 ราย ทั้งนี้ ผู้ประสบอุทกภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานขณะนี้มีพื้นที่ประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน(ภัยหนาว) แล้ว10 จังหวัด 141 อำเภอ 989 ตำบล 33,624 หมู่บ้าน แบ่งเป็น ภาคเหนือ 6 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ พะเยา แม่ฮ่องสอน น่าน ลำพูน และเชียงราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4 จังหวัด ได้แก่ อุดรธานี สกลนคร เลย และขอนแก่น สำหรับการช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาวได้ดำเนินการแจกจ่ายเครื่องนุ่งห่มกัน หนาวไปแล้ว จำนวน 16,400 ชิ้น ทั้งนี้ ผู้ประสบภัยหนาวสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานมีผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์อุทกภัย รวม 181 ราย ใน 28 จังหวัด ซึ่ง ปภ.จะได้ประสานสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดดำเนินการให้ความ ช่วยเหลือค่าจัดการศพตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ และเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมจากกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี

นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ภาวะฝนตกหนัก ส่งผลให้เกิดสถานการณ์อุทกภัยใน หลายพื้นที่ ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 181 ราย ใน 28 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา 31 ราย บุรีรัมย์ 6 ราย ลพบุรี 17 ราย ขอนแก่น 5 ราย ระยอง 1 ราย ตราด 1 ราย สระแก้ว 1 ราย ชัยภูมิ 7 ราย สระบุรี 4 ราย นครสวรรค์ 14 ราย อุทัยธานี 1 ราย ชัยนาท 3 ราย นนทบุรี 4 ราย กำแพงเพชร 4 ราย สุพรรณบุรี 6 ราย พิจิตร 1 ราย ปทุมธานี 3 ราย พระนครศรีอยุธยา 7 ราย เพชรบูรณ์ 2 ราย สิงห์บุรี 7 ราย สงขลา 26 ราย สตูล 2 ราย สุราษฎร์ธานี 5 ราย ปัตตานี 5 ราย พัทลุง 6 ราย ชุมพร 1 ราย ตรัง 3 ราย และนครศรีธรรมราช 8 ราย จากการวิเคราะห์สถิติผู้ เสียชีวิต พบว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้เสียชีวิต ได้แก่ การจมน้ำจากการลงจับสัตว์น้ำ เก็บของในน้ำการปล่อยให้เด็กลงเล่นน้ำ และการถูกไฟฟ้าดูด โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและเด็ก จึงขอเตือนผู้ประสบอุทกภัยให้ หลีกเลี่ยงการเดินเข้าใกล้เสาไฟฟ้า เพราะอาจมีกระแสไฟฟ้ารั่วไหล ทำให้ถูกไฟฟ้าดูดเสียชีวิต รวมถึงหลีกเลี่ยงการลงแช่น้ำเป็นเวลานาน เนื่องจากช่วงนี้สภาพอากาศหนาวเย็นมากขึ้น อาจทำให้เป็นตะคริวจมน้ำเสียชีวิตได้ รวมทั้งไม่ปล่อยให้เด็กลงเล่นน้ำ ดูแลผู้สูงอายุอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันกระแสน้ำไหลเชี่ยวกรากพัดเด็กและผู้สูงอายุที่ไม่สามารถช่วย เหลือตัวเองได้จมน้ำเสียชีวิต ตลอดจนไม่ขับผ่านเส้นทางที่มีน้ำท่วมขังและกระแสน้ำไหลแรง เพราะอาจถูกกระแสน้ำพัดรถจมน้ำได้ ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจะดำเนินการให้ความช่วยเหลือค่าจัดการศพตาม ระเบียบ

กระทรวงการคลังฯ โดยจ่ายค่าจัดการศพแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตจ่ายรายละไม่เกิน 25,000 บาท หากเป็นหัวหน้าครอบครัวจ่ายเงินช่วยเหลืออีกไม่เกิน 25,000 บาท รวมเป็น 50,000 บาท รวมถึงจะประสานกับกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี จ่ายเงินค่าจัดการศพผู้เสียชีวิตอีกรายละ 50,000 บาท ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมาตรการพิเศษช่วยเหลือญาติผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์อุทกภัยเมื่อ วันอังคารที่ 26 ตุลาคม 2553 ทั้งนี้ ญาติผู้เสียชีวิตจะได้รับค่าจัดการศพผู้เสียชีวิตรายละ 75,000 บาท หากเป็นหัวหน้าครอบครัวจะได้รับค่าจัดการศพ 100,000 บาท สำหรับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 18 เขต สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด 75 จังหวัด หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป.

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm%3Fpage%3Dcontent%26categoryID%3D420%26contentID%3D102975+สถิติคนตาย+อุทกภัย&cd=2&hl=th&ct=clnk&gl=th

-----------------------------------------------

ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย
*******************************************
จังหวัดที่มีผู้เสียชีวตจากสถานการณ์ อุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม จํานวน 29 จังหวัด
ข้อมูล ณ วันที่ 16 พ.ย.53 เวลา 16.00 น.

จังหวัด จํานวน (ราย) หมายเหตุ
ภาคกลาง,ภาคเหนือ,ภาคตะวันออก,ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ตั้งแต่ วันที่ 10 ต.ค.53-ปัจจุบัน)
1.นครราชสีมา 32
2.บุรีรัมย์ 6
3.ลพบุรี 18
4.ขอนแก่น 5
5.ระยอง 1
6.ตราด 1
7.สระแก้ว 1
8.ชัยภูมิ 7
9.สระบุรี 4
10.นครสวรรค์ 15
11.อุทัยธานี 1
12.ชัยนาท 6
13.นนทบุรี 7
14. กำแพงเพชร 6
15.สุพรรณบุรี 8
16.พิจิตร 1
17.ปทุมธานี 3
18.พระนครศรีอยุธยา 21
19.เพชรบูรณ์ 2
20.สิงห์บุรี 10
21.นครปฐม 1 เพิ่ม 1 ราย
รวม 20 จังหวัด 156 รวมเพิ่ม 1 ราย

ภาคใต้ (ตั้งแต่ วันที่ 1 พ.ย.53 -ปัจจุบัน)
1.สงขลา 35
2.สตูล 2
3.สุราษฎร์ธานี 7
4.ปัตตานี 5
5.พัทลุง 7
6.ชุมพร 2
7.ตรัง 4
8.นครศรีธรรมราช 11 เพิ่ม 1 ราย
รวม 8 จังหวัด 73 รวมภาคใต้ เพิ่ม 1 ราย
รวมทั้งสิ้น 229 ราย รวมเพิ่มทั้งสิ้น 2 ราย
สาเหตุการเสียชีวิต : จมนํ้าเสียชีวิต 204 ราย ถูกไฟฟ้าดูด 14 ราย ดินถล่ม 6 ราย อื่นๆ 5 ราย

http://www.nirapai.com/1784thai/index.php?option=com_content&task=view&id=1960&Itemid=45

-----------------------------------------------
สถิติอุทกภัยในรอบ 30 ปีของประเทศไทย



































ที่มา http://www.google.co.th/url?sa=t&source=web&cd=6&ved=0CCQQFjAF&url=http%3A%2F%2F203.157.132.1%2Fwebboard%2Findex.php%3Faction%3Ddlattach%3Btopic%3D1118.0%3Battach%3D505&rct=j&q=%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A2%20%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%81%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2&ei=q7LaTJ7pOIywvgP6nvzPCQ&usg=AFQjCNFWLzlDRyzHT16Hi6lGg3m-H8QHGQ&cad=rja

-----------------------------------------------

FfF