ประชาธิปไตยที่แท้จริง คือการปกครองของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน
ส่วนประชาธิปไตยที่แท้ปลอม ก็คือ ไม่ใช่ประชาธิปไตยที่แท้จริง
การทุ่มเทชีวิต เสี่ยงตาย เหนื่อยยากลำบากต่างๆ นาๆ
ไม่รวมทรัพย์สินเงินทองที่เสียไป เพื่อใช้ร่วมเรียกร้องประชาธิปไตย
โดยหวังว่าจะได้ประชาธิปไตยที่แท้จริง
แต่กลับไขว้เขว้เผลอไปเรียกร้องประชาธิปไตยที่แท้ปลอมโดยไม่ตั้งใจ
อาจเพราะแกนนำบางคนชี้นำผิดๆ
เลยทำให้ชาวบ้านบางคนหลงไปกับสิ่งที่ชี้นำผิดๆ ได้
(ไม่ใช่แกนนำ ณ เวลานี้ พูดกว้างๆ ทั่วๆ ไป)
สมัยก่อนไม่รู้ไม่เป็นไร เพราะประชาธิปไตยเป็นของใหม่
อาจยังไม่รู้จักเท่าไหร่ว่ามันเป็นยังไงกัน
เพราะได้มาก็ไม่ได้โดยวิถีทางประชาธิปไตยที่แท้จริง
มันก็เลยมั่วๆ มาเรื่อยๆ แต่เวลานี้ สู้กันแทบเป็นแทบตายมาหลายปี
ยังมีบางคนอยากได้ประชาธิปไตยที่แท้ปลอมอยู่เลย
บางคนยังไม่รู้เลยว่ากำลังสู้อยู่กับใคร
เคยเปรียบเทียบเอาไว้เรื่องหนึ่งว่า
ถ้าถูกหมาใครมากัด แล้วไม่ไปเล่นไปต่อว่าหรือตกลงกับเจ้าของหมา
ก็อย่าหวังว่าจะแก้ปัญหาได้จบ ต่อให้ไปฆ่าหมาตัวนั้นตาย
เดี๋ยวเจ้าของหมาก็ส่งหมาตัวใหญ่กว่าดุกว่า มาลุยแทนอยู่ดี
เพราะเขาไม่ได้เดือดร้อนอะไร ที่เดือดร้อนก็คือพวกหมาๆ
ที่เขาอาจไม่สนใจเพราะมันก็แค่หมาตัวหนึ่ง
ตายไปก็สามารถหาหมาตัวใหม่มาทดแทนได้ตลอดเวลา
เสียดายมากหากสู้กันมายาวนานแล้วยังไม่ตาสว่างกัน
แถมยังจะมาชวนเรียกร้องประชาธิปไตยที่แท้ปลอมกันอีก
เป็นมวลชนด้วยกันไม่เท่าไหร่ บางคนเคยเป็นแกนนำกับเขาด้วย
การจะมาบอกว่าไม่มีทางเห็นประชาธิปไตยที่แท้จริงได้หรอก
ยังไงก็ต้องยึดประชาธิปไตยที่แท้ปลอมต่อไป
เพราะชาวบ้านชอบแบบนี้ ชาวบ้านชอบหรือว่า
ไปช่วยเขากดหัว ปิดหูปิดตาชาวบ้าน
ไม่ให้รู้จักประชาธิปไตยที่แท้จริงกันแน่
การกระทำแบบนี้ ก็ไม่ต่างอะไรกับ
การทำตัวเป็นสาวกลัทธิประชาธิปไตยที่แท้ปลอม ดีๆ นี่เอง
คือเป็นคนของลัทธิประชาธิปไตยที่แท้ปลอม
มาเผยแพร่ลัทธินี้ต่อมวลชน ผมมองแบบนี้แหล่ะ
อีกหน่อยชาวบ้านที่ตาสว่างเขาก็จะมองแบบนี้เหมือนกัน
ถ้าไม่กล้าสู้เพื่อให้ได้ลัทธิประชาธิปไตยที่แท้จริงแล้ว
ก็อย่าอาสามานำกันเลย ขอร้องอันนี้ฝากเผื่ออนาคตด้วย
คนไม่กล้าสู้เป็นผู้นำไม่ได้
คนไม่กล้านำ ก็ควรจะเป็นผู้ตามจะเหมาะสมกว่า
เพราะถ้าอาสามานำแต่กล้ากัดกับหมาอย่างเดียว
มีแต่พามวลชนไปบาดเจ็บล้มตายฟรี
เพราะเดี๋ยวก็มีหมาตัวใหม่ๆ มาให้กัดเรื่อยๆ ไม่ต้องห่วง
ถ้าอยากมานำเพื่อสู้กันแบบขำขำ เช่นขอร้องรำทำเพลงสนุกสนาน
แบบนั้นเหมาะสำหรับการหาเสียงเลือกตั้ง
มากกว่า การนำมวลชนสู้ศึกเพื่อให้ได้ประชาธิปไตยที่แท้จริง
เพราะมันไม่ง่ายขวากหนามเพียบ ไม่กล้าจริงนำไม่ได้
เดี๋ยวโดนมวลชนกล้ากว่าจะยุ่ง
แต่ตอนนี้ยังพอเห็นแววบางคนที่กล้านำอยู่ เช่น จตุพร
แม้จะยังไม่ออกมาตรงๆ ก็เหอะ แต่ดูรวมๆ ยังโอเค พอนำต่อได้
แต่ที่พูดหมายถึงบางคนในอดีต และเผื่ออนาคต
จะได้หูตาสว่างกัน ตอนนี้พูดเผื่อๆ เอาไว้
ถ้าคิดเสี่ยงตายกันทั้งที่เพื่ออยากได้ประชาธิปไตยที่แท้ปลอม
อย่าไปเสี่ยงตายกับแกนนำพวกนี้เลย ไม่คุ่มค่าใดๆ
ตายไปก็ไม่ได้ประชาธิปไตยที่แท้จริง
ชนะไปก็ยังได้ประชาธิปไตยที่แท้ปลอมอยู่นั่นเอง
ดังนั้นควรตรองดูด้วยว่าแกนนำช่วงนั้นๆ ไม่เจาะจงน่ะเผื่ออนาคตด้วย
ต้องการประชาธิปไตยที่แท้จริงไหม แม้เขาจะไม่กล้าเอ่ยตรงๆ
ก็ใช้ความรู้สึกได้ เรียกว่าถ้าไม่กล้าเอ่ย ก็ไม่ต้องเอ่ย ไม่บังคับ
ที่จริงไม่อยากให้มาเสี่ยงนำด้วย แต่ถ้าไม่กล้าเอ่ย
ว่าอยากได้ประชาธิปไตยที่แท้จริงๆ
ก็ไม่ควรจะกล้าเอ่ยอยากได้ประชาธิปไตยที่แท้ปลอมด้วย
เพราะถ้ากล้าเอ่ยแบบหลังแต่ไม่กล้าเอ่ยแบบแรก
อันนี้จะแก้ตัวไม่ได้ถ้าจะถูกเหมาว่า
เป็นสาวกลัทธิประชาธิปไตยที่แท้ปลอมกับเขาด้วย
ไม่ใช่ให้เอ่ยอ้างแต่ชื่อประชาธิปไตยที่แท้จริงน่ะ
แต่การกระทำขัดกัน แม้จะทำให้คนเอ่ยปลอดภัย
แต่ว่ามวลชนสับสน สู้ไม่เอ่ยเสียยังจะดีกว่า
แถมอีกอย่าง การนำบทเรียนในอดีต
หรือกลยุทธ์หลายร้อยปีพันปีมาใช้
ในสถานการณ์ปัจจุบันที่แตกต่างจากสถานการณ์ในอดีต
ผลลัพทธ์อาจต่างกันได้ เพราะยุคสมัยก่อน
อาจสามารถปิดหูปิดตาล้างสมองคนทั้งประเทศผ่านสื่อได้ง่ายกว่าปัจจุบน
แต่เดี๋ยวนี้เขาพัฒนาแล้ว ตาสว่างกันทั่วแล้ว
แม้จะมีคนไปร่วมเวทีตาสว่างไม่มากเท่าเวทีใหญ่เสื้อแดงก็จริง
แต่ในเวทีเสื้อแดงมีคนตาสว่างเต็มไปหมดแล้ว
เพียงแต่เขาติดแกนนำ เขาอาจไม่ชอบแกนนำเวทีตาสว่างก็ได้
ยกเว้นพวกเสรีชนเต็มขั้น ไม่สนใจใครนำแล้ว
พวกนี้ก็จะไม่ยึดติดมากไปได้ทั้งสองเวที ถ้าว่างและสะดวกที่จะไป
เมื่อคนตาสว่างมากๆ มุกเดิมๆ เช่น การสร้างภาพ
ไม่รู้ไม่ชี้ไม่เกี่ยวแอบหนุนหมาไปกัดชาวบ้าน
แล้วชาวบ้านก็หลงโง่ไปกัดกับหมาอย่างเดียวเหมือนสมัยก่อน
อาจใช้ไม่ได้ใน พ.ศ.นี้แล้วมุกที่ว่า ส่วนคนดีๆ
หรือไม่ต้องเป็นคนดีเด่อะไร คนธรรมดาแบบเรา
ถ้าใครเอาชื่อเราไปอ้าง ไปหลอกลวงคนอื่น ไปรังแกคนอื่น
หรือไปปล้นคนอื่น ถ้าเราไม่รู้ก็แล้วไป แต่ถ้าเรารู้
เราจะเอาเรื่องถึงที่สุดไม่ว่าจะเป็นญาติพี่น้องหรือเพื่อนฝูง
ไม่สนใจในเมื่อกล้าเอาชื่อเราไปทำอะไรผิดๆ
ก็ต้องกล้ารับผิดชอบสิ่งที่จะตามมาด้วย
เราจะไม่แกล้งโง่ ทำหูหนวกตาบอดมองไม่เห็น
แม้จะเป็นข่าวคึกโครมหรือเป็นข่าวต่อสาธารณชนแล้วหรอก
เพราะนั่นจะแสดงว่าเรารู้เห็นเป็นใจกับคนพวกนั้นด้วย
ถ้าเรารู้แล้วไม่จัดการพวกเอาชื่อไปอ้างทำอะไรผิดๆ
จะมาอ้างว่าโดนบังคับอาจอ้างได้ แต่ถ้ามีโอกาส
ที่ไม่อยู่ในช่วงถูกบังคับแล้ว สามารถเอาคืนได้ก็ต้องเอาคืนหมด
ไม่งั้นจะเรียกว่าแกล้งโง่ไม่รู้ไม่เห็นเป็นใจให้พวกวายร้ายเหล่านั้น
โดย มาหาอะไร
FfF
บันทึกเรื่องราว สืบสาวความจริง ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน.
Save the stories. Investigate the truth. Give to the next generation.