บันทึกเรื่องราว สืบสาวความจริง ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน.
Save the stories. Investigate the truth. Give to the next generation.


30 มีนาคม 2554

<<< ถ้าเลือกเกมเลือกตั้ง คุณต้องดูท่าทีพวก ปชป. เป็นหลัก ไม่ใช่ดูท่าที สนธิ ลิ้ม ไม่เช่นนั้นการวิเคราะห์อาจผิดพลาดได้ >>>

ตอนนี้ไม่ว่าฝั่งผู้มีอำนาจหรือฝั่งต่อต้านผู้มีอำนาจ
มี 2 ท่าทีเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่จะถึงนี้คือ
สนับสนุนการเลือกตั้ง กับ ไม่สนับสนุนการเลือกตั้งครั้งนี้
ท่าที ปชป. สนับสนุนให้ไปเลือกตั้งชัดเจน
แต่มีพวกที่ไม่สนับสนุนฝั่งผู้มีอำนาจด้วยกัน
เดินเกมใต้ดินจ้องรัฐประหารบ้าง ให้ กกต. ลาออก
หวังทำให้เกิดสูญญากาศบ้าง แต่ปชป. ออกมาคัดค้านเต็มที่
พร้อมทั้งปลดชนวนรัฐประหาร
ด้วยการโยกย้ายนายทหารที่ไม่ไว้ใจออกไป
แล้วกดดันจนผู้มีอำนาจกดดันสดศรีให้กลับท่าที
จากการที่ออกอาการว่าจะลาออกจากการเป็น กกต.
หรือเสนอให้ทำรัฐประหารจะดีกว่าเลือกตั้งอะไร
ให้กลับมายอมเป็น กกต. ต่อไป พร้อมเดินหน้าเลือกตั้ง
ทำไม ปชป. ถึงมั่นใจอยากเลือกตั้ง
และเดินเกมกดดันจนฝ่ายผู้มีอำนาจ
ที่หนุนแนวทางทำให้เกิดสูญญากาศ แล้วขอ ม.7
ต้องยอมแนวทางเลือกตั้ง เพราะ ปชป. มั่นใจว่า
งวดที่แล้วคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ที่จะเอามาอ้างได้ว่า
มีคนเลือกพรรคเขาเยอะเหมือนกัน คือสูสีกับ พปช.
แม้จำนวน ส.ส. จะน้อยกว่าแต่จำนวนคนเลือกพรรคสูสีอย่างมาก
เพราะวันนี้ แก๊งส์เนวินได้ออกจาก พท. ไปแล้วหลายสิบคน
ดังนั้นจำนวนเสียงต่างๆ จะลดลงไป
ส่วนจะกี่ล้านคะแนนไม่รู้
แต่มันทำให้ ปชป. มีโอกาสชนะสูง ไม่รวมถึงการแก้ รธน.
ให้เพิ่มจำนวนปาร์ตี้ลิสต์เพิ่มก็เท่ากับ
ปชป. มีโอกาสได้ ส.ส. เพิ่มจากเดิมด้วย
การที่ลด ส.ส. เขตลง พท. ก็ลดลงมากกว่า ปชป.
เรียกว่าแค่ยังไม่เริ่มเลือกตั้งก็ได้เปรียบเห็นๆ
ยิ่งการลด ส.ส. ในกทม. ไม่ได้หมายความว่า
เสียง ปชป. จะลดลง เพราะเลือกตั้งผู้ว่าหลายครั้งหลัง พท. ก็แพ้ขาด
ดังนั้นในกรุงเทพโอกาสที่ พท. จะสูญเสียเก้าอี้จะมีมากกว่าพวก ปชป.
เอาเป็นว่า พรรพพวก ปชป. ดันเกมเลือกตั้งเต็มที่
และมีการจับมือกับพรรคร่วมไว้เรียบร้อยแล้ว
จึงมีโอกาสูงที่ได้กลับมาอีกแน่นอน

ส่วนท่าที สนธิ ลิ้ม ล่าสุดสนับสนุนให้โหวตโนหรือไม่สนับสนุนเลือกตั้ง
สนธิ ลิ้ม ไม่ได้ทำอะไรคนเดียว ที่ทำอะไรได้ทุกวันนี้เพราะมีเส้น
และเป็นเส้นเดียวกับ ปชป. ด้วย ดังนั้น ผู้มีอำนาจเจ้าของเส้นดังกล่าว
ถ้าเขากลับลำมาหนุนแนวเลือกตั้ง การปล่อยสนธิ ออกมาเชียร์โหวตโน
แล้วจะเข้าทางการเลือกตั้งของ ปชป. ยังไง ก็ไม่เห็นจะยากอะไร
ก็พรรคการเมืองใหม่ของพันธมิตรเห็นว่าไม่ได้บอยคอตไปด้วย
และมีการเล่นละครแตกคอให้แกนนำพันธมิตรคนอื่นหนุนแนวเลือกตั้ง
ยกเว้นสนธิออกแนวไม่หนุน มวลชน ปชป. เขาไม่ได้เชื่อสนธิ
คนที่เชื่อก็มวลชนพรรคพวกพันธมิตร
แต่ส่วนหนึ่งก็ถูกดึงไปช่วยลงคะแนนให้พรรคการเมืองใหม่
ต่อให้มีคนโหวตโนก็ไม่ผลอะไร เพราะพรรคนี้โอกาสได้ ส.ส. มีน้อย
ดังนั้นสิ่งที่สนธิ ทำวันนี้ ก็แค่การส่งสัญญาณมาให้ฝั่ง พท.
เข้าสู่เกมเลือกตั้งโดยไม่ต้องลังเล เพราะพรรคนี้รวมทั้งมวลชนส่วนใหญ่
ดูสนธิเป็นที่ตั้ง สนธิบอกไปขวาพวกนี้จะไปซ้าย สนธิไปซ้ายพวกนี้จะไปขวา
ดูกันแค่นั้นก็อาจโดนปั่นหัวด้วยวิธีนี้ได้ เพราะคู่แข่ง พท. คือ ปชป.
ไม่ใช่ พรรคการเมืองใหม่ ท่าที ปชป. มีความสำคัญมากกว่าท่าทีของสนธิ ลิ้ม
ดังนั้นหลังสนธิ ลิ้ม ประกาศโหวตโน กระแสต่อต้านฝั่งเสื้อแดงก็เริ่มต้นอย่างแข็งขัน
ต้องไปเลือกตั้งเท่านั้น ใครไม่หนุนแนวนี้พวกเสื้อเหลืองนั่นนี่ทันที
ทั้งๆ ที่พวกเชียร์แนวไม่เลือกตั้งออกมาเสนอแนวนี้ก่อนหน้าสนธิจะออกมาอีก
ถ้าอ่านที่ผมเขียนประจำจะเห็นว่าผมเชียร์แนวนี้ก่อนที่สนธิจะมาแนวนี้เป็นเดือนแล้ว
แต่ถึงผมเชียร์แนวนี้ ถ้าพรรค พท. จะเลือกแนวเลือกตั้งก็เป็นสิทธิ์ของพรรค พท.
เพราะผมไม่ได้เสียอะไรนอกจากเสียเวลาไปเลือกตั้งเท่านั้น
ส่วนเงินหลายพันล้านในการใช้เลือกตั้งครั้งนี้แล้วผลลัพธ์คุ้มค่าหรือไม่นั้น
เป็นเรื่องของเหล่านายทุนพรรค เพียงแต่ผมเสียดายด้วยเงินจำนวนเท่ากัน
ถ้าหนุนอีกแนวโอกาสเห็นการเปลี่ยนแปลงมีสูง
ที่สถานการณ์ตอนนี้ ท่าทีของฝ่ายผู้มีอำนาจได้กลับมาเลือกแนวเลือกตั้ง
ก็เพราะเขาไม่กล้าเสี่ยงในช่วงวิกฤตกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกยามนี้
การถ่วงให้เลือกตั้งยื้อไปเรื่อยๆ แถมชนะเลือกตั้งหรือสุมหัวได้เป็นรัฐบาลอีก
ก็เป็นการยื้อเวลาออกไปได้อีกระยะยจนกว่าจะหมดกระแสการเปลี่ยนแปลงช่วงนี้

อีกอย่างไม่ต้องหวั่นไหว ทั้งพรรค ทั้งพวกเสื้อแดง
ผมไม่มีมวลชนมากมาย มีแฟนคลับไม่กี่คนและเขาก็อาจไม่ได้ตามผมทุกเรื่อง
ส่วนแนวชูพงศ์ จะเหมือนผมหรือเปล่าไม่รู้ แต่เห็นตามบอร์ดว่าเป็นแนวนี้
ก็คงคล้ายๆ ผมแต่รายละเอียดยังไม่ทราบเพราะยังไม่ได้ฟัง
แต่มวลชนเขามีไม่มาก มีระดับหลายร้อยคนหรือหลายพันคน
มันไม่ส่งผลกระทบการเลือกตั้ง ถ้าพรรคพวก พท. และแกนนำเสื้อแดง
หนุนแนวเลือกตั้งเต็มที่แบบนี้ แค่เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง
ถ้าบอกว่าการที่เขาไม่สนับสนุนเลือกตั้งรวมทั้งผมด้วยเป็นพวกเสื้อเหลือง
เพราะไปมีแนวคิดคล้ายสนธิ ลิ้ม ที่ออกมาเสนอหลังจากที่ผมและชูพงศ์ว่าเสียอีก
ดังนั้นถ้าผมจะกล่าวหากลับ ด้วยลอจิคเดียวกันบ้างได้ไหมว่า
พวกที่สนับสนุนให้มีการเลือกตั้งเป็นพวกฝ่ายผู้มีอำนาจ
เพราะผู้มีอำนาจหนุนการเลือกตั้งครั้งนี้เต็มที่แล้วในตอนนี้
มีการโยกย้ายนายทหารที่เขากลัวจะมาทำรัฐประหารออกไปแล้ว
และบีบสดศรีให้เลิกคิดลาออกป่วนเกมเลือกตั้งแล้ว
การที่คุณเดินไปแนวทางผู้มีอำนาจชัดเจนแบบนี้
แล้วชี้นิ้วมาด่าคนที่เขาไม่เห็นด้วยกับแนวนี้ว่าเป็นพวกเสื้อเหลือง
ทั้งๆ ที่พวกเสื้อเหลืองส่วนใหญ่ก็ยอมรับการเลือกตั้งครั้งนี้
มีแค่สนธิ ลิ้มที่ฉีกตัวออกมาหนุนแนวไปโหวตโนเล่น
คุณว่าพวกไหนน่าสงสัยกว่ากันแบบนี้

และอีกอย่างขอร้องเลย มุกดึงวีรชน มาอ้างว่า
เขาตายเพราะอยากได้การเลือกตั้งตามข้อเรียกร้อง
ที่คุณไปหลอกชาวบ้านมาร่วมชุมนุมด้วยสโลแกนที่ว่า
โค่นอำมาตย์ ยุบสภา แต่พอเขามาร่วมชุมนุมแล้ว
คุณกลับหักคอเขาด้วยการลดข้อเรียกร้องเหลือแค่ ยุบสภา แค่นั้น
แล้วที่เขายอมสู้ตายถวายชีวิตตามด่านต่างๆ
รวมทั้งผมที่ยังช่วยยันในช่วงแรกที่แยกคอกวัว
โดยที่ยังไม่มีคนจากส่วนกลางของ นปช. มาช่วย
ไม่มีอยู่ในหัวผมเลยว่าที่ยอมเสี่ยงตายวิ่งเข้าใส่ทั้งลูกกระสุนทั้งแก๊สน้ำตา
คืออยากได้การยุบสภาจนตัวสั่น เพราะขอแค่นั้นผมนอนอยู่บ้านไปแล้ว
ที่ออกไปช่วยก็เพื่อจะช่วยถ่ายภาพเอามาช่วยภายหลัง
กลัวเขาจะบิดเบือนเหมือนช่วง ปี 52 ที่บอกว่ามีคนตายแต่ไม่มีภาพ
และที่ช่วยยันตอนนั้นเพราะถ้ายันไม่อยู่จะแพ้ทั้งหมด
และมวลชนที่อยู่หน้าเวทีจะไม่ปลอดภัย
ไม่ได้ไปช่วยยันเพราะกลัวแกนนำจะตาย
หรืออยากได้ การยุบสภาจนตัวสั่น
จนต้องยอมเสี่ยงตายสู้ถวายชีวิตกันแบบนั้น
แถมช่วงนั้น มีคนมาถามผมว่า มีหลายม็อบไปม็อบไหนดี
ช่วงนั้นแตกสาขามีม็อบเล็กม็อบน้อยกระจายไปทั่ว
แถวงามวงศ์วานก็มี ผมยังแนะนำให้ไปอยู่ม็อบใหญ่ที่มีแกนนำ
เพราะปลอดภัยที่สุด เพราะไม่เคยเห็นใครเป็นแกนนำแล้วมีตายสักที
ดังนั้นผมไม่ได้กังวลเรื่องแกนนำจะไม่ปลอดภัยเลยให้ตายเถอะ
รวมไปถึงเรื่องยุบสภาด้วยปัญญาอ่อนสิ้นดี
ที่คิดยกเรื่องนี้มายัดให้เป็นความคิดวีรชน
โชคดีที่ผมไม่ได้เป็นวีรชนกับเขาไปด้วย ไม่งั้นคงเสียใจน่าดู
ที่มาลดค่าเป็นแค่คนปกป้องแกนนำกับอยากได้การยุบสภา
แทนที่จะเป็นผู้กล้ายอมตายเพื่อปกป้องมวลชนให้ปลอดภัย

โดย มาหาอะไร

FfF