บันทึกเรื่องราว สืบสาวความจริง ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน.
Save the stories. Investigate the truth. Give to the next generation.


18 มกราคม 2554

<<< กลยุทธ์ตัดไฟแต่ต้นลม >>>

สังเกตุให้ดีๆ
ช่วงนี้จะเห็นการออกอาการของฝ่ายตรงข้ามชัดเจน
จากกรณีส่งคนไปสร้างสถานการณ์
เสี่ยงภาวะสงครามตามชายแดนเขมร
เพื่อหวังผลนำมาปลุกกระแสคลั่งชาติหรือสร้างความวุ่นวายต่างๆ
เพื่อความชอบธรรมที่จะให้เกิดรัฐทหารในภายหลัง
แสดงให้เห็นว่า ฝ่ายตรงข้ามกำลังเร่งเกม
เพราะทนเห็นมวลชนเยอะๆ ออกมาแสดงพลังต่อต้านไม่ไหว
จึงอาจมีการคิดใช้กลยุทธ์ตัดไฟแต่ต้นลม
เพื่อไม่ให้มวลชนขยายตัวออกไปมากเกินจนน่ากลัว

วิธีก็คือทำยังไงก็ได้เพื่อสร้างรัฐทหารรูปแบบคล้ายๆ พม่าตอนนี้
คือจะมีการปกครองโดยพวกผู้มีอำนาจที่คุมกำลังทหารได้เบ็ดเสร็จ
จะมีการสร้างสถานการณ์เพื่อให้เห็นความสำคัญทางทหาร
และทำยังไงก็ได้เพื่อสามารถปราบปรามคนเสื้อแดงได้แบบชอบธรรม
ไม่โดนชาวโลกยำ เหมือนที่ผ่านๆ มาและเกือบสำเร็จในครั้งหลังสุดนี้
ที่มีการสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายเผานั่นนี่
ซึ่งจะเห็นว่าช่วงสลายจริงๆ แทบไม่มีประเทศไหนด่ารัฐบาลนี้เลย
โดยเฉพาะอเมริกาแถมยังมีหลอกด่าม็อบเสื้อแดงอีกต่างหาก

แต่การปราบปรามงวดนี้ เข้าใจว่าน่าจะใช้วิธีเดียวกับสมัย 6 ตุลา
แต่ก็จุดไม่ติดในหลายๆ ประเด็นที่ต้องการจะเลียนแบบ
น่าจะเหลือทางหนึ่งที่พอมองเห็นได้คือ
การหลอกให้คนเสื้อแดงบางพวกฮึกเหิมเกินจริง
แล้วออกมาอาละวาดคล้ายๆ กรณีกรือแซะ
แล้วถึงจัดการปราบปรามแบบเบ็ดเสร็จ
ด้วยกำลังทางทหารที่ดีกว่ามีอาวุธทันสมัยกว่า

อันที่จริงแล้วบทเรียน 2 ครั้งที่ผ่านมา
น่าจะสอนให้คนเสื้อแดงได้จดจำแล้วว่า
ที่ชอบทำให้ฮึกเหิมทั้งการปราศรัยที่ดุเดือด ทั้งการโหมกระแสตามเน็ต
เวลาเกิดการปะทะกันจริงๆ เหลือกี่คนที่พร้อมสู้ตาย
ยิ่งครั้งหลังสุดนี่เห็นได้ชัดมากๆ ว่า
ที่พร้อมสู้ตายไม่รู้มีพวกเขามาปนด้วยหรือไม่อีกน่ะ
มีระดับเต็มที่ผมให้หลายพันคนเท่านั้น
นอกนั้นพร้อมไปร่วมม็อบด้วยทุกหนทุกแห่ง
พร้อมตามแกนนำไปทุกที่
และพร้อมมอบตัวยอมจำนนตามแกนนำด้วย
มีจำนวนมากมายหลายเท่านัก
อย่างการไปหลบในวัด
ก็ถือเป็นการพร้อมยอมมอบตัวกลายๆ เหมือนกัน
ซึ่งเราไม่ว่ากันเพราะมนุษย์แต่ละคนมีข้อจำกัดของแต่ละคน
แม้แต่ผมเองก็เหมือนกัน
เพราะบางคนไม่ถนัดไม่กล้าไม่พร้อมที่จะออกรบ
แต่บางคนกล้าเกินมนุษย์เลยก็มี
ประเภทเอามือเปล่าวิ่งเข้าใส่คนถือปืน
ซึ่งผมอยู่ในเหตุการณ์ด้วยในช่วงแรกๆ ที่สี่แยกคอกวัว
ก่อนที่แกนนำหลักจะส่งคนมาช่วย
ผมเสียดายที่ลืมเก็บภาพเคลื่อนไหววีรกรรมครั้งนี้
เก็บได้แค่ภาพนิ่งภาพเดียวขณะที่ฝ่ายทหาร
โผล่พ้นออกมาที่สี่แยกคอกวัวเกือบจะยึดแยกนั้นไว้ได้แล้ว
แต่ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นเป็นชาวบ้านที่ไม่มีอาวุธเลยจริงๆ
พร้อมกันโห่เสียงดังๆ เพื่อข่มเสียงปืนแล้ววิ่งเข้าใส่แบบลืมตาย
จนพวกทหารต้องถอยรนเข้าไปในถนนอยู่หลายครั้ง
แต่เจออีกชุดของพวกทหารยิงสวนออกมา
จึงทำให้เหตุการณ์ครั้งนั้นมีคนเจ็บนับสิบตายเจ็บหลายร้อยคน
แต่ก็ยันไว้ได้นานพอสมควรจนกระทั่งแกนนำส่งชายฉกรรจ์นับพันมาสมทบ
แล้วเกิดมีการปะทะกันด้วยเคลื่อนทุ่นแรงกันตามข่าวนั่นแหล่ะ
ช่วงแรกๆ ไม่มีใครถือกล้องอยู่แถวนั้นเท่าไหร่
จากคลิปส่วนใหญ่เก็บมาได้คือช่วงหลังจากที่แกนนำส่งคนมาช่วย
นี่เป็นวีรกรรมที่กล้าหาญมากๆ ผมอยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย
และช่วงที่แกนนำยังไม่ส่งคนมาช่วย ผมก็โห่แล้ววิ่งเข้าใส่เหมือนกัน
เพียงแต่ไม่ได้อยู่แถวหน้าๆ เลยไม่โดนกระสุน
โดนแค่แก๊สน้ำตาแตกกระเจิงออกมาหลายครั้ง

ยังมีเหตุการณ์หลายๆ เหตุการณ์รอบๆ ราชประสงค์อีก
ซึ่งผมอยู่ในม็อบไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุแต่รับรู้จากคลิปและภาพถ่าย
ทำให้ทึ่งถึงความกล้าหาญของคนเหล่านี้มากๆ
ถ้ามีแบบนี้หลายๆ หมื่นคน ผมไม่ห่วงอะไรแล้วว่า
ใครจะเร่งเกมอะไรตอนนี้ เพื่อให้เข้าทางฝ่ายตรงข้าม
เพราะมั่นใจว่าถ้ามีคนกล้าแบบนี้หลายหมื่นคน
เจอกี่ทีก็มีลุ้นทุกครั้งขนาดไม่มีเคลื่อนทุ่นแรงเท่าไหร่ยังขนาดนี้
วันไหนลองมีเครื่องทุ่นแรงมาด้วยคงได้หนาวๆ กัน

แต่วันนี้ยังมีผู้กล้าแบบนี้ไม่มากพอ
แค่ประคับประคองไปได้เรื่อยๆ ก็โอเคแล้ว
ที่สำคัญจุดเดือดแต่ละคนไม่เท่ากัน
การโหมกระแสบิ้วอารมณ์เดือดกันตอนนี้
พวกที่พร้อมเดือดหรือเดือดกันปุ๊ดๆ อยู่แล้วแต่โดนรั้งไว้
จะพร้อมลุยทันทีเหมือนกันพวกนี้
แต่พวกที่เขายังไม่พร้อมและมีอยู่จำนวนเยอะมาก
เดือดไม่ทัน เครื่องร้อนช้า
บางคนเครื่องเสียประจำช่วงมีการปะทะกัน
เรียกว่ากล้าไปร่วมทุกม็อบเฮฮาปาร์ตี้
แต่พอเขาจะตีกันฉันอยู่บ้านดีกว่า
มีเยอะมากๆ ซึ่งก็ไม่ถือว่าผิดปกติ
เพราะม็อบส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและคนชราก็เยอะ
ซึ่งพวกนี้ก็เดือดปุ๊ดๆ ไม่แพ้ใครเหมือนกัน
แต่ว่าไม่มีความพร้อมในการจับเครื่องทุ่นแรงมาสู้กับใครในตอนนี้
อนาคตเข้าตาจนสถานการณ์บังคับให้สู้ อันนั้นก็อีกเรื่องหนึ่ง
แถมยังเป็นม็อบที่ยังอยู่ในการควบคุมของแกนนำอีก
แล้วคิดว่ามีแกนนำชุด 1 2 3 อะไร
มีใครกล้าพร้อมลุยในภาวะสงครามกลางเมืองไหม
ดูๆ ไปแล้วผมไม่หวังอะไรเลยจริงๆ
ผมว่าตามเนื้อผ้า ไม่ใช่ดูหน้าแล้วตอบ
แต่ดูหลายๆ เหตุการณ์ 2-3 ปีนี้ประกอบด้วย

แถมลักษณะม็อบที่ก่อตัวจนจะกลายเป็นชุมชนไปแล้ว
และการได้ร่วมม็อบบ่อยๆ ก็เหมือนกาน้ำที่มีรูระบายน้ำ
ทำให้กาน้ำไม่ระเบิดออกมาเพราะมีรูระบายไอร้อนตลอดเวลานั่นแหล่ะ
แต่ประเภทที่ไม่ค่อยได้มีการชุมนุมเลย
แต่กดดันคุกกรุ่นอยู่แต่ในบ้าน
พอมีเหตุการณ์มากระชากใจก็พร้อมใจกันระเบิดออกมา
เหมือนน้ำที่ไหลออกมาจากเขื่อนที่แตกนั่นแหล่ะ
สามารถพัดพาสิ่งกีดขวางทางได้อย่างรวดเร็ว
ชนิดตั้งตัวไม่ทันหรือไม่ทันจะระวังเลยด้วยซ้ำ
แบบหลังนี่น่ากลัวสุดๆ แต่แบบแรกนี่ไม่ค่อยน่ากลัว
ยิ่งเป็นลักษณะม็อบถูกควบคุมด้วยแกนนำที่ไม่กล้าชนจริงๆ
อีกสิบปีก็กระตื๊บๆ ไปเรื่อยๆ แบบนี้แหล่ะ
ผู้มีอำนาจที่ไหนเจอแบบนี้ยังนอนหลับได้ดี
เพราะสามารถควบคุมหรือต่อรองกับแกนนำ
เพื่อให้ไปควบคุมม็อบให้อยู่ในแนวทางผู้มีอำนาจได้
แต่ถ้าไร้แกนนำแล้วจะน่ากลัวจนเขาต้องพยายามยัดเยียดให้มีแกนนำให้ได้
จะได้มั่นใจได้ว่ามีคนเจรจาต่อรองควบคุมฝูงชนได้ตามสั่งเขา

ถามว่าแล้วยังมีพอมีทางไหมที่จะพอทำให้ผู้มีอำนาจยอมจำนน
ทั้งๆ ที่ไม่อยากจะยอม หรือร้ายแรงหนักอาจเลยเถิดไปมากกว่านั้น
จากสภาพม็อบแบบนี้ ที่ก่อตัวกันมานาน
จนไม่สามารถเกิดแรงกระเพื่อมรุนแรงได้ง่ายๆ
ก็ต้องใช้เวลาและจุดเด่นของม็อบลักษณะนี้เข้าสู้
จุดเด่นจากการผูกพันรวมตัวกันนานๆ จนจะเป็นพี่น้องกันหมดแล้ว
จะสามารถสู้แบบยืดเยื้อรอมีคนเยอะๆ สถานการณ์เหมาะสม
สถานการณ์มันจะพาไปเองได้ง่ายๆ และไว
ขอแค่ให้มีคนตาสว่างเรื่องนั้นเรื่องนี้เยอะๆ
มารวมตัวกันเหนียวแน่นไม่เลิกลา
ไม่ปะทะโดยไม่จำเป็น ถ้าจำเป็นโดนรังควาน
ถึงจะฟิวส์ขาดเป็นครั้งๆ แต่ก็ไม่สามารถหยุดยั้งอะไรได้
แค่ยั่วให้เกิดอารมณ์มากขึ้น เจ็บแค้นมากขึ้น เดือดมากขึ้นเท่านั้นเอง
คือจะไปทำอะไรผิดพลาดอีกกี่ครั้งก็หมดห่วงเลิกกังวลได้
เดี๋ยวก็กลับมารวมแบบเดิมอยู่ดี แต่มีดีกรีความเดือดเพิ่มมากขึ้น

แนวนี้ต้องใจเย็นๆ โกรธได้
แต่ไปหาทางระบายตะโกนสรรเสริญกันตามม็อบก็ได้
รักใครชอบใครก็สรรเสริญกันเองแล้วกัน
อย่าพึ่งไปปะทะหรือหลงทางไปเข้าทางฝ่ายตรงข้ามยามนี้
โดยเฉพาะการจับอาวุธขึ้นสู้ สงครามกลางเมือง เจ๊งเป็นเจ๊งยามนี้
เมื่อถึงเวลาแทบไม่ต้องมีใครมาปลุกเลย
มันเป็นไปเองโดยธรรมชาติเมื่อถึงจุดที่พร้อม
โดยได้รับการสนับสนุนด้านอารมณ์จากฝ่ายผู้มีอำนาจ
ที่จะมาบิ้วอารมณ์ให้ได้ที่เรื่อยๆ
เก็บสะสมความโกรธไว้ระเบิดอารมณ์ทีเดียวเลยดีกว่า
แค่เลิกสร้างอาณาจักร สร้างป้อมปราการ กีดกันคนสีอื่น
หรือคนที่เขาอยากตาสว่างแต่คิดปลีกย่อยต่างกัน
เพื่อให้เขากล้าเข้ามาร่วมในแนวทางของเราได้อย่างไม่ตะขิดตะขวนใจก็พอ
อย่าพึ่งเอามันเอาสะใจยามนี้ เพราะจะเข้าทางการสร้างรัฐทหารของฝ่ายตรงข้าม

วันหนึ่งเมื่อถึงเวลาจริงๆ
คุณอาจเห็นการวัดกำลังกันเองก่อนไปวัดกับฝ่ายตรงข้ามก็ได้
ระหว่างแนวตาสว่างทั้งแผ่นดินกับแนวแดงทั้งแผ่นดิน
ซึ่งแนวแดงทั้งแผ่นดินอาจมีทั้งพวกตาสว่างและยังไม่ตาสว่าง
หรือตาสว่างแล้วแต่เดินไปตามแนวแดงทั้งแผ่นดิน
จะเป็นการวัดกำลังด้วยจำนวนมวลชน
วันไหนคุณเห็นว่าแนวตาสว่างทั้งแผ่นดินมีมากกว่า
หรือเกือบทั้งหมดมาแนวนี้หมด
วันนั้นก็เริ่มนับถอยหลังไปได้เลย
แค่รอน้ำผึ้งหยดเดียวเท่านั้นเอง
แต่ถ้ายังแดงทั้งแผ่นดิน แม้ลึกๆ จะรู้กันว่า
ก็ไม่ต่างกันมาก แต่ความมั่นใจจากการแสดงออก
มันต่างกันมันจะทำให้ความกล้าความฮึกเหิม
ว่าจะไม่ถูกทิ้งถูกถอนตัวขณะเข้าด้ายเข้าเข็มมันต่างกัน

เท่าที่ผมวัดด้วยความรู้สึกตอนนี้
แนวแดงทั้งแผ่นดินยังมีคนเยอะกว่าเพราะแฟนคลับสามเกลอยังเยอะ
เมื่อสามเกลอหรือแกนนำในการควบคุมของสามเกลอ
ยังไม่กล้าพอที่จะชน และไม่แน่ใจว่าใครจะกระโดดหนีไปอีกในยามคับขัน
ก็ต้องใช้เวลารอความพร้อมของมวลชนไปเรื่อยๆ นานแค่ไหนไม่รู้
แต่เท่าที่ผมสัมผัสผ่านๆ พวกที่ยึดแนวตาสว่างทั้งแผ่นดิน
จะมีแรงขับภายในแต่ละคนสูงกว่าพวกแดงทั้งแผ่นดิน
เรียกว่าพร้อมลุย พร้อมแลก แหลกเป็นแหลกแล้ว
ต้องฉุดยั้งๆ กันไว้ด้วยซ้ำ และไม่ว่าจะโดนยังไง
พวกนี้ก็ไม่เลิกลา แม้ไม่มีแกนนำก็ไม่เลิกลา
ต่างจากแนวแดงทั้งแผ่นดินตรงนี้ คือถ้าไม่มีแกนนำหรือแกนนำไม่นัด
ก็ไม่คิดจะออกมา จะออกมาเฉพาะที่แกนนำนัดก็มี
แต่เท่าที่เห็นแนวตาสว่างทั้งแผ่นดินคนเยอะขึ้นเรื่อยๆ
เยอะจนเรากลัวว่าวันหนึ่งแกนนำแดงทั้งแผ่นดินถ้าปรับตัวไม่ทัน
อาจโดนทิ้งเอาได้ง่ายๆ เพราะมวลชนจะไหลไปในทางที่ก้าวหน้ากว่า

ฉะนั้นอย่าพึ่งฮึกเหิมเกินจริงไปตามกระแสทางเน็ต
เพราะเอาเข้าจริง ปะทะจริง
ก็อยู่หน้าคอมกันเป็นส่วนใหญ่ไม่ได้ไปลุยจริงเยอะแยะ
เหมือนที่รู้สึกว่ามีเยอะแยะตามเน็ตหรอก
แถมสถานการณ์อารมณ์มวลชนก็ยังไม่ได้ที่
สังเกตุง่ายนิดเดียว
ขนาดแกนนำขวัญใจอันดับหนึ่งของพวกเขาตอนนี้
โดนจับพร้อมแกนนำอีกมากมาย
ก็ไม่เห็นว่าจะมีอารมณ์ไปขวาง
ขบวนการไม่ยุติธรรมอะไรกันนัก
โดยเฉพาะไม่มีภาพฮึกเหิมให้เอาแกนนำออกมาด้วยซ้ำ
อย่างดีก็ไปมอบกุหลาบไปเยี่ยม
ดังนั้นกระแสที่ปลุกเพื่อทำสงครามนั่นนี่
เป็นแค่กระแสตามอารมณ์คนปลุกเท่านั้น
สภาพอารมณ์มวลชนยังไปไม่ถึงขั้นนั้น
จึงไม่มีประโยชน์อะไรมาปลุกในตอนนี้
มีแต่โทษที่เขาจะนำไปอ้าง
เพื่อความชอบธรรมในการกวาดล้างเท่านั้นเอง

การทำให้ประชาชนตาสว่างหรือไม่
อยู่ที่ข้อมูลไปถึงเขาหรือไม่ น่าเชื่อหรือไม่ด้วย
เพราะชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่มีเวลามาค้นหาข้อมูลเอง
อยู่ที่วิธีการกระพือข่าวและกระจายข่าวสารที่ดี
วิธีหนึ่งที่อยากแนะนำคือ
สอนให้ชาวบ้านเล่นเน็ตผ่านมือถือให้ได้เยอะๆ
แล้วแนะนำเว็บเสื้อแดงไปเยอะๆ
ที่สามารถให้ข้อมูลตาสว่างเรื่องต่างๆ

แต่เหนือสิ่งอื่นใดการทำให้คนทั่วไปยอมรับ
ไม่รังเกียจแนวทางของเสื้อแดง
จะทำให้เขาอยากเข้าร่วมสู้ด้วย
แทนที่จะตั้งป้อมต่อต้าน
ซึ่งถ้าต่อต้านเพราะแนวทางต่างกัน
อันนั้นทำใจเรื่องปกติ
แต่ถ้าต่อต้านเพราะพฤติกรรมไม่น่าเลื่อมใสศรัทธา
ก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย
เปรียบเสมือนผู้เผยแผ่คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
หรือที่เราเรียกว่าพระสงฆ์
แม้คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าดีเลิศประการใด
แต่มีผู้เผยแผ่คำสั่งสอนพฤติกรรมแย่ๆ
บางคนยังอยากเปลี่ยนศาสนาเลย
อย่าว่าแต่พวกที่ไม่ได้นับถือศาสนาพุทธอยู่แล้ว
แล้วจะเปลี่ยนใจเขาให้มานับถือเลย

โดย มหาอะไร
FfF