<<< การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ ไม่ใช่ฝีมือของผู้หวาดกลัว แต่เป็นฝีมือของผู้กล้าจำนวนมากมาย มาร่วมกระทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง >>>

การต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมในสังคม
เพื่อเสรีภาพของประชาชน
และเพื่อประชาธิปไตยที่แท้จริง
ไม่ว่าประเทศไหน กว่าจะต่อสู้ให้ได้มาในสิ่งที่ว่ามานั้น
ตัวอย่างจากหลายๆ ประเทศก็เห็นกันอยู่แล้วว่า
ไม่เคยมีประเทศไหน ได้มาฟรีๆ
โดยไม่มีการเสียเลือดเสียเนื้อกัน
นี่เป็นเรื่องจริงที่อยากจะบอก
และทุกคนจำเป็นต้องรู้ความจริง
เมื่อรู้ความจริงแล้วตัดสินใจเลือกออกมาสู้
เพื่ออนาคตลูกหลานในภายภาคหน้า
เพื่อประเทศชาติในอนาคต
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตนเองก็ตาม
มันจะเกิดการพัฒนาโดยธรรมชาติ ถ้าไม่ยอมเลิกลา
จากกลัว จนกล้า จนบ้าในที่สุด
ที่ว่าบ้านี้ ไม่ใช่การบ้าแบบสติฟั่นเฟือน
แต่การบ้ากับพวกผู้มีอำนาจที่มารังแก
คนบ้าจะทำอะไรได้ทุกอย่าง
แบบกูไม่กลัวมึง

บางทีก็ต้องขอบใจพวกเขาเหมือนกัน
ที่อุตส่าห์ทำหลักสูตรเร่งรัดพัฒนามวลชน
ให้กล้าแกร่งเร็วขึ้น จากการโดนข่มขู่คุกคามบ่อยๆ
ซึ่งจะฝึกเองก็ทำได้ยากพอสมควร
ดังนั้นไม่ขอบใจพวกผู้มีอำนาจก็คงไม่ได้
เพราะอุตส่าห์มาช่วยฝึกซ้อมมวลชนให้กล้าแกร่งขึ้นไวๆ

การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ในโลกนี้
มักเกิดจากการที่มีผู้กล้าจำนวนมาก
ออกมาช่วยกันทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
ไม่เคยมีสักครั้งเดียวที่ผู้หวาดกลัว
จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรได้
วาทกรรมในการปั้นคำ
เพื่อทำให้ผู้หวาดกลัวบางคนดูดี
เช่น คนที่มีชีวิตเท่านั้นที่จะเปลี่ยนแปลงได้สำเร็จ
ซึ่งมันก็จริง แต่ก็ต้องเป็นผู้มีชวิตที่กล้าเท่านั้นด้วย
ถึงจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆ ได้
ผู้มีชีวิตที่พร้อมยอมจำนนตลอดเวลา
หวาดกลัวตลอดเวลา
ไม่สามารถนำพาความเปลี่ยนแปลงใดๆ มาได้เลย
นอกจากนอนรอปาฏิหารย์ไปวันๆ เท่านั้นเอง

แนวทางของการเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่ใดๆ ได้สำเร็จ
จะต้องเป็นการหนุนผู้กล้าขึ้นมาแทนที่ผู้กล้า
ที่จากไปอย่างยิ่งใหญ่เรื่อยๆ จนกว่าจะได้รับชัยชนะ
เพราะถ้าหนุนผู้หวาดกลัวให้มาแทนที่ผู้กล้า
วันนี้เขาก็หวาดกลัว วันหน้าเขาก็หวาดกลัว
และเขาก็อาจแก่ตายไปพร้อมกับความหวาดกลัว
จะมีอะไรเหลือให้คนรุ่นหลังนำไปปลุกให้คนกล้าลุกขึ้นสู้
ในเมื่อผู้มานำก็หวาดกลัวจนแก่ตาย
เป็นการสูญเสียเวลาไปกับความหวาดกลัวของผู้มานำเท่านั้นเอง

"การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่
ไม่ใช่ฝีมือของผู้หวาดกลัว
แต่เป็นฝีมือของผู้กล้าจำนวนมากมาย
มาร่วมกระทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง"

โดย มาหาอะไร
FfF