โดยคุณ BLACKCAT
" ขอระบายความอึดอัดหน่อยนะ แบบว่าอึดอัดมานาน จากใจของกลุ่มคนที่อาสาทำหน้าที่ให้การช่วยเหลือและดูแลพี่น้องมวลชนเสื้อ แดงในที่ชุมนุม ซึ่งไม่เคยได้รับการเหลียวแลจากรัฐบาล( ก็มันคิดว่าคนเสื้อแดงมาไล่มัน มันจะมาดูแลทำไม มันคิดว่าประชาชนเป็นศัตรู? )เรามาทำหน้าที่นี้เพราะเรามีความถนัด และอยากใช้ความสามารถทั้งหมดที่เราพอมี ให้เป็นประโยชน์กับมวลชน คืองานด้านดูแลสุขภาพ และการปฐมพยาบาลเบื้องต้น จะมีแกนนำคนใดรู้บ้างว่า พี่น้องต้องการการดูแลด้านนี้มากเพียงไร มีแต่พวกเราบรรดา กลุ่มอาสาพยาบาล ที่มากันเอง จัดตั้งกันเอง ใช้ทุนส่วนตัว และทุนของเพื่อน ๆ ในกลุ่มตัวเอง รวมถึงพี่น้องมวลชนด้วยกันเอง ที่หยอดกล่องรับบริจาคหน้าเต้นท์ เราไม่เคยได้รับกานสนับสนุนเงินทองจากแกนนำแม้แต่บาทเดียว และไม่เคยร้องขอใด ๆ ทั้งสิ้น ทำงานไปตามธรรมชาติ ได้รับเงินบริจาคหน้าเต้นท์ น้อยมาก แต่ได้รับสนับสนุนจากเสื้อแดงที่พอมีกำลังทรัพย์ช่วยให้เราได้ทำงานเพื่อมวล ชนมาได้อย่างต่อเนื่อง "
" เราร่วมสู้มาตลอด ทำหน้าที่นี้มาหลายปีแล้ว มวลชนและการ์ด นปช.ที่ร่วมสู้กันมาตลอด ต่างก็รู้จักเราเป็นอย่างดี เรา( กลุ่มพยาบาลอาสา-มวลชน-และการ์ด ) เราเคยอยู่กันอย่างพี่น้อง ที่หัวอกเดียวกัน คือต้องสู้กับอำมาตย์เผด็จการ กลุ่มอาสาพยาบาลของเรา ร่วมสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับพี่น้องเรา และเรา ยืนเคียงข้างมวลชนจนวินาทีสุดท้าย ด้วยมุ่งมั่นในนิยามของคำว่า เรา...จะไม่ทอดทิ้งกัน ทุกครั้งที่ถูกสลายอย่างไร้ความปราณีจากรัฐบาล"
" ครั้งล่าสุด กลุ่มของเราต้องเปลี่ยนชื่อกลุ่มใหม่ เป็น VHG เพราะชื่อเก่ามันถูกกระชับพื้นที่ไป แต่ทีมงานก็ยังคงหน้าเดิม ๆ ทุกคน และทำตามอุดมการณ์คือสู้ต่อ และเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลทุกข์สุขของมวลชน เพราะจากการทำงานอย่างหนักของเรา กินอยู่หลับนอนข้างถนนเช่นเดียวกับมวลชน เราอาศัยข้าวแจกเช่นดียวกับมวลชนที่ทุกข์ยาก เพื่อประหยัดเงินทุกบาทที่ผู้ใจบุญบริจาคให้เรานำไปซื้อยา -เวชภัณท์ มาดูแลพี่น้องของเรา พวกแกนนำท่านรู้บ้างไหมว่า เราต้องใช้เงินซื้อยาในแต่ละวัน จำนวนเงินเท่าไร? สถานภาพความป่วยไข้ของพี่น้องร่วมรบที่น่าสงสาร เป็นอย่างไร ? ท่านคงไม่รู้ หรืออาจจะรู้แต่ไม่ตรงตามความเป็นจริง "
"หลังถูกสลาย บางคนในกลุ่มต้องหนีหัวซุกหัวซุน (ท่านอย่ารู้เลยว่า หนีทำไม ก็เป็นกลุ่มพยาบาลถ้าถามแกนนบางคนเขาอาจจะให้คำตอบได้ ) ตัวอย่างมีให้เห็นคือกลุ่มอาสากู้ชีพ ถูกยิงตายในวัด เราก็อยู่จุดเดียวกันนั่นล่ะ ) "
" แต่ด้วยวิญญาณนักสู้เสื้อแดงมันมีอยู่เต็มตัว และหัวใจ กลุ่ม VHG ก็เดินหน้าสู้ต่อไปพร้อมกับมวลชนอีก ภายใต้การควบคุมด้วย พรก.ที่วัดอ้อมน้อย สมุทรสาคร เราบอกับตัวเองว่า กู..ไม่หนีอีกแล้ว เพราะมวลชนต้องการการดูแล ไม่มีหน่วยพยาบาล มวลชนก็ลำบาก เจ็บป่วยกระทันหันจะทำอย่างไร "
" เราไปได้ด้วยดี เพราะในขณะนั้น ไม่มีแกนนำ ไม่มี " ส่วนกลาง" เข้ามาควบคุมการชุมนุม ทุกคนมีอิสระเสรีภาพไม่ถูกจำกัดสิทธิ มวลชนให้การต้อนรับ เพราะเราทำเพื่อพวกเขา "
" แต่ลางหายนะสำหรับ VHG มันเริ่มที่งาน แรลลี่ อยุธยา เราประสานงานกับผู้จัดเป็นอย่างดี ได้จุดตั้งเต้นท์ที่เหมาะสม คือมวลชนสามารถเข้าถึงได้ง่าย และสะดวก แต่จู่ ๆ ก็มีผู้จัดที่เขาอ้างว่า เป็นเจ้าของงาน และเป็นถึง พี่สาว สส.ในพื้นที่ มาขอให้เราย้ายเต้นท์ไปตั้งที่อื่น เพราะ "พยาบาลส่วนกลาง" ต้องการพื้นที่ตรงนั้น เช่นกัน มันกิดคำถามว่า ทำไมเราถึงต้องถูกไล่ที่ ? และต้องหลีกทางให้กับ "พยาบาลส่วนกลาง" ทั้งที่เราประสานงานมาเป็นที่เรียบร้อย และทุกครั้งเราจะไปเริ่มงานก่อนทีมวลชนจะเดินทางถึงที่ชุมนุมเสมอ คือไปแต่เช้า ส่วน " พยาบาลส่วนกลาง" วันนั้นเขามาถึงประมาณ บ่างสอง ถ้าจำไม่ผิด แต่ก็บ่ายมากแล้วล่ะ พอเขามาถึง เขาอยากได้อะไร สั่งอะไร ก็ต้องได้ทุกอย่างใช่ใหม่ ? แล้ว "พยาบาลส่วนกลาง" มี ความแตกต่างจาก " กลุ่มงานอาสาพยาบาล VHG " หรือหน่วยพยาบาลอาสา อื่น ๆ ตรงไหน ?
" และตั้งแต่มีการชุมนุมโดย นปช.เริ่มมีประธานรักษาการ มีการ์ด ชุดใหม่ ผู้ดูแลการ์ดคนใหม่ เป็นต้นมา VHG ซึ่งต้องอดหลับอดนอน ผลัดเวรกันไปจับจองพื้นที่ เช่นเดียวกับพ่อค้าแม่ค้าเสื้อแดง เพื่อให้ได้ทำเลตั้งเต้นท์ที่เหมาะสมในการดูแลมวลชน กลับถูก การ์ด นปช.ผู้ยิ่งใหญ่ ไล่เหมือนเราเป็นหมู เป็นหมา แต่คราวนี้ความอดทนมันถึงขีดสุด.. เราโต้ตอบกลับไปบ้าง เพราะไม่รู้จะทนให้พวกใจดำไร้สำนึกพวกนี้ มันไล่เตะเล่นไปทำไม.."
"ล่าสุดนี้ VHG ก็เจอทีเด็ดของผู้ยิ่งใหญ่ "พยาบาลส่วนกลาง " ที่เขาบอกว่าเขา เส้นใหญ่ ก็วิธีเดิม ๆ คือเรามีทีมงานไปประสานจุดตั้งเต้นท์ล่วงหน้า 1 วัน(ก็เรารู้ตัวว่าเรา เส้นไม่ใหญ่ และถูกไล่อยู่ประจำ) ได้ที่ชัดเจนแล้ว เช้า26ยาและเวบภัณท์ ก็ออกเดินทางจาก กทม.ตั้งแต่ตี 4 ถึงพื้นที่ก็เตรียมจัดของ ปรากฏว่า "พยาบาลส่วนกลาง" เส้นใหญ่คับเสื้อแดง ก็มายืนอวดก้าม ชูหาง พองขน ใช้วาจาถากถางเรา ..อดทน ไม่โต้ตอบ เพราะเราคิดว่า เรามีสมบัติผู้ดี ไม่ควรเสวนากับคนถ่อย น้องทีมงานที่จองพื้นที่ก็เข้าไปคุย..ได้ยินเต็ม 2หูว่า " ระหว่าง..(ขอไม่เอ่ยนาม ซึ่งเป็นผู้ชี้จุดให้เราตั้งเต้นท์ และดูแลจัดพื้นที่ ) กับ...( เขาเอ่ยชื่อแกนนำรอง ที่ขึ้นเวทีต้องมีเพลงประจำตัวคล้าย ๆ เพลงก๊อด ) ใครจะใหญ่กว่ากัน " จบค่ะ เรารู้แล้วว่า เจอกับอะไรเข้า ก็ต้องขนของหาที่ตั้งใหม่ ตามยถากรรม ประสากลุ่มอาสาพยาบาล ลูกเมียน้อย มาตรฐานการได้รับการต้อนรับ ต้องต่ำกว่า " พยาบาลส่วนกลาง "
" โชคดีที่พ่อค้าแม่ค้าเสื้อแดง ที่เขารู้จักเราดี ว่าเราเป็นผู้ที่ดูแลมวลชน รวมทั้งพวกเขาก็มารับการช่วยเหลือจากเรา พวกเขาเห็นใจ และรู้ว่า หน่วยพยาบาล มีความสำคัญ ต้องมีที่ตั้งเต้นท์ เพื่อดูแลมวลชน เขาแบ่งที่ให้เราได้ทำหน้าที่ดูแลมวลชนได้ในที่สุด "
" ยัง..ยังมีต่อ VHG ไม่ได้รับการต้อนรับตั้งแต่ก้าวแรก ที่เดินทางถึงโบนันซ่า คือการ์ดด่านแรกทีมีแผงเหล็กกั้นทางเข้า ไม่ยอมให้เรานำรถขนอุปกรณ์ ยา เข้าไป เขาอ้างว่า ต้องทำตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด เราบอกว่าเป็นหน่วยพยาบาล เขาถามว่าหน่วยไหน เราบอกว่า VHG เขาทำหน้าบอกบุญไม่รับ แล้วบอกว่านำรถเข้าไปไม่ได้ ( รถเก๋งคันเล็ก ๆ ) เราบอกว่าจะขนของให้เราไหมล่ะ เขาถามว่าหนักไหม เราบอกว่าไม่หนักจะขอเข้ารึ แล้ว พณ.ท่านที่หน้าจะเป็นหัวหน้ากลุ่ม ก็เดินมาที่รถ แล้วก็ทำหน้างี่เง่า สำรากคำพูดออกมาว่า " อยากเข้า ก็ปล่อยให้เข้าไป " เจ็บปวดไหมคะ สำหรับกลุ่มคนที่อาสามาดูแลมวลชนอย่างจริงใจ แต่เราก็ยังหน้าด้านทำหน้าที่ ดูแลมวลชนของเราต่อไป จนในวันนั้น ยาแทบหมดเต้นท์ และเราได้ดูแลความป่วยไข้ของพี่น้องเราเกือบตลอดวันและคืน พี่น้องมวลชนเห็นความสำคัญ และเห็นเราเป็นที่พึ่งในยามเจ็บป่วย และวางใจ ให้เราดูแล แต่ ผู้จัดการชุมนุม และแกนนำ ไม่เคยเห็นความสำคัญกับเราเลย "
**ท่านไม่ให้ความสำคัญเราไม่ว่าแต่อย่าให้คนของท่าน มารังแกเรา เพราะแม้แต่อำมาตย์เรายังสู้ ดังนั้นจากนี้ไป ใครมารังแกเรา เราก็จะสู้ เพื่อความถูกต้อง และความยุติธรรมในหมู่เสื้อแดง กำจัด 2 มาตรฐานในเสื้อแดง ***
http://www.rajdumnern.net/showthread.php?tid=21233
---------------------------------------------------------------------
เรื่อง ตากล้องเสื้อแดง,การ์ด,แกนนำ....เข้ามาอ่านซะ
โดยคุณ หัตถา
……….ตากล้องคนเสื้อแดง เกิดมาจากการรวมตัวของชาวเวปไซด์ ที่คันไม้คันมือ
อยากจะนำเสนอ ภาพเหตุการณ์ต่างๆ ของการชุมนุมทุกแง่มุมมอง
เพื่อเป็นการสร้างสรรค์ภาพข่าวของชาวเวปเสื้อแดงเอง
เนื่องพวกเขาทนไม่ได้กับระบบข่าวสารทางอื่น ไม่ว่าจะเป็นการบิดเบื่อน สร้างข่าวลวงและเล่าความเท็จ
ซึ่งจากเหตุการณ์ ต่างๆที่ผ่านมา ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า หลักฐานภาพเหล่านั้นมาจากพวกเขา ที่แพร่ลงเวปไซด์
ส่วนมากก็เป็นภาพจากตากล้องเสื้อแดงทั้งนั้น....แต่ผมก็แปลกใจ ว่าทำไมแกนนำระดับต้นๆ
ยังไม่เห็นความสำคัญของพวกเราเลย
ทั้งที่พวกเขามาทำด้วยใจ กล้องก็เงินส่วนตัว เม้มเงินค่านมลูก กับข้าวเมีย ค่ายานพาหนะก็ไม่ต้องเบิก
ค่าอาหารค่าเบี้ย ค่าเสี่ยงภัย ….ไม่ต้องจ่ายให้สักบาท...เมื่อถ่ายมาแล้ว ถ้าภาพมากก็ต้องมานั่งหลังขดหลังแข็ง
คัดภาพ ย่อขนาด โพสภาพหน้าเวบไซด์ครั้งๆหนึ่ง ข้ามวันข้ามคืนเชียวล่ะ
…….เออก็ไม่เข้าใจจริงๆ
จากสื่อหลักๆหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ ทุกวันนี้ที่แกนนำยกหางให้ก็แล้ว แกนนำแทบจะกราบ
ได้ยินนายอนุสรณ์ พิธีกรพูดทุกครั้งบ่อยๆตบมือตบตีนให้ก็แล้ว ขาดแต่ยังไม่ได้ให้มวลชนก้มกราบเท่านั้นแหละ
ก็ยังไม่มีการนำเสนอข่าวด้านที่ดี ปล่อยให้มันหลอกแดกไปวันๆ
เพื่อ..เล่นข่าวให้มีพื้นที่ข่าวในหน้าสื่อให้มากขึ้นเท่านั้นแต่ยังคงล้มเหลวเช่นเดิม
ทั้งที่ให้ความสะดวก ให้อภิสิทธิ์ทุกอย่าง รวมทั้งการจอดรถข่าว
ผิดกับตากล้องพวกเสื้อแดง ถูกกีดกันมันทุกอย่าง ไม่ว่าจะเข้าไปหลังเวที หรือหน้าเวที แม้กระทั่งยืนชิดขอบรั้วหน้าเวที
เพื่อถ่ายภาพความเคลื่อนไหวในมุมมองต่างๆ หรือภาพจากหน้าเวทีไปทางผู้ชุมนุม
ซึ่งตากล้องแต่ละคนมีมุมมองในการสร้างสรรค์ภาพไม่เหมือนกัน
การนำเสนอภาพออกสื่อสาธารณะ แกนนำบนเวทีควรยอมรับว่าตากล้องคนเสื้อแดง
นำภาพข่าวเสนอได้ดีกว่าและในปริมาณที่หลากหลายกว่าจำนวนมากกว่า มีอิสระในการเขียนข่าวและเสนอภาพ
ถ้าจะพูดถึงฝีมือกัน เหล่าตากล้องเสื้อแดงสมัครเล่นนี้ ความเห็นผมมีมุมมองที่เหนือกว่าพวกสื่อหลักๆ
ที่กล่าวมาแล้วเสียอีก....รวมทั้งคุณภาพของภาพก็ไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน
ซึ่งบางครั้ง เคยได้ยินแกนนำประกาศขอภาพในเวปไซด์แต่ก็แปลก ไม่มีใครส่งให้ เช่นผมเป็นต้น
ผมเข้าใจดีว่าถ้าไม่เห็นความสำคัญของพวกเค้าก็อย่าเอาต้นฉบับเลย....
ก๊อปเอาจากหน้าเวปแล้วกัน เพราะแต่ละภาพกว่าจะได้นี่มันเหนื่อยจริงๆ
ยิ่งตอนสลายการชุมนุม นี่เสี่ยงไปเกิดใหม่จริงๆ
ถ้าผมเป็นแกนนำผมจะเมล์ไปขอเจ้าของภาพถึงที่เลยครับ
ที่เขียนมาทั้งหมดนี้ จากการที่ประสบปัญหากับตัวเองและจากเพื่อนๆตากล้องชาวเวบด้วยกัน.....มันอึดอัด
แต่ก็ไม่ได้หวังอะไรจากแกนนำคนเสื้อแดงทั้งสิ้น.....
ถ้าจะถามว่าใครไม่ให้เข้า ก็การ์ดของพวกแกนนำนั้นแหละ
แต่ก็อยากให้รับรู้ไว้ว่าภาพที่เห็นตามเวปเกิดมาจากพวกเราตากล้องคนเสื้อแดงทั้งสิ้น อย่ากีดกันๆให้มากนักเลย
จนปัจจุบัน ผมเบื่อเรื่องที่เขียนมาจึงลดการถ่ายภาพลงและให้น้องๆรุ่นใหม่ๆเขาทำบ้างด้วยใจรักเช่นกัน
…………………………….ยังศรัทธาในอุดมการณ์ของคนเสื้อแดงอยางถาวร................................
จากตากล้อง RedCyber Group
http://www.rajdumnern.net/showthread.php?tid=21170
---------------------------------------------------------------------
facebook Suda Rangkupan
การบริหารจัดการของ นปช. ต้องปรับปรุงกันเยอะทีเดียว ...ก่อนจะถึง 10 เมษานี้ ใครมีอะไร ก็คุยกันให้ดีเถอะค่ะ ยังมีโอกาสแก้ปัญหาค่ะ
...
Suda Rangkupan เล่าเรื่องการจัดการพื้นที่ขายของที่โบนันซ่า ตามที่ได้ฟังมาให้ฟังนะคะ มันมีปัญหาการ์ดจริงๆ แต่คนที่เป็นปัญหามีไม่กี่คน เป็นระดับ senior แล้ว ไม่ใช่หัวหน้าสูงสุด แม่ค้าบอกชื่อ ดิฉันก็จำไม่ได้เสียด้วย อย่างไรก็แล้วแต่ แม่ค้าเขาไปกันล่วงหน้าหลายวัน ไปจับจองพื้นที่ การ์ดก็มาไล่แบบไม่มีเหตุผล แต่ในที่สุด ก็มีบางเจ้า ได้อภิสิทธิตั้งแผงบนถนน ซึ่งแม่ค้าเล็กๆ เช่น ชงกาแฟขาย มีแค่โต๊ะเล็กๆ กับกาต้มน้ำ กลับถูกไล่ให้ลงไปอยู่ใต้ถนน ซึ่งก็ทำให้ขายไม่ได้เลย จนขาดทุน
...แม่ค้าที่เห็นอย่างนี้ก็โกรธมาก มาบอกดิฉัน "อาจารย์ เราสู้กับ ๒ มาตรฐาน ทำไมเรายังมี ๒ มาตรฐานเอง นี่มันระบบอำมาตย์ชัดๆ" ผู้ค้าเสื้อแดงนั้น หลายเจ้าเขาก็คือคนเสื้อแดงร่วมต่อสู้ สู้ไป ขายของต่อชีวิตไป บางทีรู้ว่าขายไม่ดี เขาก็มา บอกว่า "ต้องมา อาจารย์! มีงานเสื้อแดง ไม่มีเสื้อแดงขาย งานมันกร่อย เราต้องมาให้งานมันมีสีสัน"
...ซึ้งน้ำใจพี่ๆ เสมอ ...ดิฉันบอกอยากให้พี่ๆ ไปรวมตัวกัน เสนอทางแก้ไขปัญหาการ์ด(บางคน) กับผู้ค้า ก่อนงาน 10 เมษา ไปคุยกัน ไม่รู้เขาจะทำไหมค่ะ
---------------------------------------------------------------------
วันที่ 2010-03-15 21:08:28 โดย มติชน
นศ.หลากสถาบันตั้งกลุ่ม "แดงเยาวชน" อีกเวทีไม่ไกลม็อบนปช.
ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 15 มีนาคม ว่า ในการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือมวลชนเสื้อแดง ที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศ นอกจากเวทีใหญ่ที่มี 3 เกลอ นายวีระ มุสิกพงศ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายจตุพร พรหมพันธุ์ กำกับอยู่แล้ว ยังมีอีก 1 เวที บริเวณหน้าอาคารสหประชาชาติ ที่สร้างสีสันในวงล้อมมวลชนคนเสื้อแดง คือ กลุ่มองค์กรเสรีปัญญาชน หรือ "กลุ่มแดงเยาวชน" ที่ก่อตั้งครั้งแรกช่วงเหตุการณ์สงกรานต์เลือด 13 เมษายน 2552 เป็นการรวมตัวของนักศึกษาจากหลายสถาบันประมาณ 2,000 คน แสดงความคิดทางการเมือง ไม่เห็นด้วยกับนโยบายของรัฐบาลหลายๆ ด้าน อาทิ โครงการเรียนฟรี 15 ปี เป็นต้น เวทีนี้เปิดตัวตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคม และเป็นครั้งแรกที่มีเปิดปราศรัยบนเวที โดยมีนายจักรภพ เพ็ญแข โฟนอินเข้ามาแสดงความคิดเห็น เยาวชนเหล่านี้บอกว่า พวกเขาทำเวทีปราศรัยขึ้นมาเอง มีค่าบริหารจัดการเฉลี่ยวันละ 13,000 บาท แบ่งเป็นค่าเวที 5,000 บาท ค่าน้ำมัน 5,000 บาท และค่าอาหารอีก 3,000 บาท แต่ยืนยันว่า ไม่ได้รับเงินจากใคร เพราะต่างไปด้วย "อุดมการณ์" เดียวกัน คือ "ไม่ยอมรับ" รัฐบาลที่มาจากระบอบอำมาตย์เท่านั้น และแม้ว่า เมื่อคืนวันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา นายวีระ มุสิกพงศ์ จะประกาศว่า พวกเขาเป็นกลุ่มแดงสยาม แต่พวกเขายืนยันอีกครั้งว่า ไม่ใช่แน่นอน เพียงแต่นายสุรชัย (แซ่ด่าน) ด่านวัฒนานุสรณ์ แกนนำกลุ่มแดงสยาม เข้าไปเห็นพวกเขา ก็ถือโอกาสขึ้นเวทีมาให้กำลังใจ และบริจาคเงินให้ 500 บาท ก็เท่านั้น
---------------------------------------------------------------------
<<< เหยื่อแห่งความกลัวของแกนนำ >>>
http://maha-arai.blogspot.com/2011/03/blog-post_14.html
<<< ม็อบปิดรับฏีกาคึกคัก แต่เห็นการผลักมิตรเป็นศัตรู และรับรู้เรื่องราวไม่ดี ที่เกือบจะมีปัญหาใหญ่โต >>>
http://maha-arai.blogspot.com/2009/08/blog-post.html
---------------------------------------------------------------------
เห็นวาทกรรมดีๆ วาทกรรมหนึ่งคือ "มิตรต้องเข้าใจมิตร"
ผมคิดว่าน่าจะใช้ควบคู่กับวาทกรรมนี้ "ทำดีกว่าพูด"
เพราะถ้าคิดว่ามิตรต้องเข้าใจมิตรจริงๆ แล้ว
เหตุการณ์ต่างๆ ด้านบนคงไม่เกิดขึ้น
ไม่ใช่พึ่งเกิด แต่เกิดมานานแล้ว
แต่พึ่งมีคนเห็นกันเยอะขึ้นเท่านั้น
นอกจากเรื่องราวด้านบน
ผมยังได้ยินแม่ค้าขายเสื้อโลโก้หยุด 112
เล่าถึงเพื่อนที่ขายเสื้อแบบคล้ายกันที่โบนันซ่า
โดนการ์ดจะผลักดันให้ออกจากม็อบ
แต่แม่ค้าฮึดสู้ด่าการ์ดกระเจิงทำนองว่า
สู้มาก่อนเห็นหน้าพวกการ์ดเหล่านี้เสียอีก
คงไม่ได้พูดเพราะๆ แบบที่เราว่าแต่แนวๆ นี่
สุดท้ายการ์ดไม่รู้ทำยังไง
เพราะแม่ค้าคนนั้นสู้ยืนกรานไม่ออก
เหตุการณ์นี้จบยังไงไม่รู้ รู้แต่ว่าแม่ค้าไม่ยอมออก
แถมขายเสื้อโลโก้แบบนี้ในงานได้หลายตัวด้วย
เรื่อง 112 เขาทั้งพูดทั้งใส่ทั้งทำป้ายเรื่องนี้มากมาย
ในม็อบเล็กๆ แต่ยิ่งใหญ่ในข้อเรียกร้องของม็อบเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว
<<< บันทึกประวัติศาสตร์ ม็อบเล็กๆ แต่ยิ่งใหญ่ในข้อเรียกร้อง >>>
http://maha-arai.blogspot.com/2011/03/blog-post_28.html
แต่ม็อบของมิตร กลับไม่เข้าใจในมิตร รับไม่ได้ จะผลักไส
ห้ามนั้นห้ามนี่อีกหน่อยก็คงไม่ต่างอะไรกับการ์ดพันธมิตร
ตรวจดะด้วยความหวาดกลัว
ผมว่าทุกวาทกรรมที่พูดออกมาสวยหรู
นำไปปฏิบัติให้ได้ก่อนแล้วอะไรๆ จะดีขึ้นมาเอง
โดย มาหาอะไร
FfF