วิเคราะห์ผลได้ & ผลเสียจากคลังเตรียมปรับโครงสร้างระบบโครงสร้างภาษี
มกราคม 31, 2011 ให้ความเห็น
(ปรับขึ้น VAT แต่ลด CIT/PIT หรือ คง VAT ลด CIT/PIT ลด BOI หรือ ยกเลิก BOI แต่คง VAT)
การปรับระบบโครงสร้างภาษี | เพิ่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศ |
รายรับที่มีแนวโน้มลดลง | ภาษีศุลกากร ตามแผนการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558
ภาษีเงินได้นิติบุคคล เพื่อสนับสนุนความสามารถทางการแข่งขันของภาคธุรกิจ |
รายรับที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น | ภาษีฐานรายได้ อาทิ ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ภาษีมรดก
ภาษีสรรพสามิต อาทิ ภาษีที่ทำลายสุขภาพ (ภาษีบาป) ภาษีสิ่งแวดล้อม ภาษีมูลค่าเพิ่ม |
โครงการไทยเข้มแข็ง | เพิ่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศ |
นโยบายประชาวิวัฒน์ | เสริมสร้างสวัสดิการด้านสังคมให้ผู้มีรายได้น้อยหรือผู้ด้อยโอกาส |
กองทุนการออมแห่งชาติ | แผนรับมือการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ |
การแปรรูปรัฐวิสาหกิจ | เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ |
ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (Personal Income Tax: PIT) เป็นภาษีฐานรายได้ที่จัดเก็บอัตราภาษีแบบก้าวหน้า หรืออัตราภาษีเพิ่มขึ้นตามรายได้ที่สูงขึ้น อย่างไรก็ดี เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ บรรเทาภาระภาษี และพัฒนาตลาดทุน ทางการได้มีการออกกฎหมายกำหนดให้สามารถหักค่าลดหย่อนได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การยกเว้นภาษีสำหรับผู้มีเงินได้ 150,000 บาทแรก การลดหย่อนส่วนตัว-คู่สมรส-บุตร ค่าลดหย่อนเงินบริจาค-ท่องเที่ยว ค่าลดหย่อนกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ประกันสังคม และดอกเบี้ยกู้บ้าน ตลอดจนค่าลดหย่อนสำหรับการลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) กองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ประกันชีวิต และเงินซื้อบ้านใหม่ โดยเมื่อได้ยอดเงินได้สุทธิแล้ว นำไปคำนวณภาษีตามอัตราภาษี ดังนี้
เงินได้สุทธิ | ช่วงเงินได้สุทธิ
แต่ละขั้น | อัตราภาษี
ร้อยละ | ภาษีแต่ละขั้น
เงินได้สุทธิ | ภาษีสะสม
สูงสุดของขั้น |
1 – 150,000 | 150,000 | ยกเว้น | - | - |
150,001 – 500,000 | 350,000 | 10 | 35,000 | 35,000 |
500,001 – 1,000,000 | 500,000 | 20 | 100,000 | 135,000 |
1,000,001 – 4,000,000 | 3,000,000 | 30 | 900,000 | 1,035,000 |
4,000,001 บาทขึ้นไป |
| 37 |
|
|
หมายเหตุ: การยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เงินได้สุทธิเฉพาะส่วนไม่เกิน 150,000 บาท มีผลใช้บังคับสำหรับเงินได้สุทธิที่เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2551 เป็นต้นไป (พระราชกฤษฎีกา (ฉบับที่ 470) พ.ศ. 2551) โดยเงินได้สุทธิ คำนวณจากเงินได้พึงประเมินหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน
ที่มา: กรมสรรพากรภาษีเงินได้นิติบุคคล (Corporate Income Tax: CIT) เป็นภาษีฐานรายได้ที่โดยทั่วไปจัดเก็บจากกำไรสุทธิของผู้ประกอบการในอัตรา ภาษีร้อยละ 30 แต่ก็มีการลดหย่อนอัตราภาษีเป็นร้อยละ 20-25 สำหรับบริษัทที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (SET) และตลาด MAI รวมทั้งมีการยกเว้นภาษีบางส่วนให้บริษัทที่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจาก สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เป็นระยะเวลาตั้งแต่ 3-8 ปี ตามเงื่อนไขและพื้นที่โครงการลงทุนของบริษัทเหล่านั้นเป็นหลัก
ภาษีมูลค่าเพิ่ม (Value-added Tax: VAT) เป็นภาษีฐานการใช้จ่ายที่จัดเก็บในอัตราเดียว โดยเริ่มใช้เมื่อปี พ.ศ. 2535 และมีเพดานอัตราภาษีตามกฎหมายกำหนดไว้ที่ร้อยละ 10 แต่เนื่องจากประเทศไทยประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ ทางการจึงมีการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มเหลือร้อยละ 7 เรื่อยมาตั้งแต่ 1 เมษายน 2542 จนถึงปัจจุบันที่การลดอัตราภาษีจะมีกำหนดสิ้นสุดในวันที่ 30 กันยายน 2555
เปรียบเทียบอัตราภาษี PIT CIT และ VAT ของไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน
ประเทศ | PIT | CIT | VAT |
ไทย | 0-37% | 30% | 7% |
สิงคโปร์ | 3.5-20% | 17% | 7% |
เวียดนาม | 5-35% | 25% | 10% |
อินโดนีเซีย | 5-30% | 28% | 10% |
ฟิลิปปินส์ | 5-32% | 30% | 12% |
จีน | 5-45% | 25% | 17% |
ที่มา: http://www.worldwide-tax.com
1) ปรับขึ้น VAT แต่ลด CIT/PIT
2) คง VAT ลด CIT/PIT และลดการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี BOI
3) ยกเลิกการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี BOI แต่ไม่ขึ้น VAT
1อ้าง อิง จากบทความจากงานสัมมนาวิชาการประจำปี 2553 ของธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง ความท้าทายของนโยบายการคลัง: สู่ความยั่งยืนและการขยายตัวทางเศรษฐกิจระยะยาว
แหล่งที่มาข้อมูล
- สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
- กรมสรรพากร
- บทความจากงานสัมมนาวิชาการประจำปี 2553 ของธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง ความท้าทายของนโยบายการคลัง: สู่ความยั่งยืนและการขยายตัวทางเศรษฐกิจระยะยาว โดย สุรจิต ลักษณะสุต พิสิทธิ์ พัวพันธ์ จารุพรรณ วานิชธนันกูล คธาฤทธิ์ สิทธิกูล อุทุมพร จิตสุทธิภากร และจงกล คำไล้
- http://www.worldwide-tax.com
Tax Rates Around the World
(Note: Only the underlined countries are currently ready)
| ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
1. In countries in which VAT is charged at a number of different rates, the rate in the Table is the highest rate.
2. The rates in the Table do not include Local tax, if it exists.
http://www.worldwide-tax.com/#partthree
------------------------------------------
ภาษีมูลค่าเพิ่ม
ภาษีมูลค่าเพิ่ม (อังกฤษ: Value Added Tax หรือ VAT) หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า แวต เป็นภาษีทางอ้อมประเภทหนึ่งที่เรียกเก็บจากบุคคลที่ซื้อสินค้าหรือรับบริการ โดยจัดเก็บเฉพาะจากมูลค่าส่วนที่เพิ่มขึ้นในแต่ละขั้นตอนของการผลิต การจำหน่ายหรือการให้บริการ ตัวอย่างเช่น สมมติว่าอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นร้อยละ 10 ซื้อวัตถุดิบ วัสดุอุปกรณ์มา 100 บาท และมีภาษีซื้อ 10 บาท เมื่อผลิตเป็นสินค้าขายในราคา 150 บาท ตอนขายไปจะต้องคิดภาษีขาย 15 บาท ดังนี้ ก็จะเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเฉพาะผลต่างจำนวน 15-10 = 5 บาท เท่านั้น ถ้าการซื้อ และขายเกิดขึ้นภายในรอบการจ่ายภาษีเดียวกัน.
เนื้อหา[ซ่อน] |
[แก้] ประวัติ
ในวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2535 ประเทศไทยได้เริ่มมีการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นครั้งแรก
การนำภาษีมูลค่าเพิ่มมาใช้เป็นผลมาจากเหตุผลในทางเศรษฐกิจ กล่าวคือ จากการที่เศรษฐกิจของประเทศไทยขยายตัวอย่างรวดเร็ว ฐานะทางเศรษฐกิจการเงินการคลังของประเทศมั่นคงขึ้นมาก ในขณะที่มีการกล่าวถึงความไม่เหมาะสมของโครงสร้างภาษีการค้าต่อเศรษฐกิจของ ประเทศ อันได้แก่ความซ้ำซ้อนของระบบภาษีการค้าที่เป็นอยู่ และความหลากหลายของโครงสร้างอัตราภาษีนอกจากความบกพร่องของระบบภาษีการค้า ซึ่งไม่เอื้ออำนวยต่อการพัฒนาเศรษฐกิจในอนาคตแล้ว ความต้องการเปลี่ยนแปลงระบบภาษีของทางการ ยังสืบเนื่องมาจากเหตุผลทางด้านภาษีอากรอีกด้วย กล่าวคือ ความสามารถในการหารายได้ของรัฐผ่านเครื่องมือทางภาษีการค้าและภาษีศุลกากร ได้ลดน้อยลงเป็นลำดับ
ด้วยเหตุผลดังกล่าว กระทรวงการคลัง จึงได้เสนอพิจารณายกเลิกภาษีการค้า และนำภาษีมูลค่าเพิ่มมาใช้แทน โดยภาษีมูลค่าเพิ่มดังกล่าวจะมีอัตราเดียวที่ใช้กับสินค้าและบริการทุกชนิด สำหรับสินค้าใดที่มีเหตุผลทางเศรษฐกิจที่จะเก็บสูงกว่าอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม ให้เก็บภาษีสรรพสามิตเพิ่มเติมจากภาษีมูลค่าเพิ่ม
การนำภาษีมูลค่าเพิ่มมาใช้นี้ นับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญต่อระบบภาษีอากรของประเทศไทยเป็นการปฏิรูป ภาษีการค้าครั้งใหญ่ ทำให้ระบบภาษีอากรของประเทศมีความสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน และเอื้ออำนวยต่อการลงทุนการส่งออก และการขยายตัวอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจ เนื่องจากภาษีมูลค่าเพิ่มไม่มีความซ้ำซ้อนของภาระภาษีดังเช่นภาษีการค้า นอกจากนี้ภาษีมูลค่าเพิ่มทำให้เกิดความเป็นธรรมและความสะดวกต่อการปฏิบัติ ตามของผู้เสียภาษีอีกด้วย
[แก้] อัตราภาษีมูลค่าเพิ่มในประเทศต่างๆ
[แก้] ประเทศนอกสหภาพยุโรป
ประเทศ | อัตรา | |
---|---|---|
มาตรฐาน | Reduced | |
อาร์เจนตินา | 21% | 10.5% หรือ 0% |
ออสเตรเลีย | 10% |
|
บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา | 17% |
|
บัลแกเรีย[1] | 20% | 9% |
แคนาดา | 7% หรือ 15% | 4.5% |
ชิลี | 19% |
|
จีน | 17% | 6% หรือ 3% |
โครเอเชีย | 22% | 0% |
สาธารณรัฐโดมินิกัน | 6% | 12% หรือ 0% |
เอกวาดอร์ | 11% |
|
ไอซ์แลนด์ | 24.5% | 14% |
อินเดีย | 12.5% | 4%, 1%, หรือ 0% |
อิสราเอล | 16.5% |
|
ญี่ปุ่น | 5% |
|
มาเลเซีย | 5% |
|
เม็กซิโก | 15% | 0% |
นิวซีแลนด์ | 12.5% |
|
นอร์เวย์ | 25% | 14% หรือ 8%[1] |
ฟิลิปปินส์ | 10% |
|
โรมาเนีย[1] | 24% | 9% |
รัสเซีย | 18% | 10% หรือ 0% |
เซอร์เบีย | 18% | 8% หรือ 0% |
สิงคโปร์ | 5% |
|
แอฟริกาใต้ | 14% | 7% หรือ 4% |
เกาหลีใต้ | 10% |
|
ศรีลังกา | 15% |
|
สวิตเซอร์แลนด์[1] | 8% | 3.8% หรือ 2.5% |
ไทย | 10% | 7% |
ตุรกี | 18% | 8% หรือ 1% |
ยูเครน | 20% | 0% |
เวเนซุเอลา | 16% | 8% |
[แก้] ประเทศในสหภาพยุโรป
ประเทศ | อัตรา | |
---|---|---|
มาตรฐาน | Reduced | |
ออสเตรีย | 20% | 12% หรือ 10% |
เบลเยียม | 21% | 12% หรือ 6% |
ไซปรัส | 15% | 5% |
สาธารณรัฐเช็ก[1] | 20% | 10% |
เดนมาร์ก | 25% |
|
เอสโตเนีย[1] | 20% | 9% |
ฟินแลนด์[1] | 23% | 13% หรือ 9% |
ฝรั่งเศส | 19.6% | 5.5% หรือ 2.1% |
เยอรมนี | 19% | 7% |
กรีซ[1] | 23% | 13% หรือ 6.5% |
ฮังการี[1] | 20% | 18% หรือ 5% |
ไอร์แลนด์ | 21% | 13.5% หรือ 4.8% |
อิตาลี | 20% | 10%, 6%, หรือ 4% |
ลัตเวีย[1] | 22% | 12% หรือ 0% |
ลิทัวเนีย[1] | 21% | 9% หรือ 5% |
ลักเซมเบิร์ก | 15% | 12%, 9%, 6%, หรือ 3% |
มอลตา | 18% | 5% |
เนเธอร์แลนด์ | 19% | 6% |
โปรตุเกส[1] | 23% | 13% หรือ 6% |
โปแลนด์[1] | 23% | 8% หรือ 5% |
สโลวาเกีย[1] | 20% | 10% |
สโลวีเนีย | 20% | 8.5% |
สเปน[1] | 18% | 8% หรือ 4% |
สวีเดน | 25% | 12% หรือ 6% |
สหราชอาณาจักร[1] | 20% | 5% |
[แก้] อ้างอิง
http://th.wikipedia.org/wiki/ภาษีมูลค่าเพิ่ม
---------------------------------------
FfF