<<< การปฏิรูปองค์กรไม่ใช่แค่เปลี่ย นชื่อ เปลี่ยนชุดทำงาน เปลี่ยนนั่นเปลี่ยนนี่แต่ไม่ได้ เปลี่ยนกฏระเบียบข้อบังคับวิธีก ารทำงาน ก็ไม่มีทางปฏิรูปได้สำเร็จ >>>
Maha Arai ยกตัวอย่างเช่นต้องการปฏิรูปองค์กรที่ทำหน้าที่จัดหา จัดซื้อจัดจ้างอะไรพวกนี้ ต่อให้เปลี่ยนชื่อหน่วยงาน เปลี่ยนชุดแต่งกายใหม่ เปลี่ยนหัวหน้าใหม่เก่งแค่ไ หน ถ้าไม่แตะกฏระเบียบข้อบังคั บ เพื่อแก้ไขให้มันเร็วขึ้น ก ็ไม่มีทางทำให้มันเร็วขึ้นไ ด้ และปฏิรูปไม่ได้ ได้แต่ภาพภายนอก ภายในก็ไม่ไ ด้เร็วขึ้นกว่าเดิม เป็นต้น
Maha Arai ยกตัวอย่างกฏระเบียบข้อบังคับที่ว่า หลังประกาศจัดหาให้รอ 15 วัน เท่ากับนั่งรอเสียเวลาฟรีๆ ไป 15 วัน ในขณะที่องค์กรเอกชนไม่จำเป ็นต้องทำแบบนี้ไม่กี่วันได้ ของขาย ได้ของใช้ แล้วจะไปสู้ อะไรเขา
Maha Arai การกลัวเจ้าหน้าที่จะโกงกินเลยกำหนดเงื่อนไขให้ยุ่งยาก ก็ไม่ได้ช่วยแก้เรื่องโกงกิ นหรือเอื้ออะไรบริษัทอะไรได้ หรือกลัวว่าบริษัทจะทำสเป็ค ไม่ทันยื่นไม่ได้กลัวโดนร้องเรียน สิ่งเหล่านี้คือคำถามคาใจว่ าทำไมเอกชนไม่กลัว ทำไมเขาทำได้ แถมได้ของดีไม่ใช่ดูแค่ถ ูกที่สุดอีกต่างหาก เพราะหน่วยงานรัฐเอาแต่ถูกท ี่สุดแต่คุณภาพห่วยแตกใช้ไม ่เท่าไหร่พังหรือบริการหลัง การขายไม่ดี หรืออะไหล่หายากหรือไม่สามา รถปรับเปลี่ยนเพื่อความคล่อ งตัวได้ ถ้าทุกคนยึดแต่ของถูกหมด คงไม่มีใครซื้อ iPhone iPan หรือที่กำลังมาแรงค่ายซัมซุ งหรอก คงใช้โทรศัพท์เครื่องไม่ถึง พันก็มีขายแล้ว โทรได้เหมือนกัน
Maha Arai แทนที่จะเพิ่มโทษให้แรงขึ้นทำให้โปร่งใสขึ้น ลดวันจาก 15 วันเหลือ 3 วันสำหรับสเป็คเก่าที่เคยจั ดหามานานและใช้ระบบโทรให้บร ิษัทที่เคยจดทะเบียนเป็นผู้ ค้าทุกรายมายื่นตามกำหนดภาย ใน 1 วันทุกเจ้า ซึ่งก็ไม่จำเป็นต้องรออีกตั้งหลายวัน สิ่งเหล่านี้แหล่ะคือตัวอย่ างการปฏิรูป ที่จำเป็นต้องแก้กฏเกณฑ์ ไม่ใช่คงกฏเกณฑ์พันธนาการรุ งรังแล้วชอบมาเร่งให้จัดหาไ ด้ของเร็วๆ หรือดีๆ ฟังดูมันก็ตลกดี มันเหมือนคนเร่งไม่รู้อะไรเ ลย เพราะถ้ารู้จะไม่กล้าเร่ง ต้องไปเร่งให้แก้กฏเกณฑ์ต่า งๆ ลดระยะเวลาลงได้ทุกขั้นตอน ทำจริงจังไม่ถึงเดือนได้ของ
Maha Arai อย่าเที่ยวมากลัวนั่นนี่แล้วร่างกฏระเบียบถ่วงความเจริ ญ ซึ่งก็พิสูจน์แล้วว่าถ้าจะท ำให้ไม่โปร่งใสก็ทำกันได้อย ู่ดี ไม่เกี่ยวกับช้าหรือเร็ว และยุคใหม่คนจะขายของต้องวิ่ ่งเข้าหาคนซื้อไม่ใช่ให้คนซ ื้อวิ่งเข้าหา การประกาศให้มาจดทะเบียนผู้ ประกอบการ เพื่อลดขั้นตอนการรอเวลาและ ถ้าเป็นไปได้ข้อกำหนดต่างๆ ของที่เคยใช้ก็ประกาศล่วงหน ้าเปิดเผย เรียกว่า วันเดียวก็เอามายื่นได้ทันไ ม่ใช่ข้ออ้างทำไม่ทัน ยกเว้น ของใหม่จริงๆ อาจยืดเวลาให้ตามความเหมาะส มไม่ใช่ 15 วัน ปล่อยเวลาทิ้งไปเฉยๆ ยังมีขั้นตอนอื่นอีกที่ลดลง ได้แค่การแก้ไขกฏเกณฑ์ง่ายๆ แค่เนี้ยะทำกันไม่ได้เพราะไ ม่กล้าแก้ไขไม่อยากยุ่งกลัว นั่นนี่ แต่เน้นมาเร่งรัดให้มันเร็ว ขึ้น ง่ายดีแต่ทำให้ไม่ได้ มีประโยชน์อะไร
Maha Arai ที่บ่นมาทั้งหมดข้างต้นคือตัวอย่างการคิดที่จะปฏิรูปอง ค์กรของจริง ไม่ใช่แค่ลูบหน้าปะจมูก กันไปวันๆ ด้วยการจ้ำจี้จ้ำไชเรื่องไร ้สาระ อีกเรื่องหนึ่ง การจะแข่งขัน กับการรบแบบทหาร กระบวนการจัดทัพมันต่างกันไ ม่ควรไปเลียนแบบ
Maha Arai กระบวนการทางทหารเพื่อไปรบ อาจจำเป็นต้องมีสายงานบังคับบัญชาเคร่งครัดเพื่อการรบส ั่งแล้วจะได้ทำเป็นไปแนวเดี ยวกัน จึงมีการฝึกแบบเน้นไม่ใช่สม องเน้นทำตามที่สั่งสั่งซ้าย หันก็หันตามไม่ต้องมาถามว่า ให้หันไปทำไม อะไรแบบนั้น เรียกว่าระดับล่างไม่ต้องใช ้สมองเน้นใช้กำลังทำตามที่ส ั่งอย่างเดียว ไม่จำเป็นต้องมีจินตนาการอะ ไร
Maha Arai ในขณะที่กระบวนการทำธุรกิจโดยเฉพาะเกี่ยวกับเทคโนโลยี่ จินตนาการ นวัตกรรมใหม่ๆ ไอเดียแปลกๆ เป็นสิ่งที่ต้องการมากที่สุ ด แต่การทำบรรยากาศให้เป็นเหม ือนพวกหุ่นยนต์เหมือนพลทหาร เดาได้เลยว่าสมองจะเริ่มกลว ง รอแต่รับคำสั่งไม่กล้าเสนอแ นะนำสิ่งใหม่ๆ นวัตกรรมใหม่ๆ แนวทางใหม่ๆ เน้นทำแบบเก่าๆ ไปวันๆ เพราะเคยชินและไม่มีเรื่อง เพราะทำของใหม่มีเรื่องที่จ ะต้องไปฟาดฟันต่อสู้มีปัญหา ในการทำงานเปล่าๆ จะเห็นได้ว่าถ้าคุณทำให้พนั กงงานเหมือนกองทัพ เท่ากับคุณจะต้องเก่งจริงไม ่หวังพึ่งไอเดีย หรือความคิดสร้างสรรใดๆ จากพนักงานอีก เพราะรูปแบบกองทัพคือการทำใ ห้คนเป็นหุ่นยนต์ดีๆ นี่เอง และก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วใง หลายปีมานี้ว่า คนในกองทัพ จะเรียนหลักสูตรสุดยอดการรบ ยังไง สู้ชาวบ้านสุมหัวกันคิด สุมหัวกันท ำไม่ได้ แพ้กระเจิงแม้ดูเหมือนชนะศึ กแต่กำลังแพ้สงครามอยู่
Maha Arai ท้องเริ่มประท้วงเรียกร้องจะกินข้าวกันแล้ว แถมอีกนิดเพื่อให้จบแบบสมบู รณ์ คือ ถ้างานไหนต้องออกแรงถึงจะสำ เร็จเช่นย้ายก้อนหินใหญ่ๆ การห้ามไม่ให้ใช้แรงใช้แนวท างเรียกร้องให้มันย้ายหรือป ระท้วงหรืออะไรก็แล้วแต่ห้า มใช้แรงแล้วมันจะสำเร็จเข้า ไปได้ยังไง มันเหมือนได้ทำมากกว่าสำเร็ จหรือเปล่าไม่สนใจอะไรแบบนั้นแหล่ะ
Maha Arai แถมอีกนิด การจะต่อสู้กับคู่แข่งได้หรือไม่สิ่งสำคัญที่สุดอย่างแ รกเลยคือการจัดหาสิ่งของมาใ ช้มาขายต่อดีหรือไม่ ถ้าดีก็ มีชัยไปกว่าครึ่ง ถ้าไม่ดีก็อาจทำให้แพ้ศึกทุ กสมรภูมิได้ เปรียบเหมือนการจัดหาเสบียง ให้ทหารกินถ้าไม่ดีท้องเสีย ก็ทำให้เสียกระบวน หรือจัดหาอาวุธให้ทหารไปใช้ รบ ถ้าห่วยแตก แย่กว่าฝ่ายตรงข้าม ก็แพ้ไปครึ่งหนึ่งแล้ว ในกรณีธรุกิจก็เหมือนกัน ถ้าซื้อของมาขายต่อห่วยกว่า คู่แข่งจะขายต่อได้ไหม ถ้าจ้างวางระบบเครือข่ายห่ว ยกว่าคู่แข่งจะแข่งขันสู้เข าได้ยังไง หรือระบบบิลไม่สาม ารถปรับเปลี่ยนยืดหยุ่นต ามโปรโมชั่นได้ จะแข่งขันอะไรกั บใครได้ ต่อให้มีทีมการตลาดสุดยอดระ ดับโลกก็ช่วยไม่ได้ถ้าสินค้ าห่วยไม่ได้เรื่อง เพราะลูกค้าลองครั้งเดียวเข ็ดบอกปากต่อปากก็เจ๊งแล้วแบ บนี้ จะเห็นได้ว่าการจัดหาคือหัว ใจต่อความอยู่รอดขององค์กรเ ลยทีเดียว เพราะถ้าสินค้าที่หามาดีมีค ุณภาพ การตลาดไม่มีหรืออ่อนคนก็ยั งแย่งกันซื้อได้ เพราะปากต่อปากเทคโนโลยี่ทุ กวันนี้ ออนไลน์ถึงกันหมด ลุกค้าทุกคือทีมการตลาดดีๆ นี่เอง เพราะจะโพสชมหรือตำหนิติชมใ ห้คนรับรู้ได้เป็นหมื่นเป็น แสนต่อๆ ไปไม่สิ้นสุด
http://www.facebook.com/maha.arai
---------------------------------------------------
FfF