<<< ค่าเงินบาทที่แข็งไม่ใช่กระทบเฉ พาะผู้ส่งออกเท่านั้น ผู้นำเข้าสินค้าบางอย่างก็ได้รั บผลกระทบด้วยน่ะเราว่า >>>
- Tula Niraname, Wake Up Guys, Tom Somchai รักพ่อที่นามสกุลเดียวกัน และ คนอื่นอีก 2 คน ถูกใจสิ่งนี้
- Maha Arai จากตำราที่ท่องจำกันมาว่า ถ้าค่าเงินอ่อน ผู้ส่งออกได้ประโยชน์ผู้นำเข้าขาดทุน ถ้าค่าเงินแข็งผู้ส่งออกขาดทุนหรือเสี่ยงเจ๊งผู้นำเข้าได้ประโยชน์ เราว่า ชีวิตจริงๆ มันไม่ได้เป็นไปตามสูตรที่ว่าเสียทีเดียว
- Maha Arai กรณีค่าเงินแข็งทำให้ผู้ส่งออกเดือดร้อนอันนี้ก็คงเข้าใจกันดีคือ สมมุติขายของที่ราคา 30 บาทต่อดออลล่าห์แล้วพอวันส่งมอบอาจอีกหลายเดือนนับจากวันรับออเดอร์มา สมมุติแข็งไปที่ 29 บาทต่อดออลาห์ ถ้าขายของชิ้นที่ว่า 1 ล้านชิ้น ในราคา 1 ดอลลาห์ ก็จะขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนทันทีประมาณ 1 ล้านบาท
- Maha Arai คราวนี้มาดูกรณีผู้นำเข้าสินค้าบางชนิดเดือดร้อนจากค่าเงินแข็งบ้างว่้าจะเกิด ขึ้นได้อย่างไร สมมุติว่าต้นทุนที่สั่งมาครั้งแรก ราคาชิ้นละ 1 ดอลลาห์จ่ายเป็นเงินบาทประมาณ 30 บาท แล้วพอแข็งค่าไป 1 บาทอีกหลายเดือนต่อมา ก็สั่งของได้ราคาถูกลง นำมาถั่วเฉลี่ย ((30 x จำนวนที่สั่งตอนนั้น) + (29 x จำนวนที่สั่งตอนนี้)) หาร 2 ก็จะได้ราคาเฉลี่ยต่อชิ้นที่ถูกลงมาหน่อยถ้าสั่งปริมาณเท่ากันต้นทุนน่าจะ อยู่ที่ 29.5 บาท ต่อชิ้น
- Maha Arai ถามว่าถ้าคู่แข่งสั่งมาในราคาถูกกว่าคือสั่งช่วงค่าเงินแข็งก็จะได้เปรียบใช่ไหมเช่นสั่งมาที่ 29 บาทต่อดอลลาห์ก็ไม่ต้องเฉลี่ย แต่ถ้าสั่งอีกแล้วแข็งอีกก็อาจต้องเฉลี่ย เรียกว่ายิ่งเฉลี่ยต้นทุนเหมือนถูกลงแล้วจะขายลูกค้าราคาเดิมได้ไหมไม่ได้ ถ้ามีคู่แข่งเขาก็ลดราคามาตีเช่นสั่งมา 29 บาท ขาย 29.50 บาท ยังกำไร 0.5 บาทต่อชิ้นในขณะที่เจ้าแรกต้นทุนเฉลี่ย 29.50 บาทจะขาย 29.50 บาทก็ปิดกิจการได้เลยคือเตรียมเจ๊งได้
- Maha Arai ดังนั้นก็จะมีปรากฏการณ์ลังเลที่จะสั่งมาขายเพราะสั่งมากมีโอกาสขาดทุนหรือสู้พวกสั่งมาทีหลังต้นทุนถูกกว่าไม่ได้ก็เจ๊งอย่างที่ยกตัวอย่างให้เห็นจะเห็นว่าผู้นำเข้าก็เดือดร้อนเหมือนกันน่ะกรณีนี้
- Maha Arai นี่เป็นการพยายามอธิบายนอกตำราแบบอย่าไปยึดติดให้คิดถึงความเป็นจริงจะแก้ปัญหาได้มากกว่าท่องจำไม่อิงความเป็นจริงนึกว่ามีแต่ผู้ส่งออกที่เดือดร้อนกรณีค่าเงินแข็งมีผู้นำเข้ามีเดือดร้อนด้วยแต่อาจไม่มากเท่าผู้ส่งออก แต่ก็อาจเริ่มเห็นสินค้านำเข้าปิดร้านกันไปหลายร้านแล้วช่วงนี้ เดินๆ สำรวจดูก็จะเห็นสภาพเอง ถ้าไปเจอแบบไม่มีผักชีโรยหน้า
- Maha Arai แถมอีกนิดผู้นำเข้าหรือร้านขายสินค้านำเข้าถ้าไม่สั่งเพิ่มเพื่อมาถั่วเฉลี่ย ร้านพวกนี้จะมีสินค้าที่ต้นทุนแพงกว่าร้านที่เพิ่งสั่งของชนิดเดียวกันมาขาย นั่นหมายถึงว่ายิ่งกว่าเจ๊ง จากตัวอย่างที่แสดงขนาดถั่วเฉลี่ยยังสู้ไม่ได้ แล้วไม่ถั่วราคายิ่งต่างกันมากจาก 0.5 บาทเป็น 1 บาทก็แย่หนักแต่รู้สึกว่าจะลดมาหลายบาทแล้วถ้านับตั้งแต่ปีที่แล้วที่ อยู่ 32-33 บาทต่อดอลลาห์
- Korn Laosri สงสัย เหมือนกันมันเกิดจากอะไรทำไมค่าเงินชาทถึงได้แข็งขนาดนี้ อย่าว่าแต่คนทำธุระกิจเลยเรารับเงินเดือนเป้นดอลล่าร์ยังเดือดร้อนเคยได้ 30กว่าๆมาได้แค่29 นี่มันหายไปเยอะเลยนะ
http://www.facebook.com/maha.arai
----------------------------------------------------------
FfF