บันทึกเรื่องราว สืบสาวความจริง ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน.
Save the stories. Investigate the truth. Give to the next generation.


17 กุมภาพันธ์ 2554

<<< แม้จะยึดหลักสันติอหิงสา แต่ถ้าต้องทำสงครามเพื่อปกป้องลัทธิความเชื่อก็ต้องทำ >>>

เพราะถ้าไม่คิดสู้เพื่อลัทธิความเชื่อที่ตนเองสนับสนุน
ลัทะนั้นก็อาจมีโอกาสสูญหายไปได้หมด
เช่นเดียวกับพุทธศาสนาในอินเดีย
ที่แทบจะสูญพันธุ์ไปจากอินเดียช่วงหนึ่ง
เพราะผู้นำหรือกษัตริย์สมัยนั้น
หรือประชาชนทั่วไปที่นับถือศาสนาพุทธ
เคร่งในคัมภีร์พระธรรมมากเกินไป
พระพุทธเจ้าสอนว่า ห้ามฆ่าสัตว์ตัดชีวิตก็เชื่อ
และยึดถือโดยไม่มีการเตรียมพร้อมสู้รบ
วันหนึ่งโดนข้าศึกบุกยึดเมืองเผาทำลายบ้านเรือน
และตำราทางพระพุทธศาสนาทิ้งหมด
พระก็ถูกฆ่าตายหมด จนแทบจะสูญพันธุ์
ไปเป็นเวลาหลายร้อยปีทีเดียว

แม้แต่ต้นตำหรับสันติอหิงสาแบบมหาตมะคานธี
เรื่องที่ต้องสู้เพื่อปกป้องอุดมการณ์เขาก็ไม่ห้ามน่ะ
อย่าคิดว่าเขาจะสันติอหิงสาไปตลอดชาติโดยไม่ดูสถานการณ์อะไร

"ต้องยึดสถานการณ์เป็นหลัก อย่ายึดตำราเป็นหลัก
ต้องรู้จักพลิกแพลง อย่าเถรตรงจนเกิดความเสียหาย
ต้องยึดปัจจุบัน อย่ายึดอดีต"

ตัวอย่างการยึดอดีตมากกว่าปัจจุบัน
ผมเห็นบนเวทีม็อบใหญ่เสื้อแดงงวดที่แล้ว
ปล่อยให้ใครไม่รู้มาปราศรัยย้อนยุคด่าอเมริกา
แทนที่จะดูช่วงเวลาปัจจุบันที่ปีนี้
ที่เขากำลังหนุนการเปลี่ยนแปลง
ไม่เหมือนปีที่แล้วที่เขาเพิกเฉย
การออกมาโจมตีเขายามนี้
ก็เหมือนกับการดูแต่อดีตไม่ดูปัจจุบัน
และเป็นการไม่ยึดสถานการณ์ด้วย
นี่มีบางกลุ่มกำลังคิดจะไปประท้วงหน้าสถานทูตอเมริกา
ตอนนี้เรื่องไม่น่าทำน่าจะเพลาๆ กันหน่อยน่ะผมว่า
ไปทำเรื่องที่น่าทำน่าโหมเข้ากับกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก
ยังจะดูมีลุ้นและเข้าท่ากว่าน่ะ มีโอกาสติดลมบนกับเขาเหมือนบ้าง
ไว้งวดนี้เกิดแบบอียิปต์แต่อเมริกาทำไม่เหมือนอียิปต์
ค่อยออกมาด่าก็ยังทัน จะรีบออกมาด่าทำไมกันช่วงนี้

ทั้งๆ ที่เตือนแล้วว่าเรื่องสงครามม็อบใหญ่ไม่ควรเล่น
ปล่อยให้เป็นกลุ่มอื่นๆ ทำจะดีกว่า
แต่ก็เล่นกับเขาเอามาเป็นหัวข้อเรียกร้องงวดที่แล้วด้วย
แถมปล่อยให้มีคนมาใช้เวทีเสื้อแดงด่าอเมริกาอีก
นี่ก็ยิ่งกว่าไม่ทันเกมอีกน่ะ
แค่พาม็อบเสื้อแดงที่บอกว่าเรียกร้องประชาธิปไตย
ไปต่อต้านเรื่องสงคราม ผมก็ว่าแย่แล้วน่ะ
เพราะประชาธิปไตยไม่เกี่ยวว่าจะต้องคัดค้านหรือสนับสนุนสงคราม
ยิ่งถ้ามีสงครามทำให้ไทยเสียดินแดน ถึงไม่ชอบก็ต้องหนุน หรือเฉยๆ
เพียงแต่ว่าหนุนไม่ลงช่วงนี้เพราะมันทำกับเราไว้มาก
แต่ก็ไม่ควรเอาเรื่องสงครามมาปนกับเรื่องเรียกร้องประชาธิปไตย
มันไม่เกี่ยวกันเลย ไม่ได้เสียงเพิ่มแต่จะเป็นศัตรูกับพวกรักชาติ
ที่ไม่ใช่พวกเย้วๆ หน้าทำเนียบตอนนี้ แต่อยู่กับบ้านแต่เขาก็รักชาติเหมือนกัน
การเสียดินแดนมีผลต่อการปลุกกระแสคลั่งชาติได้ง่ายๆ เตือนแล้วยังทำ
แถมยังไปด่าอเมริกาประเทศที่กำลังแสดงบทบาทกดดันผู้นำชาติต่างๆ
ที่กำลังโดนประชาชนประท้วงอีก นี่เสียหาย 2 เด้งเลยน่ะ

การคิดก่อนทำ การวางกลยุทธ์นั้นสำคัญ
ไม่ว่าจะทำศึกเล็กหรือศึกใหญ่
เป็นสงครามจริง หรือสงครามแย่งชิงมวลชนอะไร
ฝ่ายไหนมีกลยุทธ์ที่ดีย่อมได้เปรียบ
ฝ่ายไหนไม่รู้เท่าทันก็จะเสียเปรียบมีโอกาสแพ้ได้ด้วย
เหมือนอย่างที่ยกตัวอย่างเรื่องให้ใครมาขึ้นเวทีด่าอเมริกา
และออกมาต้านสงครามในเวทีใหญ่เสื้อแดงนั่นแหล่ะ
กลยุทธ์นี้แทบไม่ต้องลงทุนอะไรมากมายเลย
แค่มาอาศัยเวทีคนเสื้อแดงทำให้ฝ่ายเสื้อแดงเสียประโยชน์ง่ายๆ
อาจไม่ใช่ฝ่ายตรงข้ามทำแต่อาจเป็นพวกเดียวกัน
ที่ไม่รู้เท่าทันเกมหรือโดนฝ่ายตรงข้ามปั่นหัวจนนำมาทำ
เหล่านี้เป็นตัวอย่างของการไม่สนใจกลยุทธ์
เน้นแต่อารมณ์เป็นหลัก รบที่ไหนก็แพ้ที่นั่นแหล่ะ

ถ้าเป็นรูปบริษัท ฝ่ายวางแผนของบริษัท
อาจทำงานดูเหมือนไม่ได้ทำ เดินไปเดินมา
แต่เขาคิดหาวิธีทำให้บริษัทมีกำไรอยู่รอด
หรือฝ่าสถานการณ์วิกฤตช่วยบริษัท
ส่วนพวกทำงานประจำก็ทำงานทั้งวัน
อาจบ่นก็ได้ว่าพวกนี้วันๆ เดินไปเดินมา
ไม่เห็นทำอะไรเงินเดือนก็มากตำแหน่งก็สูง
แต่พวกเขาทำงานหนักกว่า
แต่ถ้าพวกนี้วางแผนผิดพลาด
กำหนดนโยบายพลาดเจ๊งทั้งบริษัท
ถึงอาจปิดกิจการได้เลยน่ะ
ไม่เหมือนพนักงานประจำที่ทำพลาด
อาจแค่งานนั้นๆ เสียหายหรือเสียเวลาเพิ่ม

ดังนั้นคนกำหนดแนวทางการต่อสู้ต้องมีและทันเกมด้วย
ไม่ใช่มีเพื่อให้ดูเหมือนว่ามี แต่ไม่ทันเกมฝ่ายตรงข้าม
หรืออ่านตำรามากและจำได้มากมาย
พูดได้หมดบอกเล่าได้เป็นฉากๆ
แต่เจอสถานการณ์จริง กลับนำมาประยุกต์ไม่ได้
อย่างนี้ก็ไม่ได้เรื่องน่ะ
เป็นได้แค่อาจารย์สอนกลยุทธ์
เพราะจำเก่ง เล่าได้ สอนคนอื่นได้
แต่ไปวางแผนกลยุทธ์ ณ สถานการณ์จริงๆ ไม่ได้
เพราะไม่รู้จักพลิกแพลงนำกลยุทธ์นั้นกลยุทธ์นี้
มาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์นั้นๆ
ทำให้ไม่ทันเกมหรือทำจนเข้าทางฝ่ายตรงข้ามได้

โดย มาหาอะไร
FfF