ผมเห็นหลายคนชอบนำมุกนี้มาใช้
เวลามีคนออกมาวิจารณ์แกนนำ
ซึ่งดูแล้วไม่ต่างอะไรกับต้องการช่วยกัน
พยายามคิดที่จะ ปิดหู ปิดตา ปิดปาก ทางอ้อมนั่นเอง
สมมุติว่าท่านมีปัญหาคับข้องใจ
อยากให้เหล่าผู้นำ ไม่ว่าจะเป็นแกนนำ
นักการเมือง รมต. นายก ผบ.เหล่าทัพต่างๆ
ช่วยชี้แจงสิ่งที่คิด ที่ทำ ว่ามันถูกต้องแล้วจริงหรือ
ถ้าไม่ออกมาพูดผ่านสื่อต่างๆ เช่น ทีวี วิทยุ นสพ. หรืออินเตอร์เน็ต
ให้คนที่มีปัญหาโทรศัพท์ไปคุยกับเหล่าท่านผู้นำอย่างเดียว
ท่านว่าผลที่ได้จะออกมายังไง
เขาอาจไม่รับโทรศัพท์ เพราะไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร
มิจฉาชีพหรือเปล่าก็ไม่รู้ หรือสมมุติว่าคุณดังพอเขารู้จัก
แต่เขาไม่อยากให้เรื่องกระจายออกไป
เขาปิดการติดต่อกับคุณ แล้วยังไงต่อไป
การอาสามาเป็นคนทำงานสาธารณะ
ก็ไม่ได้ไปโทรศัพท์บอกทุกคน ผมมาอาสาทำงานนั่นนี่ให้
ก็เห็นออกมาออกข่าวผ่านสื่อ ชาวบ้านเขาถึงรู้จัก
แล้วทำไมเวลาเขาจะวิจารณ์การทำงานถึงวิจารณ์ผ่านสื่อไม่ได้
มันสะดวกรวดเร็ว และสื่อให้คนเห็นพร้อมๆ กันได้เยอะด้วย
ถ้าเหล่าผู้นำต่างๆ ทำอะไรมีเหตุมีผล
เขาก็จะชี้แจงโต้ตอบได้ทุกเรื่องอยู่แล้ว
ไม่มีใครไปห้ามชี้แจงใดๆ เลย
มีแต่เขาอยากให้ช่วยออกมาชี้แจง
จะได้เข้าใจมากขึ้นต่างหาก
นอกจากจะทำอะไรไม่มีเหตุผล
จำนนต่อหลักฐานหรือคำกล่าวหา
หรือขี้เกียจเห็นว่าไร้สาระ เลยไม่ออกมาชี้แจง
ก็เป็นได้หลายเหตุผล แต่การไม่ชี้แจง
ก็ถือเป็นสิทธิที่ใช้สิทธิ์ไม่ชี้แจง
แต่จะไปห้าม ไม่ให้ชาวบ้านเขาวิพากษ์วิจารณ์ไม่ได้
โดยเฉพาะมุกที่ชอบใช้ ชี้แจงไม่ได้ไม่รู้ทำยังไง
ไล่ให้โทรศัพท์ไปคุยกับเหล่าผู้นำ
แต่เวลาจะโจมตีพวกตรงข้ามไม่เห็นโทรศัพท์ไปต่อว่าเขา
เช่นจะโจมตีอภิสิทธิ์ ทำไมไม่โทรศัพท์ไปคุยกับอภิสิทธิ์
มาโจมตีผ่านสื่อทำไม และคนที่ถูกโจมตีควรจะรู้ด้วยว่า
อยู่ดีๆ ไม่มีอะไรเขาไปโจมตีไม่ได้หรอก
มันต้องมีอะไรอยู่บ้างแหล่ะ
ถ้าจะตัดไฟแต่ต้นลมเพื่อไม่ให้ชาวบ้าน
เขาลือกันไปผิดๆ กระจายออกไปเป็นวงกว้าง
ก็ออกมาชี้แจงเสีย เพราะวิธีที่บางคนนึกว่า
เป็นวิธีที่ได้ผล เช่นการบล็อค หรือสกัด คนวิจารณ์
หรือทำยังไงก็ได้ให้คนเบื่อจะวิจารณ์ที่เว็บนั้นเว็บนี้
แล้วพอไม่เห็นมีใครมาวิจารณ์ในเว็บ ก็คิดว่าประสบผลสำเร็จ
ใช้วิธีแบบที่ว่า ก็ไม่ต่างอะไรกับที่รัฐบาลนี้ใช้
เที่ยวไล่บล็อคเว็บไซด์เป็นแสนเว็บ แล้วยังไง
ชาวบ้านเขาไปลือกันเป็นกลุ่มๆ ก็ได้
ไม่เห็นดีกว่าการออกมาชี้แจงตรงไหนเลย
คนที่โจมตีหรือวิจารณ์ ถ้าเขาเข้าใจมาผิดๆ
เดี๋ยวเจอคำชี้แจงกลับต่อให้แถตอบกลับยังไงก็มองกันออก
หรือชี้แจงแบบดำน้ำไปเรื่อยเปื่อย ก็มองกันออก
ดังนั้นการชี้แจงคือสิ่งที่ดีที่สุดในการแก้ข้อกล่าวหาใดๆ
ดีกว่าใช้วิธีปิดหูปิดตาปิดปากชาวบ้านไปวันๆ
ในกรณีการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย
คนที่เป็นแกนนำ ไม่ใช่บุคคลที่แตะต้องไม่ได้ หรือห้ามแตะต้อง
ถ้าเป็นแบบนั้นก็ไม่ใช่แกนนำเรียกร้องประชาธิปไตยแล้ว
แบบนั้นเรียกว่าแกนนำเรียกร้องเผด็จการรูปแบบใหม่
คือต่อต้านเผด็จการแบบเก่า แต่อยากได้เผด็จการแบบใหม่
ที่แตะต้องไม่ได้เหมือนกัน
ในวิถีทางประชาธิปไตย
ยังไงก็จะต้องโดนการอภิปรายไม่ไว้วางใจอยู่เรื่อยๆ
ในกรณีมีวาสนาได้เป็นใหญ่เป็นโต เช่น รมต. หรือ นายก
จึงไม่ใช่เรื่องที่หลบหลีกได้
ต้องพร้อมเผชิญกับการถูกอภิปรายทุกเมื่อ
และพร้อมใช้เหตุผลชี้แจงกลับ
ส่วนลีลาการพูดการออกความเห็น
แต่ละคนอาจมีหลายสไตล์ เช่นนิ่มนวล ดุดัน เข้ม
ก็เป็นแค่ส่วนประกอบการอภิปราย
แต่แก่นหลักคือเนื้อหาสาระว่า
สิ่งไหนจริง สิ่งไหนเท็จ ต้องพร้อมชี้แจงอยู่ตลอดเวลา
ถ้าคิดจะออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
นอกจากเป็นกระบวนการเผด็จการ
ชนะแล้วก็ไม่จำเป็นต้องเห็นหัวประชาชน
ซ่องสุมผู้คนล้มอำนาจรัฐแล้วมาคุมอำนาจแทนแบบเพวกเผด็จการทำ
ประชาชนไม่มีสิทธิ์ตรวจสอบวิพากษ์วิจารณ์ อะไรทั้งนั้น
ถ้าคิดอยากเรียกร้องระบอบแบบนั้น ก็ว่ากันไป
แต่อย่าคิดว่าออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย
แล้วเที่ยวห้ามคนนั้นคนนี้มาวิจารณ์
แล้วคิดว่านี่คือการเรียกร้องประชาธิปไตยที่แท้จริง
อันนั้นเข้าใจผิดแน่ๆ
โดย มาหาอะไร
FfF
บันทึกเรื่องราว สืบสาวความจริง ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน.
Save the stories. Investigate the truth. Give to the next generation.