คำต่อคำ “สุริยะ” ยันซื้อ “ซีทีเอ็กซ์” ไร้โกงหมดจด
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 27 มิถุนายน 2548 21:18 น.
รายละเอียดคำต่อ “สุริยะ” ชี้แจงกรณีการจัดซื้อเครื่องซีทีเอ็กซ์ ยืนยันไม่มีการทุจริต พร้อมโชว์ผลสอบจาก ก.ยุติธรรมสหรัฐฯ การันตี “จีอีฯ” ไร้โกง เย้ยฝ่ายค้านงัดข้อมูลชิ้นโบแดง-แค่เอกสารธรรมดา โบ้ยการงดใช้วิธีการจัดซื้อจัดจ้างมีขึ้นในสมัยพรรคประชาธิปัตย์ เป็นรัฐบาล
สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม
"กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้ทรงเกียรติ กระผมนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะรัฐมนตรีที่ถูกสมาชิกพรรคฝ่ายค้านยื่นญัตติเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจด้วยข้อกล่าวหา บริหารราชการแผ่นดินจนเกิดการผิดพลาดร้ายแรง เป็นเหตุให้เกิดความเสื่อมเสียชื่อเสียง เกียรติภูมิของประเทศชาติ ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยในสายตาชาวโลก และกระทบต่อความเชื่อมั่นในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะโครงการสนามบินสุวรรณภูมิ
ท่านประธานที่เคารพ กราบเรียนตามตรงว่า การสร้างสนามบินสุวรรณภูมิให้ดีที่สุด ราคาถูกที่สุดและให้ทันสมัยที่สุดคือเป้าหมายหนึ่ง ในชีวิตการทำงานของผมที่ตั้งใจจะฝากไว้เป็นผลงานในแผ่นดินนี้ เป็นงานที่ผมตั้งใจอย่างยิ่งที่ผมจะตอบแทนแผ่นดินเกิดของผม ผมเชื่อว่าถ้ามีโอกาสฝ่ายค้านก็ตั้งใจอย่างเดียวกัน เสียดายที่เสียโอกาสเท่านั้น โครงการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิกำเนิดขึ้นเมื่อ 45 ปีที่แล้ว เป็นวิสัยทัศน์ที่ยอดเยี่ยมของผู้บริหารประเทศ ในขณะนั้น แต่ด้วยข้อจำกัดและเงื่อนไขบางประการทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม การเมืองและปัจจัยนอกประเทศ โดยเฉพาะเพื่อนบ้านของเราที่กลัวว่าประเทศไทยของเรานั้นจะแย่งชิงความเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาคเป็นเหตุให้การก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิไม่สามารถเดินหน้าได้ซะ 41 ปี 19 รัฐบาล 14 นายกรัฐมนตรีผ่านไป สนามบินสุวรรณภูมิไม่มีความคืบหน้าจนกระทั่งปลายรัฐบาลนายกฯ ชวน หลีกภัย จึงได้มีการประกวดราคาก่อสร้างในราคาที่ 54,000 ล้านบาท แต่ยังไม่ทันที่จะได้ลงนามก่อสร้างก็ปรากฏว่าสิ้นสุดวาระของรัฐบาล
เมื่อมีการเลือกตั้งใหม่ประชาชนลงคะแนนให้พรรคไทยรักไทยเข้ามาเป็นรัฐบาล แทนพรรคประชาธิปัตย์ เราก็ดำเนินโครงการสนามบินสุวรรณภูมิต่อทันที แต่เราเห็นว่า ราคาที่ได้ในการประกวดราคาครั้งก่อนนั้นน่าจะสูงเกินความจริง จึงจัดให้มีการประกวดราคาใหม่ ตามแนวทางการศึกษาที่รัฐบาลก่อนศึกษาไว้และปรับปรุงงานบางส่วนให้เหมาะสมขึ้น ปรากฏว่าราคาลดลงเหลือเพียง 36,000 ล้านบาท แปลว่าถูกลง 18,000 ล้านบาท ถ้ารัฐบาลของเราจะต้องการมาทำมาหากิน อย่างที่ท่านกล่าวหาเราคงไม่ต้องไปทำกระบวนการไปฮั้วกันทั่วโลกหรอกครับ จากนั้นการก่อสร้างก็เดินหน้ามาโดยตลอดจนถึงวันนี้เพื่อให้แล้วเสร็จตามกำหนด ทำไมผมถึงต้องเร่งรัดการก่อสร้างสนามบินให้เสร็จโดยเร็ว เพราะเราเสียโอกาสที่เราจะเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาคมาแล้วกว่า 40 ปี คิดเป็นความสูญเสียทางเศรษฐกิจมูลค่ามหาศาล มีการคำนวณกันว่า 1 ปีที่ล่าช้า ความสูญเสียทางเศรษฐกิจตกปีละมากกว่า 200,000 ล้านบาท ลองคำนวณดูสิว่าเราเสียโอกาสไปแล้วเท่าไร โอกาสที่เราเสียไปอยู่กับใคร ก็ประเทศเพื่อนบ้านเราที่ได้รับโอกาสนี้ไปแทน เพราะคนในชาติของเขามีความสามัคคีกัน มองเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม มากกว่าประโยชน์ส่วนตัว
ท่านประธานที่เคารพครับ วันนี้การเดินทางการคมนาคมขนส่งทางอากาศเป็นการเดิน ทางที่มีความสำคัญที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศไทยที่พึ่งพา รายได้จากการส่งออก และการท่องเที่ยวเป็นหลัก เพราะสนามบินหรือท่าอากาศยาน คือประตูเข้าบ้านสำหรับนักท่องเที่ยว และประตูออกไปทำการค้าของผู้ประกอบการส่งออก และเป็นประตูส่งสินค้าออกด้วยทั้งสินค้าเกษตร และสินค้าอุตสาหกรรม
สนามบินหนองงูเห่าอยู่ระหว่างการก่อสร้าง
ท่านประธานครับ ในแต่ละปีเรามีรายได้จากการท่องเที่ยวหลายแสนล้านบาท และการท่องเที่ยวยังเป็นช่องทางรายได้เพียงทางเดียว ที่มีแนวโน้มจะทำเงินเข้าประเทศเพิ่มขึ้นในขณะที่ต้นทุนการลงทุนนั้น ทางภาคเกษตรกรรม และอุตสาหกรรมสูงขึ้นตามราคาน้ำมัน จนทำให้ความสามารถในการแข่งขันของภาคเกษตรกรรม และภาคอุตสาหกรรมลดลงอย่างมาก ประกอบกับกฎเกณฑ์การค้าเสรีของโลก ทำให้สินค้าเกษตร และสินค้าอุตสาหกรรมของเรามีคู่แข่งเกิดขึ้นมากมาย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพราะฉะนั้นแหล่งรายได้ที่มีความมั่นคงที่สุด มีเสถียรภาพสม่ำเสมอที่สุด และมีโอกาสเติบโตที่สุดก็คือ รายได้จากการท่องเที่ยว และการบริการ
ท่านประธานครับ การจะบรรลุเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยว และการบริการของประเทศนั้น สิ่งหนึ่งที่จะต้องผลักดันให้เกิดขึ้นก็คือ การเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค การทำให้นานาชาติมีความเชื่อมั่นในการคมนาคมและขนส่งของเราเสียก่อน โดยเฉพาะท่าอากาศยาน หรือสนามบินต้องมีความสมบูรณ์ที่สุด โดยเฉพาะในเรื่องของความปลอดภัย
ท่านประธานจำได้ไหมครับประเทศของเรา 3 จังหวัดภาคใต้มีปัญหามาตลอด 2-3 ปี มีระเบิดตูมอยู่เกือบวันเว้นวัน แต่ปรากฏว่า ประชาชนยังสามารถดำเนินการใน 3 จังหวัดนั้นยังประกอบการค้าไปได้ แต่เมื่อต้นเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา จำได้ไหมครับ ระเบิดที่สนามบินหาดใหญ่เท่านั้นแหละครับประชาชนแม้กระทั่งที่อยู่ในหาดใหญ่เอง หรือนักท่องเที่ยววันนั้นขอกลับออกมาจากหาดใหญ่ ผมต้องให้การบินไทยส่งเครื่องบินไปรับ ท่านเห็นไหมครับ ความสำคัญของระบบความปลอดภัยที่ต้องการความปลอดภัยสูงสุด โดยเฉพาะเครื่องบินลำหนึ่งๆ หลายพันล้าน โดยเฉพาะรุ่นใหม่ที่จะมาถึง เพราะฉะนั้น ถ้าสนามบินของเราไม่ปลอดภัยไม่มาหรอกครับ เพราะฉะนั้นทำอย่างไรในเมื่อระบบความปลอดภัยที่สนามบินสุวรรณภูมิที่ออกแบบมาในลักษณะเดิม ยังเป็นระบบล้าหลังแบบที่ 20-30 ปีก่อนใช้ คือระบบสแตนด์อะโลน และสนามบินที่เราสร้างใหม่ท่านไม่คิดหรอครับว่าเราควรจะลงทุน ระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุด ทำไมครับทำไมเราถึงต้องไปตามหลังประเทศอื่นอย่างเช่น สิงคโปร์ อย่างที่ท่านพรรคฝ่ายค้านพยายามจะพูดว่าสิงคโปร์ลงทุนเท่านั้นเท่านี้ ขอให้เราทันสมัยกว่าเขาบ้างไม่ได้หรือครับ อันนี้เป็นยุทธศาสตร์ เป็นจุดขายที่สำคัญที่สุดของเราวันนี้ผมไม่เห็นท่านสมาชิกฝ่ายค้านที่จะอภิปรายว่า ซีทีเอ็กซ์มีคุณสมบัติด้อยกว่าแอล 3 หรืออย่างไร สิ่งที่ท่านสมาชิกท่านอลงกรณ์พูด เดี๋ยวรอบหลังผมจะชี้ให้เห็นครับการผลักดันเร่งรัดให้สนามบินสุวรรณภูมิเกิดขึ้นได้เร็วที่สุดคือเป้าหมายของผม เพราะสนามบินสุวรรณภูมิคือยุทธศาสตร์ของชาติ คือปัจจัยหลักที่จะมาเสริมความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และจะเป็นโอกาสที่ทำให้เกิดธุรกิจใหม่ๆ ขึ้นในประเทศไทยอีกมากมาย โอกาสทางเศรษฐกิจที่จะกลับมาเป็นของประเทศไทยอีกครั้ง
ท่านประธานที่เคารพครับ พรรคประชาธิปัตย์เคยยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจผม และกล่าวหาว่าผมมีพฤติกรรมทุจริต ว่าด้วยเรื่องของการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิมาแล้วและเคยเข้าชื่อให้ ป.ป.ช.ยื่นถอดถอนผมแล้ว ทุกกระบวนการที่พรรคประชาธิปัตย์ดำเนินการ ทั้งในแนวทางการเมืองในสภาผู้แทนราษฎร และแนวทาง ป.ป.ช. ซึ่งเป็นองค์กรอิสระ ผมได้ผ่านการตรวจสอบและได้รับการรับรองแล้วว่า ไม่มีพฤติกรรมทุจริตตามที่ท่านกล่าวหา ป.ป.ช.ลงมติว่าผมไม่ผิด 9:0 สมัยท่านวันนอร์ ผมจำไม่ได้ แต่มติประมาณ 6:3 ท่านบอกว่าเป็นมติเทาๆ แต่ผม 9:0 ครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งหนึ่ง ที่ท่านตั้งใจจะกล่าวหาว่าผมทุจริต ไม่ว่าใครมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มาทำงานโครงการสนามบินสุวรรณภูมิ และมีพรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้าน ก็จะโดนที่ผมโดนอย่างนี้ เว้นแต่พรรคประชาธิปัตย์จะได้ไปทำโครงการนี้ ท่านครับ ผมไม่ได้มีเจตนาที่จะมาตรวจสอบเรื่องที่ทำไว้ ผมตั้งใจที่จะทำงานให้เสร็จโดยเร็วที่สุด และเมื่อเจอตรงไหนไม่ถูกต้องก็ต้องปรับแก้กันไป เพื่อให้ประเทศได้ประโยชน์สูงสุด คุ้มค่าที่สุด
ท่านประธานที่เคารพครับ ญัตติของท่านกล่าวหาว่าผมเป็นเหตุเสื่อมเสียชื่อเสียง เกียรติภูมิของประเทศชาติ กระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศในสายตาชาวโลก และกระทบต่อความเชื่อมั่นในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศโดยส่วนรวม ถ้าจะใช้ข้อกล่าวหานี้มาเป็นกรณีนี้ มาเป็นตัวชี้วัดว่ามีความเสื่อมเสียหรือมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศก็ขึ้นอยู่กับว่าทางพรรคประชาธิปัตย์จะวาดภาพให้ประเทศเสียหายแค่ไหนมากกว่า เพราะภาพที่เกิดขึ้นเป็นภาพตามจินตนาการของท่าน ไม่ใช่ภาพที่ผมทำให้เกิดขึ้น
ท่านประธานที่เคารพครับ ตั้งแต่วันที่มีข่าวเรื่องซีทีเอ็กซ์ในหน้าหนังสือพิมพ์ จนถึงวันนี้ ผมก็เห็นการไปมาหาสู่ การทำธุรกิจ การลงทุน การท่องเที่ยว การพัฒนาเศรษฐกิจของไทย ก็ยังดำเนินการเป็นไปตามปกติ ถ้าไม่นับเรื่องของน้ำมันแพงแล้วเศรษฐกิจทุกวันนี้กลับจะดีขึ้นกว่าด้วยซ้ำ วันๆ มีแต่คนเข้ามาขอร่วมลงทุน หรือลงทุนในไทยยิ่งมีข่าวเรื่องเมกะโปรเจกต์ 1.7 ล้านล้าน ออกไปเท่านั้น หัวบันไดไม่แห้ง อยากเข้ามาทำรถไฟใต้ดิน อยากเข้ามาทำถนนลอยฟ้า อยากเข้ามาทำแผนที่ทางอากาศ อยากเข้ามาตั้งโรงงานแปรรูปสินค้าเกษตร ผมยังไม่เห็นการพัฒนาเศรษฐกิจชะงักเลยครับ แถมแม้กระทั่งคนที่จะให้กู้วิ่งมาหา ว่าต้องการเงินไหม ผมจำได้ตอนที่ท่านนายกรัฐมนตรีนายกฯ ทักษิณ ของเราเข้ามาบริหารประเทศในครั้งแรก จะไปเยี่ยมต่างประเทศ เขายังไม่อยากให้เยี่ยมเลยเพราะกลัวไปกู้เงิน เป็นผลที่ทางรัฐบาลท่านทำไว้นะครับ ผมคิดว่าถ้าเศรษฐกิจจะชะงักก็เพราะบางคนที่เที่ยวไปเปิดประเด็นตอกย้ำ ไปเที่ยวฟ้อง ไปเที่ยวรายงานเอ็นจีโอ เที่ยวบอกต่างชาติว่าไทยมีการละเมิดสิทธิมนุษยชน ไทยมีการทำวิสามัญฆาตกรรม ไทยปราบยาบ้า ไทยมีเรื่องตากใบ กรือเซะ อย่าเข้ามาลงทุนในไทย นี่แหละที่กระทบการพัฒนาประเทศท่านประธาน ที่ท่านกล่าวหาว่ากรณีนี้ทำให้เกิดความเสื่อมเสียจนไม่มีใครอยากเข้ามาทำการค้าขายกับไทยอีก ไม่จริง ถ้าจริงแล้วกรณีที่เจ้าหน้าที่พาณิชย์ ของประเทศหนึ่งไปพบท่านเร็วๆ นี้ เพื่อขอให้ท่านช่วยผลักดันให้ บทม.ซื้ออุปกรณ์อย่างหนึ่งจากผู้ผลิตประเทศเขา ถ้าเขาไม่อยากค้าขายกับ บทม. ถ้าเขาเห็นภาพลักษณ์ของเราไม่ดี แล้วเขาจะหาท่านทำไม และผมก็เพิ่งรู้ว่าหัวหน้าพรรคการเมือง มีหน้าที่รับเรื่องเจรจาการค้าต่างประเทศด้วย แค่นี้ก็ยืนยันได้แล้วว่าที่ท่านพูดไม่จริง ท่านประธาน เรื่องซีทีเอ็กซ์ เป็นข่าวตั้งแต่ปลายปี 2547 เมื่อบริษัท จีอี ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ทางธุรกิจของสหรัฐฯ จะเข้ารวบรวมกิจการกับบริษัท อินวิชั่น เขาก็ต้องตรวจสอบบัญชีและตรวจสอบเอกสารต่างๆ เป็นธรรมดา ตรวจไปมาก็พบว่าเจ้าหน้าที่คนหนึ่งของอินวิชั่น ไปแจ้งบริษัทว่าจะขอเงินส่วนลดราคาจำนวนหนึ่ง เอาไปให้เจ้าหน้าที่ประเทศ ที่จะซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิดซีทีเอ็กซ์รวม 3 ประเทศคือ จีน ฟิลิปปินส์ และไทยพอทางการสหรัฐฯ เข้าตรวจซ้ำก็พบอย่างเดียวกันโดยไม่หลักฐานพยานอื่นใดเพิ่มเติม บริษัทอินวิชั่นเกรงว่าขืนชักช้าโต้แย้งคัดค้านไป การควบรวมจะยาวออกไป หุ้นจะตกเรื่องเล็กจะกลายเป็นเรื่องใหญ่
ท่านประธานรู้ไหม ก่อนหน้าที่จะมีการควบรวมกิจการเหตุการณ์ 911 ก่อนเหตุการณ์ตึกเวิลด์เทรดถล่ม ราคาหุ้นของอินวิชั่นถ้าคิดเป็นเงินไทย 1,000 กว่าล้านบาท เขาขายได้เกือบ 40,000 ล้านบาท ประเด็นนี้สำคัญ เพราะผู้เกี่ยวข้องในการควบรวมกิจการต้องพิสูจน์ให้คนเห็นว่าบริษัท อินวิชั่น โปร่งใส ไม่มีคดีไม่อะไรที่ไม่โปร่งใส และเขารู้ว่าใช้เวลานานไม่ได้ มั่วแต่โต้จะกระทบราคาหุ้นที่เป็นเป้าหมาย กฎหมายอเมริกาถือว่าเรื่องอย่างนี้ แค่รู้ว่ามีคนมาบอก แค่รู้แต่คนรู้ทำเป็นเฉยไม่ว่าก็ผิดแล้ว แต่ผิดน้อยถ้ายอมรับผิดเสียค่าปรับ เรื่องก็จบ อินวิชั่นจึงยอมเสียค่าปรับ ก.ยุติธรรม และกลต.สหรัฐฯจึงปรับอินวิชั่น ไม่ใช่ปรับข้อหาจ่ายสินบน ปรับตามกฎหมายซึ่งใช้คำว่า โนอิ่ง คำนี้มีนิยามว่า อินคูสคอนเชียสดิสลิกากส์ แอนด์ ดีลิเบอเลส อิคนอเรน แปลเป็นไทยคือ รู้อยู่แก่ใจ หรือไม่สนใจเมื่อมีคนมาบอกอย่างนั้น เรื่องนี้สหรัฐฯ ตั้งข้อหาอินวิชั่นว่า โนอิ่ง ไม่ใช่ เพลย์อิ่ง พออินวิชั่นจ่ายค่าปรับแล้วเรื่องสหรัฐฯก็จบ ก.ยุติธรรม และก.ล.ต.สหรัฐฯไม่เคยตรวจพบว่าเอาเข้าจริงแล้วอินวิชั่นได้ Paying คือจ่ายเงินให้กับคนกลางที่เขามาบอก และคนกลางได้จ่ายให้แก่เจ้าหน้าที่ในประเทศเหล่านั้น เจ้าหน้าที่ในประเทศเหล่านั้นคนใด และใครได้รับผลประโยชน์ไปจริงหรือไม่ พอจบเรื่องของเขา จีอี อินวิชั่นก็มาแจ้งกับทางเราตั้งแต่ต้นปี เราก็ตรวจสอบกันในทางลับว่าใครไปแอบอ้าง ใครไปสมคบกับเจ้าหน้าที่อินวิชั่นหรือเปล่า แต่ก็ไม่พบ ตอนนั้นผมได้มีการดูส่วนต่างราคาที่หัวหน้าฯ อภิสิทธิ์พูด แต่ตอนที่ไปขอดูส่วนต่างราคานั้น ทางแพทริออตไม่ได้เป็นคู่สัญญากับ บทม. เราไม่มีสิทธิ์ที่จะไปดู แต่ผมก็พยายามเพื่อจะได้มาถึงเอกสาร ที่ได้เห็นว่า 35.8 ล้านที่ท่านอภิสิทธิ์ได้พูดไปผมก็มาเมื่อได้เอกสารนั้นมาก็ลองคำนวณคร่าวๆ ยังไม่รู้เลยว่าราคานั้นจะไปบวกอะไรตรงไหน คือ 35.8 แล้วก็ไปคูณตัวเลขอัตราแลกเปลี่ยน แล้วก็ลองคำนวณราคาคร่าวๆ ว่าในการทำธุรกิจนั้นมันมีราคาที่แตกต่างหรือไม่ ได้ดำเนินการนะครับ ไม่ใช่ไม่ดำเนินการความเป็นไปได้ของการซื้อถูกมาขายแพงได้มีการดำเนินการในส่วนหนึ่งก็คือเรื่องของราคา เมื่อเห็นว่าราคาไม่ได้มีส่วนต่างที่มันผิดแปลก แล้วยังแปลกใจว่าทำไมมันต่ำอย่างนี้ด้วย ถ้าท่านเอา 35.8 ไปดูว่าทำไมถึงค้าขายได้ต่ำขนาดนี้ หลังจากที่พอมีเรื่อง ทางอินวิชั่นก็เข้ามา ในขณะเดียวกันผมก็ให้ที่ปรึกษาของผม คือ ดร.ธีระวัฒน์ ที่ท่านพยายามกล่าวหา ว่าเข้าไปประชุมใน กทภ.ได้อย่างไร อาจารย์ธีระวัฒน์ ที่ปรึกษาของผมท่านเป็นหนึ่ง ในคณะกรรมการเร่งรัด โครงการในสนามบินสุวรรณภูมิ เพราะฉะนั้นในทุกครั้งจะเข้าร่วมประชุมในฐานะคณะกรรมการเร่งรัด เพราะฉะนั้นการประชุม กทภ.นั้นไม่ได้แปลกเลย ทุกครั้งจะมีการเชิญคณะกรรมการ เร่งรัดที่ตั้งขึ้นมา มีการประชุมกันหลายๆ ครั้ง ส่วนเรื่องของการจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิดนั้น เป็นหนึ่งในหัวข้อประชุมเพียงไม่กี่เรื่องเท่านั้น ไม่กี่ครั้ง เมื่อมีเรื่องอย่างนี้ ทางบริษัทก็ทำหนังสือมา บอกว่าไม่มีเรื่องสินบน ทางอาจารย์ธีระวัฒน์ก็ไม่เชื่อ ก็ให้ลองไปถามทางสถานทูตสหรัฐฯ ที่ท่านกำลังถามว่าทำไมทูตพาณิชย์สหรัฐฯ เข้ามาเกี่ยวข้องอะไร เวลาบริษัทต่างประเทศ ท่านอย่าลืมนะครับ พออินวิชั่นกับจีอีควบรวมกัน จีอีนี่เป็นบริษัทระดับโลกนะ เขาสามารถไปหารัฐมนตรีคนไหนก็ได้ เขาก็ไปหาที่ทูตพาณิชย์ ที่ปรึกษาผมก็ได้ถามทางทูตพาณิชย์ว่า สรุปแล้วที่อินวิชั่นรายงานมาว่าไม่เจอเรื่องสินบนนั้นเชื่อได้หรือไม่ ทางทูตพาณิชย์เขาตรวจสอบแล้วว่าเชื่อได้ เดี๋ยวผมจะชี้แจงว่าเชื่อได้เพราะอะไรเมื่อผมรู้อย่างนั้น วันที่ผมถูกอภิปรายกระทู้สด ผมก็บอกว่าผมขอย้อนกลับไปเล่าที่ผมบอกว่าผมพูดไม่เก่ง พอมีหนังสือมายืนยันว่าทางจีอีออกหนังสือว่าไม่พบ ทางเราก็เจอทูตพาณิชย์สหรัฐฯ ก็เลยบอกว่าจะขอทำบันทึกประชุมได้ไหมครับระหว่างที่ปรึกษาผมกับท่านทูตพาณิชย์ ท่านทูตพาณิชย์บอกว่า เรื่องนี้ในโปรโตคอลขอไม่ทำ ให้ที่ปรึกษาผมเขียนหนังสือส่งไปให้ที่สถานทูตสหรัฐฯ ซึ่งเรื่องนี้ดำเนินการก่อนที่จะเป็นข่าวในหนังสือพิมพ์ ไปดูวันที่ได้ แล้วหลังจากนั้นถึงมาเป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ พอเป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ ผมก็ต้องมาตอบกระทู้สด ผมให้ที่ปรึกษาผมโทร.ไปปรึกษาท่านทูตว่าผม จะเอาจดหมายนั้นมาเปิดได้หรือไม่ ทางท่านทูตบอกว่ายินดีเพราะเป็นเรื่องจริง ผมจึงเอาเรื่องนั้นมาพูดในสภา แต่ในสภาเองบอกว่าเป็นจดหมายที่เราเขียนฝ่ายเดียว
ท่านประธานลองคิดดูนะครับว่า การที่ผมมาพูดในสภาอันศักดิ์สิทธิ์ของเราแล้วไปอ้างถึงจดหมายที่ว่าได้มีการติดต่อระหว่างท่านทูตสหรัฐฯ แล้วถ้าเกิดเนื้อความในจดหมายมีความบิดเบือน หรือท่านทูตออกมาปฏิเสธ ผมคิดว่าท่านนายกรัฐมนตรีคงไล่ผมออกวันนั้นล่ะครับ เพราะฉะนั้น ผมถึงว่าผมได้มีการตรวจสอบพอสมควร ไม่ใช่ผมนิ่งนอนความเป็นไปได้ของการซื้อถูกมาขายแพง โดยเฉพาะตรวจสอบไอทีโอซึ่งเป็นคู่สัญญากับเราก็ดี แพทริออตก็ดี เรื่องซีทีเอ็กซ์เพิ่งมาเกิดตอนถล่มตึกเวิลด์เทรดในอเมริกาและทางสหรัฐฯก็เข้มงวดตรวจกระเป๋าสายการบินที่เข้าออก
ท่านประธานครับ หลังจากนั้นข่าวก็มาครึกโครมในประเทศไทย ใส่สีใส่ไข่ ระบายสีจินตนาการกันเพลิน ทางมิสเตอร์ไมเคิล อาร์ แกตบราวน์ รองประธาน และหัวหน้าฝ่ายกฎหมายของจีอี ซึ่งเข้ามาพบเอกอัครราชทูตของไทยที่กรุงวอชิงตันเมื่อปลายเดือน พ.ค. และแสดงความเสียใจ เขาบอกว่าเรื่องนี้เป็น โคลิติไซน์ แปลเป็นไทย แปลว่ามีผู้ทำให้กลายเป็นเรื่องทางการเมือง เขายืนยันต่อหน้าเอกอัครราชทูตไทยในวอชิงตัน เมื่อเดือนที่แล้วว่ามีเจ้าหน้าที่ของเขาไปแนะนำอินวิชั่นจริงว่าให้จ่ายเงินในขณะที่อินวิชั่นไม่ได้ดำเนินการใดๆ ตามคำแนะนำ จึงถือว่าการจ่ายสินบนยังไม่เกิด และไม่ปรากฏข้อมูลว่ามีเจ้าหน้าที่ไทยผู้ใดได้รับสินบน ทางสหรัฐเองเขาก็ไม่เคยว่ามีการเรียก การให้ และมีการรับจากทางฝ่ายไทยแต่อย่างใด ผมอยากกราบเรียนท่านประธานว่า ขณะที่ฝ่ายค้านระบุในญัตติว่า การบริหารงานผิดพลาดจนเกิดการทุจริตขึ้น
ท่านประธานทราบมั๊ยครับว่าอินวิชั่นเขามาบอกว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับไทยเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ เขาไปอ้างเอง ทางจีอีซึ่งเป็นผู้ตรวจสอบพบเรื่องนี้ก็มาบอกว่า ไม่พบเจ้าหน้าที่ของไทยผู้ใดเข้าไปเกี่ยวข้อง ท่านประธานที่เคารพครับ ทางกระทรวงยุติธรรมซึ่งเป็นเจ้าของเรื่อง มีหนังสือตอบมาอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 8 มิ.ย. เป็นภาษาอังกฤษ ผมขออนุญาตอ่านเป็นภาษาไทย กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ไม่พบพยานหลักฐานใดที่แสดงว่า อินวิชั่น หรือตัวแทนได้จ่ายเงินใดๆ ให้กับเจ้าหน้าที่ของไทย หรือว่าหากมีการเสนอว่าจะจ่ายเงินก็ไม่พบว่าได้มีการสนองตอบรับข้อเสนอนั้น ถ้อยคำที่กระทรวงยุติธรรมใช้ก็ตรงไปตรงมาที่สุดแล้ว เขาไม่พบเขาก็บอกว่าไม่พบ เวลานี้ฝ่ายค้านพยายามคาดคั้นที่จะให้พบให้ได้ ส่วนที่ท่านหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์บอกว่า เราถามในคำถามที่กระทรวงยุติธรรมถาม ถามแต่ว่ามีออฟฟิเชียล ออฟ เดอะคิงดอม ออฟ ไทยแลนด์รับเงินหรือไม่ และบอกว่า ทำไมทางรัฐบาลไทยไม่ถามถึงลูกเมีย และคนนอก รวมทั้งพรรคการเมือง ผมต้องขอกล่าวหาท่านหัวหน้าพรรคอภิสิทธิ์ว่า ท่านกำลังจะใช้วัฒนธรรมของพรรคประชาธิปัตย์ คือพูดความจริงครึ่งเดียว เพราะเพียงหวังทำลายกันทางการเมือง อย่างนี้ที่ผมบอกว่าผมพูดไม่เก่ง ผมพูดไม่ทัน แต่ผมพูดความจริง คุณอภิสิทธิ์ก็นักเรียนนอก มีเอกสารอะกรีเมนต์อยู่ในมือ ทำไมไม่ดูเอกสารที่ ก.ยุติธรรมทำถึงอินวิชั่น หน้า 3 ข้อ 2 หมายถึงทุกคนรวมพรรค ผมไม่เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย แต่ท่านรองฯวิษณุ เชี่ยวชาญด้านนี้ คือถ้าผมตอบคนเดียวผมเสร็จไปแล้ว เพราะ ปชป.เก่งด้านการพูดครึ่งเดีย และวันนี้ผมต้องมาเจอคน มาอภิปรายผมถึง 8-9 คน และถ้าลำดับความไม่เก่งคนฟังจะสับสน ผมจะเสียหาย เหมือนกับ คกก.6 คนตั้งมาตรวจสอบว่าไม่พบ ก็รายงานว่าไม่พบ มีบางคนสงสัยว่าจู่ๆทำไม ก.ยุติธรรมสหรัฐฯ ออกมาที่อัยการสูงสุดไทยได้อย่างไร ในเมื่ออัยการสูงสุดบอกว่าไม่ได้ถามไป เรื่องนี้ผมไม่ทราบ เพราะผมไม่ได้ถาม ถ้าอยากทราบก็คงต้องถามรองวิษณุดู ขณะเดียวกันสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน สำนักเดียวกับที่คุณหญิงคนหนึ่งเคยทำงาน มีหนังสือราชการลงวันที่ 26 พ.ค.2548 มาเป็นทางการว่าไม่เคยพบและไม่เคยแม้แต่ได้รับเรื่องร้องเรียนดังกล่าว เป็นหนังสือทางการมาเลย
ท่านประธานฯ เอกสารที่คุณอภิสิทธิ์ อ้างถึงและดูเหมือนจะเป็นเอกสารชิ้นโบว์แดง หามาด้วยความยากลำบาก ทำให้สมาชิกในห้องสภาแห่งนี้ และประชาชนเหมือนเอกสารนี้จับให้มั่นคั้นให้ตาย ผมได้ยินทีแรกก็ตกใจนึกว่า ผลงานชิ้นเอกของฝ่ายค้านที่ทางเจ้าหน้าที่ผมไม่ได้รายงานให้ผมทราบ ที่แท้ก็เอกสารธรรมดา เขามีกันทั้งเมือง ผู้สื่อข่าวก็มีไม่ได้เป็นของใหม่เลย เป็นเรื่องที่ คกก.ตรวจสอบของรัฐบาลมีอยู่ในมือ และลงในเว็บไซต์สำนักนายกฯ เว็บไซต์ www.opm.go.th ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว เป็นเล่มที่อยู่ในปกเขียวเล่มที่ 2 เอกสารแนบ 2.1 รัฐบาลไม่ได้ปกปิดอะไรเลย นี่ก็อีกเหมือนกันไม่ได้อยู่ในคณะกรรมการสอบสวน และไม่ได้ลงในรายละเอียด ถ้าเกิดรองวิษณุไม่อยู่นี่เสร็จอีกลำบากเหมือนกันสู้กับ ปชป. ส่วนจะจับเอามาเอาเป็นเอาตายหรือไม่ ก็สุดแล้วแต่จะหาเรื่อง ปั้นน้ำเป็นตัว จะใส่สีตีไข่ขนาดไหน เอกสารนี้เป็นความตกลงยุติ คดีระหว่างกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ กับอินวิชั่น เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.2547 ซึ่งจำเป็นต้องลำดับความเป็นไปมา ของเรื่องให้ปรากฏว่า เขาได้ตรวจสอบพบอะไรมาบ้าง และการตรวจสอบพบที่ว่าก็ไม่ได้มาจากการสืบพยานหรือหลักฐานอื่นใดทั้งสิ้นนอกจากจะมีเอกสารอีเมล์ชิ้นเดียว ที่ผู้บริหารอินวิชั่น ซึ่งเอกสารแนบ หรือ Appendix A บอกว่า Manager A made use of the mails and othermeans or instrumentalities of interstates commerce email or on telephone ประโยคสำคัญที่ท่านหัวหน้าพรรคจงใจข้ามไป ไม่กล่าวถึง ความจริงครึ่งเดียวอีกแล้วครับ นี่ 1 ส่วน 4 ด้วย คือเอกสารเดียวกัน หน้า 2 ย่อหน้าสุดท้ายที่บอกว่า Executive A conducted no additional inquiry ไม่มีการสืบสวนต่อไปเพิ่มเติม and there by deliberate with avoided learning the truth of whether agent A intended to use the difference between the price paid to Invision by subcontractor A for the company A แปลเป็นไทยว่า ผู้บริหาร A เมื่อทราบเรื่องนี้แล้วไม่ได้ทำการไต่สวนสอบพยานใดๆ เพิ่มเติมเลย และหลังจากนั้นก็จงใจหลีกเลี่ยงการตรวจสอบให้ความจริง ว่าตัวแทน A ตั้งใจจะใช้ส่วนต่างระหว่างราคาที่ผู้รับเหมาช่วง A จ่ายให้อินวิชั่น ไปให้แก่บริษัท A จริงหรือไม่ ตรงนี้ผมขอขยายความ เห็นไหมครับว่าส่วนต่างที่กำลังถูกกล่าวหาอยู่นี้ คือส่วนต่างระหว่างอินวิชั่น กับแพทริออต เขาไม่เคยมากล่าวหาว่าไปเกี่ยวกับไอทีโอ หรือเกี่ยวกับ บทม. ท่านไปอ่านดูให้ดีครับ เพราะตอนที่ผมทราบเรื่องผมให้ที่ปรึกษาของผม ไปวิเคราะห์เรื่องส่วนต่าง วิเคราะห์ไปวิเคราะห์มา ตามที่ผมได้เรียนแล้วว่า ยังไงก็ไม่เห็นว่าราคามันจะกำไรได้อย่างไร ราคามันต่ำเหลือเกิน ทำไมมันขายได้ ตอนนั้นผมไปเอา 35.8 ไปรวม 2 รายการขึ้นไป ที่ตอนมาวิเคราะห์ว่าเป็นตัวเครื่อง วิเคราะห์ไปทำไมราคามันถึงต่ำนัก ในที่สุดเมื่อทางจีอี อินวิชั่น เขาส่งตัวแทนทางกฎหมาย ซึ่งอยู่ในกระบวนการตรวจสอบ เขาบอกว่า ไปวิเคราะห์อีกสัก 5 ปี 10 ปี ถ้าวิเคราะห์เฉพาะส่วนต่างที่อินวิชั่นขายมาให้ทางแพทริออต และแพทริออตขายให้กับทางไอทีโอ ยังไงก็ไม่เจอ เพราะว่าส่วนต่างที่กำลังจะพูดถึงเป็นเรื่องที่ ไม่ทราบว่าเป็นตัวแทนของแพทริออตหรือตัวแทนจำหน่าย หรือทางผู้จัดการจำหน่ายของทางอินวิชั่น บอกจะไปขอส่วนลดพิเศษจากอินวิชั่น นี่สำคัญมากนะครับ แสดงว่างบประมาณที่เราตั้งไว้ ที่ บทม.ตั้งไว้เป็นงบประมาณที่ค่อนข้างต่ำมาก การที่จะมาขายให้ ขายลำบาก ถึงจะต้องไปขอส่วนลด ในอดีตที่มีการทำการฮั้ว ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ที่ประมูลกันมา 54,000 ก็คือมีการฮั้วกับผู้รับเหมา ทำราคากลางสูงๆ แล้วก็จ่ายเงินให้กับผู้รับเหมา แล้วก็เอาเงินผู้รับเหมากลับมาส่วนแบ่ง ของเรานี่กลับกันเลย แสดงว่างบของเรานี้เป็นงบที่ต่ำ ตั้งไว้เหมาะสมถึงจะเห็นว่าพอเราไปตรวจกันมาตรวจกันไป ตอนนี้พรรคฝ่ายค้านไม่กล้ามาพูดเลยว่า ราคาแอล 3 เป็นอย่างไร ซีทีเอ็กซ์เป็นอย่างไร ตอนนี้เปลี่ยนประเด็นไปแล้วว่า การได้มาเกิดจากการไปล็อกที่คุณอภิสิทธิ์สรุปว่า ย่อหน้าสุดท้ายบอกว่า ดังนั้น มีหลักฐานอันควรเชื่อว่าตั้งแต่เดือน ม.ค.2003-ม.ค.2004 นั้นเป็นการกระโดดข้ามหน้า 2 ไปหาหน้า 3 และการกล่าวถึงการจ่ายเงินให้กับนักการเมืองหรือพรรคการเมืองไทย ก็เป็นการกล่าวไปตามที่ผู้บริหาร A และผู้จัดการเอให้การผู้ตรวจสอบของกระทรวงยุติธรรมเอง แต่กระทรวงยุติธรรมก็ไม่ได้ตรวจสอบต่อไปว่าเรื่องนี้จริงหรือไม่ เพียงใด ตรงกันข้าม ก.ยุติธรรม กลับมีหนังสือตอบมาที่ไทยว่าไม่พบเจ้าหน้าที่ผู้ใดฝ่ายไทยเกี่ยวข้อง และก็พยายามตอนที่ทูตสหรัฐฯ มีการแถลงข่าว มีการกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ทูตนิรนาม ท่านไปอ่านให้ดีเขาแถลงในนามเจ้าหน้าที่ทูตสหรัฐฯ แถลงในสถานทูตสหรัฐฯ ซึ่งต้องถือว่าเป็นแผ่นดินสหรัฐฯ ดีกว่าว่าแถลงในนามมิสเตอร์เอ มิสเตอร์บี เพราะผูกพัน เขาอยากพยายามไปบิดเบือนว่า เป็นเรื่องลับๆ ล่อๆ ไม่ใช่ครับ
ท่านประธาน กรณีที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ บอกว่าอินวิชั่นตกลงกับ ก.ยุติธรรมสหรัฐฯว่าจะไม่พูดอะไรผิดไปจากที่ให้การไว้กับกระทรวง ท่านกล่าวเน้นตรงนี้ ถ้าผิดจากนี้ถือว่ายกเลิกข้อตกลงนี้และสามารถดำเนินคดีอาญาได้ เป็นความจริง และขอให้ท่านจำประโยคนี้ไว้ด้วย และกรุณาทราบว่าต่อมา จีอีซึ่งควบรวมกิจการกับอินวิชั่นได้ลงหนังสือ วันที่ 22 พ.ค.มาถึงนายกฯ ว่าไม่มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยเกี่ยวข้อง แถมสำเนาฉบับนี้ให้ ก.ยุติธรรม มีข้อตกลงกับ ก.ยุติธรรมว่าการที่จะติดต่อขายประเทศไทยทุกอย่าง เคยตกลงกันว่าอย่างไร ไม่ใช่เคยตกลงว่าผิด แล้วอยากจะขายของก็ไปเขียนว่าไม่สินบน อันนี้ติดคุกนะครับ ถ้าไม่จริงคิดว่า จีอีจะทำหนังสือให้ผิดไปจากข้อตกลง ถ้าจีอีทำติดคุกแน่นอนข้อตกลงข้อ 5 หน้า 3 ยังบอกอีกว่า ข้อตกลงนี้ไม่ได้ห้ามให้ ยธ.ดำเนินการสอบสวน แต่จนบัดนี้มีฟ้องใครไหม ผ่านมาหลายเดือนแล้วยังไม่มี หน่วยงานพรรค ปชป.ได้ยินเขาจับใคร กล่าวหาใคร ฟ้องใครบ้าง ขอให้ส่งใครเป็นผู้ร้ายข้ามแดน มีไหมครับกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ไม่ได้อยู่ภายใต้รัฐบาลไทย เจ้าหน้าที่สหรัฐฯไม่ได้กินเงินเดือนรัฐบาลไทย และไม่มีคนไทยคนไหนจะชี้นำได้ ท่านนายกฯ เรายังชี้นำไม่ได้เพราะแม้แต่ ยธ.ของเรา ระบบศาลเราเอง เรายังชี้นำไม่ได้เลย แล้วจะแทรกแซงคนอื่นได้ไง ทางรัฐบาลไม่มีอำนาจไปบีบบังคับ หรือเจรจาหว่านล้อมให้เขาตอบแบบใดแบบหนึ่งแล้วกระทรวงยุติธรรมสหรัฐก็ไม่มีเหตุที่จะมาเกรงอกเกรงใจผมด้วย และที่สำคัญคือ รัฐบาลสหรัฐอเมริกาคงไม่เอาเครดิตของกระทรวงยุติธรรม ทั้งกระทรวงมาแลกกับการปกป้องผม หรือเจ้าหน้าที่ไทยคนใดคนหนึ่งหากว่ามีการทุจริตรับสินบนจริง คนมันจะหาเรื่องซะอย่าง ที่บอกว่าหนังสือกระทรวงยุติธรรมสหรัฐไม่มีชัดเจน คลุมเครือกำกวม ยังปฏิเสธไม่เด็ดขาด ยังอุตส่าตะแบงไปว่าเท่าที่ตรวจสอบจนถึงขณะนี้ยังไม่พบ ไม่ได้บอกว่าไม่มีในอนาคตจะพบก็เป็นไปได้ เขาบอกไม่พบยังบอกว่าในอนาคตจะพบก็เป็นไปได้ เมื่อไม่มีมันถึงไม่พบ ถ้ามีก็ต้องพบเมื่อเขาบอกว่าตรวจสอบจนถึงขณะนี้ไม่พบก็ยังมีคนแย้งว่าอนาคตอาจจะพบก็ได้ ก็ถ้าหาเรื่องกันแบบนี้ก็ไม่รู้จะพูดกันอย่างไร มันก็เหมือนกับหมาป่ากับลูกแกะ จะเอาผิดผมให้ได้ ไม่ผิดวันนี้วันหน้าก็ต้องผิด วันหน้าไม่ผิดวันนู้นก็ต้องผิด ทำไมถึงต้องหาเรื่องกันแบบนี้ อาจจะเป็นเพราะผม เป็นเลขาธิการพรรคไทยรักไทยรึเปล่าครับ เลือกตั้งคราวที่แล้วได้มาถึง 377 เสียง พรรคฝ่ายค้านที่ตั้งใจไว้ว่าจะได้ถึงร้อยก็ยังไม่ถึง ผมไม่ทราบเหมือนกัน ผมว่าสหรัฐตอบมา เขาตอบมาไม่ตรงกับใจ ไม่ตรงกับจินตนาการของท่านก็เลยพยายามจะทำให้มันตรงกับจินตนาการของท่าน ผมก็เห็นครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่เชื่อถือรัฐบาลสหรัฐ เพราะในอดีตท่านมักจะอ้างอิงรัฐบาลสหรัฐเสมอช่วงสมัยนั้นถึงได้บอกว่าคุณพ่อสหรัฐฯไงครับ
ท่านประธานที่เคารพจำได้มั้ยครับ ครั้งหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ พรรคประชาธิปัตย์ท่านได้กล่าวหาท่านอดีตนายกฯ บรรหาร ศิลปอาชา และพรรคชาติไทย รับสินบนจากนายหน้าค้าอาวุธที่เสนอข่ายเรือดำน้ำค็อกคูมส์ ให้กับกองทัพเรือ โดยอ้างว่าได้ข้อมูลมาจากบทความที่ลงตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งของสวีเดน ในวันนั้นท่านนายกฯ บรรหารพรรคชาติไทย เสียหายมาก ในขณะนี้ปฏิเสธอย่างไรก็ไม่มีใครเชื่อเหมือนกับผมในขณะนี้ ผมเห็นใจท่านจริงๆ และต่อไปก็เห็นใจตัวผมเองด้วย และในวันนี้เป็นยังไงครับพรรคประชาธิปัตย์กล้าพิสูจน์ต่อไปไหมครับว่ามีการจ่ายสินบนเรือดำน้ำค็อกคูมให้กับนายกฯ บรรหาร และพรรคชาติไทย เพื่อใช้ในการเลือกตั้งปี 2538 การเลือกตั้งที่พรรคประชาธิปัตย์แพ้ให้กับพรรคชาติไทยจนราบเรียบ วันนี้สินบนก็ไม่มี เรือดำน้ำค็อกคูมก็ไม่มี จะมีก็แต่สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์หน้าเดิมๆ ที่ยังคงเล่นบทเดิมๆ ด้วยกรอบวิธีคิดแบบเดิมๆ พูดแบบเดิมๆ ท่องคาถาเดิมๆ ทุกคนเลวหมดนอกจากพรรคเก่าแก่อายุ 50 ปีนี้ และเปลี่ยนจากท่านนายกฯ บรรหารมาเป็นผม เปลี่ยนจากเรือดำน้ำมาเป็นซีทีเอ็กซ์
ท่านประธานที่เคารพครับ ในส่วนของผมผมยืนยัน ผมกล้าท้าพิสูจน์ว่าผมไม่เคยเรียกรับสินบนจากอินวิชั่น หรือจากแพทริออต ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตอนนี้เราดำเนินการถ้าไปสอบสวน ตรวจสอบต่อไปตามที่ทางพรรคฝ่ายค้านต้องการ จะดำเนินการอย่างเด็ดขาดหากพบว่ามีการทุจริตจริง แต่ต้องให้ความเป็นธรรมกับผม และทุกคนด้วยนะครับหากผลการตรวจสอบไม่พบว่ามีการกระทำความผิด ไม่มีการทุจริตก็ต้องรับฟังกันบ้าง การไปเค้นเอาคนบริสุทธิ์ให้ยอมรับความผิด ให้รับสารภาพว่าทำผิดทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำ ผมว่ามันเป็นทารุณกรรมที่โหดร้ายมาก ผมขอเรียกร้องให้ท่านรับผิดชอบ ต่อข้อกล่าวหาของท่านในวันนี้ด้วยครับ ผมขอชี้แจงประเด็นเรื่องของการว่าจ้างบริษัท ควอเตอร์เทค ให้มาเป็นที่ปรึกษาควบคุมงานระบบสายพานลำเลียง และระบบตรวจวัตถุระเบิดโดยไม่โปร่งใส และมีพฤติกรรมฮั้วกับบริษัท เคจ ที่ปรึกษาด้านการออกแบบของไอทีโอ เพื่อล็อกสเปกซื้อเครื่องซีทีเอ็กซ์
ท่านประธานครับผมได้ยิน ได้ฟังท่านผู้อภิปรายตั้งประเด็นคำถามถึงความน่าเชื่อถือในตัวที่ปรึกษาระบบรักษาความปลอดภัย ว่ามีความสามารถเก่งกาจขนาดไหน ฮั้วกันมารึเปล่า ทำงานแบบรู้กันแล้วมาหรอกต้มคนไทยรึเปล่า พูดไปแล้วทางผมมีความสามารถมากเลยนะ สามารถฮั้วข้ามโลกได้ ทางบริษัทควอเตอร์เท็กซ์ เป็นจริงครับที่เพิ่งจดทะเบียน แต่ไม่ใช่จงใจจดทะเบียนเพื่อมาทำงานในประเทศไทยครับ ทางมิสเตอร์สก๊อต คูเลย์ เป็นผู้มีความเชี่ยวชาญอย่างมากในระบบสายพานเดิม สายพานที่เราเห็นกันอยู่ในสนามบิน แต่เขามีความเพิ่มเติมอีกในเทคโนโลยีใหม่ๆ ในเรื่องของระบบตรวจสอบระเบิดท่านต้องยอมรับว่าระบบตรวจสอบระเบิด อินไลน์สกรีนนิ่ง ผมเจอท่านรัฐมนตรีเนวิน ท่านบอก อินไลน์นี่มันแปลว่าในเส้นหรือเปล่า คือมันเป็นระบบใหม่มากที่ในโลกนี้เพิ่งนำมาใช้ไม่นาน เพราะฉะนั้นคนที่รู้โดยว่า เราจะเอาระบบความปลอดภัยที่ดีที่สุดในโลก คนที่กำหนดก็คือทีเอสเอ ก็คือสำนักงานหรือองค์กรเพื่อความปลอดภัยและขนส่ง ซึ่งเป็นหน่วยงานที่สำคัญที่สุดของสหรัฐฯ แต่เดิมสังกัดอยู่ที่กระทรวงคมนาคม แต่เรื่องความปลอดภัยหลังจากเกิดเหตุที่เวิลด์เทรดฯ แล้ว เขาเอาอันนี้ไปสังกัดไว้กับกระทรวงโฮมแลนด์ซีเคียวริตี้ ของสหรัฐฯ ซึ่งหน่วยงานนี้เขาเองให้การรับรองว่ามิสเตอร์อูเลย์ ผมขอชาร์ทหน่อยครับ นี่นะครับผมขออ่านให้ฟัง องค์กรความปลอดภัยในการขนส่ง เพื่อเป็นเกียรติประวัติถึงการสนับสนุนของท่านที่ได้ทำหน้าที่อย่างดีเลิศ ให้บรรลุถึงความปลอดภัยในการขนส่งทางอากาศตามพระราชบัญญัติสำนักงานผู้อำนวยการความปลอดภัยของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ จึงมอบเกียรติบัตรนี้ไว้ให้แก่นายสก๊อต คูเลย์ ให้ไว้ ณ วันที่ 9 ม.ค.2547 นายเอ็ดเวิร์ด โกเมส ผู้อำนวยการความปลอดภัยของรัฐบาลสหรัฐฯ ท่าอากาศยานนานาชาติซานฟรานซิสโก ท่านจะกล่าวหาอีกไหมครับว่า มิสเตอร์คูเลย์นี่ไปฮั้วกับทีเอสเอ ไปซื้อประกาศนียบัตรอันนี้มา คนซึ่งมีความชำนาญทางด้านนี้มันมีอยู่ไม่กี่คน สนามบินในสหรัฐฯ ยิ่งย้อนหลังกลับไปปีก่อนนั้นเพิ่งจะมีคนรู้เรื่องระบบนี้ไม่เท่าไร ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเมื่อทาง บทม.เอง เห็นประวัติอันนี้ เห็นประวัติของบุคคลนี้ จึงได้มีการจัดจ้างแล้วท่านหัวหน้าอภิสิทธิ์ได้ถามว่า ใช้กฎเกณฑ์อะไรในการจัดจ้าง เพราะบริษัทนั้นเป็นบริษัทใหม่ กฎเกณฑ์ที่ใช้ในการจัดจ้าง ก็ใช้กฎเกณฑ์ของกระทรวงการคลัง ท่านไปดูได้ การจ้างที่ปรึกษาเขาให้น้ำหนักกับตัวบุคคล บุคลากรที่จะมาทำ ให้บริษัทเก่งแค่ไหนแต่ถ้าเอาบุคลากรที่เขามาทำ ปรากฏว่าคนเก่งๆ ส่งไปที่อื่น เอาคนที่ไม่มีความชำนาญมาให้เรา ไม่เอาหรอกครับ ผมเองไม่เคยรู้จักมิสเตอร์คูเลย์มาเลย จนมาเมื่ออาทิตย์ที่แล้วถึงได้มาเจอแล้วเขาเล่าให้ฟังเรื่องระบบรักษาความปลอดภัย ในเรื่องของระบบอินไลน์สกรีนนิ่งทั้งหลาย ระบบในเรื่องของสายพาน ระบบคอมพิวเตอร์ ที่ผมเรียกมา เพราะมาสอบถามในเรื่องของที่มีข้อกล่าวหาของพรรคประชาธิปัตย์ว่า รายการ 242 ล้าน ที่แพทริออตฯ มาขายให้กับไอทีโอและไอทีโอมาขาย 500-600 ล้านบาท ในส่วนต่างตรงนั้นว่ามันเป็นอย่างไร ทำไมโปรแกรมอันนี้ทางแพทริออตก็บอกแล้วว่าอยู่ในเครื่องที่ขายให้กับทางไอทีโอ แล้วไอทีโอก็มาขายให้กับทาง บทม. แล้วทำไมทางไอทีโอถึงมีการคิดเงินเพิ่มเติม ในส่วนโปรแกรมตรงนี้ ทำไมมีการแยกรายการในเรื่องของอะไหล่ มีการแยกในเรื่องของค่าติดตั้ง ผมรู้ว่าถ้าให้จ้างใหม่ และถ้าค่าจ้างเพิ่มอีก 5 เท่า ผมก็จะให้ บทม.จ้างมิสเตอร์คูเลย์ หายากครับคนที่มีความสามารถอย่างนี้ เราอย่าเพิ่งไปคิดว่าทุกคนจะโกงเหมือนกันหมด เขาเป็นมืออาชีพ เขาคงไม่สิ้นไม้ไร้ตรอกที่จะต้องวิ่งเข้ามาเมืองไทยเพื่อจะมาทำมาหากินในเมืองไทย มารับสินบนจากไอทีโอ มารับสินบนจากเคจ เป็นมาอย่างไร เจ้าหน้าที่ บทม. ให้เลขาฯส่งอีเมล์ไปถามเรื่องระบบตรวจสอบอินไลน์ ตรวจสอบวัตถุระเบิดเป็นเรื่องใหม่มาก และเราอยากใช้มาตรฐานของสหรัฐฯ ไม่รู้เลยว่าเป็นอย่างไร ผมจริงๆมีชาร์ทว่ามีการทำ สอบถามไป บทม.มีการสอบถามที่ทีเอสเอโดยตรง ว่าระบบสนามบิน เราอยากได้ระบบมาตรฐานโลก จะเป็นจุดแข็งของเรา ช่วยแนะนำหน่อยได้ไหม เขามีหนังสือตอบมาว่าไปถามบริษัทเคช เป็นบริษัทที่ดีท่านก็ไปกล่าวหาว่า สงสัยทีเอสเอ องค์การความปลอดภัยและการขนส่งไม่รู้ไปรับเงินเคชมาเปล่า ถึงตอบมาที่ บทม. ผมเชื่อว่าในการดำเนินการที่เพื่อให้ได้มาที่ปรึกษา ทั้งเคช ทั้งมิสเตอร์อูเล ของควอตอเทค เป็นการที่เราได้บุคลากรที่สำคัญและรอบรู้ขอให้ดูที่ชาร์ต กฎหมายที่ บทม.ถามทางทีเอสเอ และตอบมา บริษัท เคช เป็นบริษัทออกแบบที่ดีมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งอินไลน์อีดีเอส ไม่ใช่ลอยมา มีที่มาที่ไป ผมได้ยินได้ฟังท่านผู้อภิปรายตั้งประเด็นถึงความน่าเชื่อถือในตัวที่ปรึกษาแล้วอายแทนคนไทยจริงๆ และจริงๆต้องไปขอโทษสหรัฐฯด้วย ที่เขาอุตส่าห์ให้การแนะนำคนมา แต่คนเขาถูกกล่าวหา ผมคิดว่าประเด็นนี้น่าจะให้ความกระจ่างว่า ทำไมเราเลือกมิสเตอร์อูเลเข้ามาทำงาน เขาเองเคยทำอยู่กับบีเออี ประวัติที่เขาให้มาไม่ใช่เป็นประวัติเคช เขาบอกเขาเคยมีประสบการณ์อยู่บีเออี หลายสิบปี เสร็จแล้วเขาก็แยกตัวออกมา แล้วมาจดทะเบียนบริษัทเข้าไปทำในสนามบินซานฟานฯ เขาเห็นความก้าวหน้าทางธุรกิจ เขาไม่ต้องมาเมืองไทยหรอก เขาอยู่อเมริกา ตอนนี้สนามบินอเมริกายังมีอีกกว่า 100 สนามบิน ที่จะสามารถให้งานเขาได้ แต่สิ่งที่เขาอยากมาเพราะเขาเองอยากมีผลงานสหรัฐฯบ้าง มีแค่นี้แหละเรื่องกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างที่มีการออกช้า ออกเร็ว นี่คือระบบราชการไทยๆ กลัวกันมากจะทำอะไรแต่ละอย่างกลัวถูกตรวจสอบไปหมด ที่ผมพูดจริง ระเบียบนะไม่ใช่กฎหมาย ถ้าเราขืนบริหารประเทศ โดยเอาระเบียบเป็นที่ตั้งผมคิดว่าอีก 10 ปี สนามบินสุวรรณภูมิก็ไม่เสร็จ ผมจะพูดเรื่อง ทำไม บทม.ถึงต้องทำวิธีจัดซื้อจัดจ้างในกรณีขยายสนามบินสุวรรณภูมิในเรื่องระบบสายพาน และเครื่องซีทีเอ็กซ์ที่มีงบฯ 4,300 ล้าน และรวมของเก่าอีก 2,600 ว่าทำไม่มีราคากลาง ทำไมเสียค่าจ้างแพง คือคิดว่าระบบจัดซื้อของเราถูกที่สุดในโลก ผมยืนยันว่า ระบบสายพาน ระบบเรื่องตรวจสอบระเบิดที่ใช้กับสนามบินสุวรรณภูมิถ้าไปเทียบระบบแล้ว สนามบินทั่วโลกของเราถูกสุด และผมยืนยันด้วยข้อมูลทั้งหมด แต่ผมยังไม่ทราบว่าพรรคประชาธิปัตย์จะมีสมาชิกท่านใดจะพูดลงรายละเอียดนั้นผมจะรอตรงนั้นแล้วจะเอาขึ้นมา ถ้าไม่มาผมจะมาชี้แจงให้ทราบ ประเด็นนี้เป็นหัวใจของเรื่องที่มีการกล่าวหาผมว่าปล่อยปละละเลยให้ บทม. จ้างไอทีโอทำงานด้วยวิธีพิเศษไม่มีราคากลาง เป็นเหตุให้รัฐเสียผลประโยชน์เพราะต้องจ้างราคาแพง กล่าวหาว่า บทม.จ้างไอทีโอสร้างระบบสายพานลำเลียงกระเป๋า และตรวจจับวัตถุระเบิดราคาสูงถึง 4,500 ล้านบาท ในขณะที่ราคาต้นทุนที่แพทริออต ซึ่งเป็นตัวกลางเอามาขายให้ไอทีโอราคาแค่ 2,000 กว่าล้าน
ท่านประธานครับ ท่านผู้นำฝ่ายค้านได้อภิปรายให้ดูเสมือนหนึ่งว่า คณะกรรมการ กทภ.ที่ท่านนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ได้ยกระเบียบจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นเหตุให้รัฐเสียผลประโยชน์เพื่อจะมาจัดจ้างโครงการนี้ พยายามชี้ให้เห็นเลยว่าเข้ามาถึงเปลี่ยน ออกระเบียบมา ผมขอกราบเรียนชี้แจงว่า เรื่องนี้ได้มีการของดใช้ระเบียบมาตั้งแต่สมัยประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลแล้วครับ โดยมีการระบุอยู่ในสัญญาไว้ชัดเจนไม่ใช่เพิ่งมาทำในรัฐบาลนี้ ส่วนที่รัฐบาลนี้มาของดใช้ระเบียบบางข้อเพิ่มเติมนั้นได้ขอไว้เป็นหลักการเท่านั้น ยังไม่เคยนำมาใช้กับกรณีนี้ แม้แต่ครั้งเดียว การจัดจ้างซีทีเอ็กซ์ก็ไม่ได้ใช้ระเบียบนี้ ไม่เคยใช้ตรงนี้มา อย่าเอาความจริงมาพูดครึ่งเดียวสับสนครับ เพราะฉะนั้นการที่ บทม.ดำเนินการตามที่ท่านกล่าวอ้างนั้นก็เป็นการดำเนินการตามที่ท่านได้ตั้งเรื่องไว้
ท่านประธานที่เคารพ ท่านบอกว่า ผมไปกำหนดให้การก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิต้องเสร็จให้เร็วเพื่อจะได้จัดจ้างวิธีพิเศษ เป็นจินตนาการทั้งนั้นไม่ใช่ความจริง ถามว่าทำไมสนามบินสุวรรณภูมิต้องแล้วเสร็จในเดือน ก.ย. 2548 คำตอบชัดเจนและเข้าใจง่ายที่สุด ทุกวันนี้สนามบินดอนเมืองอยู่ในสภาพที่โป่งพอง คับคั่ง อัดแน่น จนเกินกว่าจะรับไหวแล้ว สนามบินดอนเมืองถูกออกแบบให้รองรับผู้โดยสารปีละ 30 ล้านคน แต่ขณะนี้มีผู้โดยสารปีละ 38 ล้านคน ซึ่งการจราจรแออัดทั้งทางอากาศ และทางถนน นี่คือความจำเป็นที่ต้องเร่งเปิดให้บริการสนามบินสุวรรณภูมิ ก่อนที่สายการบินต่างๆ จะเบื่อหน่าย และจะไม่มาใช้บริการ ซึ่งคงจะกระทบต่อภาพลักษณ์การลงทุน และการท่องเที่ยวของเราเป็นอย่างมาก เหตุผลมีเท่านี้แหละครับ อย่างไปจินตนาการมากเลยครับ อย่าไปคิดว่าคนอื่นชั่วร้ายไปหมด เมื่อมีความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มในเนื้องานเดิม และติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมเนื่องจากว่าเราจะทำเป็นสนามบินเดียว แต่เดิมเรามีกำหนดไว้ว่าจะคงที่ดอนเมือง แล้วจะมีที่สุวรรณภูมิ ทั้ง 2 สนามบิน ทางไออาต้ามาประชุมกันที่เมืองไทย เขามีคณะกรรมการชุดนึงนะครับ มาประชุมที่เมืองไทยคณะกรรมการชุดนี้เป็นคณะกรรมการที่มีความสำคัญมาก ซึ่งเขาจัดไว้เวลาประเทศไหนมีสนามบินใหม่ๆ เขาจะไปให้คำแนะนำ เขามาให้คำแนะนำตั้งแต่ก่อนที่ผมจะมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมว่า สนามบินของประเทศไทยในกรุงเทพฯ ต้องยุบรวมเป็นสนามบินเดียว เป็นสองสนามบินไม่มีที่ไหนในโลกทำกัน ถ้ากรณีที่ว่าสนามบินนั้น อยู่ใกล้ตัวเมือง ประเทศอื่นๆ ที่มีสนามบินไกลกันเพราะว่า มี 2 สนามบินอยู่ในเมืองเดียวกันก็เพราะว่าเขาไม่เคยเวนคืนที่ไว้ก่อน เขาก็เลย พอสร้างอันใหม่ต้องไปสร้างไกลเสร็จแล้วไอเคโอ หรือไออาต้า คือองค์การบินพลเรือนโลก ก็มีกฎว่า ตั้งแต่ 1 ม.ค.ปีหน้า ถ้าสนามบินไหนไม่ใช้ Inline Screening คือระบบตรวจสอบวัตถุระเบิดที่ไปติดตั้งในระบบสายพาน เขาจะไม่รับรองความปลอดภัยให้ เราถึงจะต้องรีบเร่งทำ ต้องเปลี่ยนแบบ Stand alone ที่สนามบินดอนเมือง แบบที่เราไปในขณะนี้เสียเวลาจริงๆ ไปถึงก็จะต้องเข้าคิวรอทำเอกซเรย์ เอกซเรย์เสร็จ คืนกระเป๋ากลับมา ต้องไปเข้าคิวที่เคาน์เตอร์สายการบินอีก แล้วในระหว่างที่เรารับกระเป๋าคืนมาจากเครื่องตรวจเอกซเรย์ ช่วงนั้นล่ะครับจะมีใครแอบเอาวัตถุระเบิดใส่เข้าไปก็ได้ ทางไออาต้าถึงบอกว่า ต้องเป็น Inline คือตรวจกระเป๋าเสร็จแล้วห้ามคืนให้กับผู้โดยสาร เมื่อมีความจำเป็นเราก็เลยต้องทำเรื่องเข้า กทภ. เพื่อจะขยายสนามบินสุวรรณภูมิ แต่ในส่วนเนื้องานที่จะทำระบบความปลอดภัยในเรื่องของวัตถุระเบิดกับสายพานนั้น เป็นเนื้องานเดิมที่อยู่ในไอทีโอแล้วไม่ใช่ของใหม่ ในเนื้องานเดิมก็คือ มีสายพานอยู่ 2,600 ล้านบาท แล้วก็มีเอ็กซเรย์รุ่นไดโนเสาร์ 47 ล้านบาท เมื่อไออาต้ามา เราก็เลยต้องมีการทำเพิ่มสายพานใหม่ แล้วก็เอาระบบตรวจวัตถุระเบิดไปไว้บนสายพาน ในเมื่องานเดิมไอทีโอเป็นผู้รับเหมารายเดิม แล้วอยู่ในสัญญาหลัก ว่าในกรณีที่เราต้องการเปลี่ยนแปลงรายการใดก็ตามในเนื้องานเราสามารถให้ยึดถือตามสัญญาหลัก คือในสัญญาหลักบอกว่า ถ้าต้องการเปลี่ยนแปลงให้แจ้งไปเลย สัญญานี้ ตรวจสัญญามาเป็นสัญญาสมัยพรรคประชาธิปัตย์ ส่งให้อัยการตรวจมา แล้วเราเอาสัญญานั้นมาใช้ในการประมูลในสัญญานั้นมีระบุชัดเจน เขาเรียกว่า Variation Order ให้สั่งไปได้ก่อนเลย ในข้อสัญญานั้นบอกว่าสั่งไปก่อนแล้วคิดเงินกันทีหลัง ยังทำได้เลย แต่เราไม่ทำ นี่ล่ะครับคือสัญญาที่ชี้ให้เห็น เป็นสัญญา Variation Order ทำได้ เอกสารทั้งหมด ไม่มีเอกสารเท็จแน่นอน ไม่มีใบสุทธิปลอม ไม่มีใบเกิดปลอม ไม่มี ไม่ต้องห่วง เมื่อในสัญญาบอกอย่างนี้ ราคากลางก็ไม่ต้องทำ ถ้าเราจะเอาดื้อๆ แต่ระบบนี้เป็นระบบใหม่ เราจะทำอย่างไร เจ้าหน้าที่ บทม.จะรู้ไหม Inline Screening ไม่มีใครรู้หรอกครับในเมืองไทยเลยได้มีการให้หาผู้มีความชำนาญเข้ามาช่วยดู ในที่สุดครั้งแรกมาจะให้เอ็มเจทีเอทำ แต่เอ็มเจทีเอต้องใช้เงื่อนไข บอกว่า ต้อง 6 เดือน ซึ่งท่านก็บอกว่า 6 เดือน ของเรามัวไปรออะไรอยู่ กว่าจะจ้างไอทีโอก็เกิน 6 เดือนแล้ว อย่างนั้นเราก็น่าจะให้เอ็มเจทีเอไปทำได้ แต่ท่านทราบไหมครับ ถ้าเรามีการให้เอ็มเจทีเอออกแบบ เสร็จแล้ว เมื่อออกแบบเสร็จเราไปใช้ช่องทางการประมูล ท่านจะต้องมีการทำ PQ อย่างน้อย 3 เดือน แล้วไปให้ทางเจบิก เจบิกนี่คือผู้ให้กู้ของประเทศญี่ปุ่น หลักเกณฑ์ของเจบิกกำหนดไว้เลยอย่างน้อย9 เดือน เพราะฉะนั้น 6+9 คือ 15 เดือน ถ้าท่านจะดำเนินการโดยมีการเปิดประมูล 15 เดือน เท่ากับว่าผู้รับเหมา ไอทีโอบอกว่าคุณไม่ต้องทำเลยตรงนี้ รออีก 15 เดือน แล้วเราค่อยมาเริ่มทำกัน ตกรัฐบาลนี้ยังไม่ได้สร้างเลยสนามบินสุวรรณภูมิยังเปิดใช้ไม่ได้เลยถ้าทำอย่างนั้น เราไปดูเมื่อมีความจำเป็น งั้นไอทีโอช่วยรับไปทำ ไอทีโอ ชาวบ้านอาจไม่เข้าใจ ไอทีโอคือบริษัทร่วมทุน ทาเกนากะ เป็นบริษัทรับเหมาใหญ่อันดับ 5 ของโลก โอบายาชิเป็นผู้รับเหมาใหญ่อันดับที่ 4 ของโลก จดทะเบียนในญี่ปุ่น เพราะฉะนั้นที่จะมาทำซี้ซั้ว ฮั้วกันง่ายไม่ใช่นะ ท่านอย่าคิดว่าไอทีโอนึกถึงแต่อิตาเลี่ยนไทยแล้วที่เขาไม่อยากจะทำเพราะเงื่อนไขของสัญญาที่บอกว่าท่านจะต้องทำให้เสร็จทันเวลา ซึ่งดูแล้วว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่ ถูกต้องที่เขาบอกว่าเขาไม่มีความรู้ ความสามารถเราถึงต้องหาคนออกแบบไงครับ เขาก็ไปหาคนออกแบบ คือ เคช ซึ่งตรงกับที่ ทีเอสเอหน่วยงานสหรัฐฯ แนะนำมา และควอตอเทคก็เป็นผู้มีมาตรฐาน มีความชำนาญ เราก็บอกงั้นทำราคามา ซึ่งปกติ ให้เขาช่วยประเมินราคามาก่อน เพื่อเราจะตั้งงบฯได้ถูก ซึ่งพอประเมินราคามาเราก็ให้พีเอ็มซีซึ่งเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เขาบอกว่าการประเมินราคานี้เป็นการประเมินค่อนข้างไม่มีรายละเอียดแต่ในเรื่องเชิงงบประมาณ ก็เลยเสนอเป็นกรอบงบฯเท่านั้น ตรงไปตรงมาไม่มีอะไรซ่อนเร้น เมื่อเป็นอย่างนี้ไอทีโอก็ดำเนินการไป เลยไม่มีราคากลาง ที่สำคัญถ้าท่านไปหารายอื่นอีก ท่านรู้ไหมในชั้น 1 ที่เป็นห้องตรวจสอบระเบิดต้องสร้างแพสฟอร์มขึ้นมา ซึ่งน้ำหนักเกือบ 400 ตัน แพสฟอร์มจะต้องไปยึดติดกับเสาของตัวอาคารที่ไอทีโอรับผิดชอบอยู่ ตอนที่จะยึดติด ตอนเจาะเสาต้องใช้เครื่องเอกซเรย์ทำทีละจุด เพราะถ้าเจาะเจอโครงเหล็กอาคารพัง และถ้าเราให้ผู้รับเหมารายใหม่เข้าไป อาคารพังใครรับผิดชอบ ต่างเกี่ยงกันมาเสาเดิม อาจไม่ดีอยู่แล้วก็ได้ เพราะเชื่อว่าหัวหน้า ปชป.ผมเชื่อถ้าท่านมาเป็นเพราะก็ต้องตัดสินใจแบบผม ไม่มีทางเลือกในช่องสัญญาก็ให้ทำอย่างนี้แต่เรารอบคอบกว่านั้น เรามีการจ้างที่ปรึกษามาคำนวนราคา เอาที่ปรึกษาระดับโลกมา เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ขอเถอะ ตรงไปตรงมาดีกว่า ผมคิดว่าการมีราคากลางมันไม่ใช่จะดีเสมอไป จำได้ไหมถ้าราคากลางดีคงไม่ประมูล 45,000-54,000 เรามาประมูลที่ 36,000 และถ้าราคากลางดี เรื่องรถไฟรางคู่คงโก่งไปถึงขนาดนั้นเพราะฉะนั้น ไม่ใช่เรื่องราคากลางและจะทำให้ทำอย่างตรงไปตรงมาได้ ฮั้วกันได้ ถ้ามีเจตนาไม่บริสุทธิ์ ทำได้สบาย ไม่ต้องไปฮั้วข้ามชาติ ฮั้วกันในประเทศนี่ล่ะ ไม่ต้องมีตัวละครมาเป็นร้อยๆ คน ผมขอชี้แจงนะครับ ตกลงที่เราทำเรื่องราคากลางเอย เรื่องของทำไมต้องมีวิธีพิเศษ ก็เป็นเรื่องที่มีความจำเป็นและเร่งด่วน ไม่เคยเอาเรื่องนั้นมาเป็นตัวตั้งก่อนนะครับ อันนี้เป็นประเด็นสำคัญมากที่สุดครับ เป็นประเด็นเรื่องของว่า ไอทีโอซื้อจากแพทริออตในราคา 2 พันล้าน แล้วไอทีโอมาขายให้กับ บทม. 2,600 ล้านบาท ส่วนต่างตรงนี้หายไปไหน มีการพูดกันมากเรื่องส่วนต่าง 600 ล้านบาท ที่บอกกันว่าไอทีโอเอางานของแพทริออตมาเสนอ บทม. แล้วก็เอากำไรไป 600 ล้านบาท โดยไม่ต้องทำอะไรเลย ก็เป็นความจริงครึ่งเดียวที่มาเสนอ ในส่วนของ 2,600 ล้านบาท แบ่งเป็น 2 ส่วน ดังนี้ ส่วนแรก 2,300 ล้าน เป็นส่วนของแพทริออต ผมคิดว่าท่านประธานและสภาแห่งนี้คงรับทราบไปแล้วว่าเป็นต้นทุนที่แพทริออตขายให้กับไอทีโอ แล้วก็ได้มีการยืนยันกันไปเรียบร้อยว่า มีการขายให้กับไอทีโอจริงในราคา 2,003 ส่วนอีก 605 ล้านบาทที่เพิ่มขึ้นนั้น มีการกล่าวหากันหนักหนาว่าไอทีโอได้กินส่วนต่างไปฟรีๆ แล้วก็มีการกล่าวหาเลยไปอีกว่า เงินส่วนนี้ที่จะเอามาจ่ายให้กับนักการเมือง จนพี่น้องประชาชนและสื่อมวลชนเข้าใจผิดกันไปทั่วประเทศพูดความจริงครึ่งเดียว ไม่ดูรายละเอียด หรืออาจไม่รู้รายละเอียดก็ได้ อุตส่าห์ไปดูถึงที่สนามบินสุวรรณภูมิตั้งหลายครั้ง หลายคณะ จนขณะนี้เจ้าหน้าที่ บทม.ไม่ต้องทำอะไรแล้ว 2 เดือนแล้ว แต่ก็ได้ข้อมูลมาเพียงครึ่งเดียว ที่ปรึกษาเจ้าหน้าที่ไปชี้แจงก็ไม่ยอมฟัง บอกว่าไปหาข้อมูล แต่ไม่ฟังเขา กลับไปพูดต่อว่าเขา คนไปหาข้อมูลมีความรู้ขนาดนั้นไม่ถาม แถมยังจะไปสอนอีก
ท่านประธานที่เคารพครับ ผมขออนุญาตท่านประธานดูชาร์ตนะครับ ชาร์ตนี้ นี่นะครับราคาซื้อมา 2,003 ล้านบาท ทางไอทีโอจ่ายให้กับแพทริออตไป แล้วทางไอทีโอ ในส่วนที่ต้องเป็นค่าใช้จ่ายของไอทีโอ ส่วนแรกจำนวน 280 ล้านบาท ก็เป็นของภาษี อากรสแตมป์เอย แล้วก็เรื่องค่าใช้จ่ายในสำนักงาน ซึ่งทางท่านอภิสิทธิ์ก็บอกไปแล้วว่าให้คิดได้ แล้วก็มีกำไรอยู่ 3 เปอร์เซ็นต์ เยอะไหมครับ ไม่ใช่ทำกำไรไป 3 เปอร์เซ็นต์ เสร็จแล้วได้กำไร 3 เปอร์เซ็นต์ แล้วกลับไปบ้านนอนนะครับ แต่ยังนอนสะดุ้งไปอีก 2 ปี เพราะจะต้องรับผิดชอบทุกวันทุกคืน ที่สนามบินเปิดวันละ 24 ชั่วโมง ทุกวันต้องรับผิดชอบ เพราะฉะนั้นนี่ก็คือส่วน 280 ล้าน ที่ทางไอทีโอได้คิดกับทาง บทม. เหลืออีก 325 ล้าน ผมจะอธิบายให้ฟังว่า ผู้รับจ้างเขาทำอะไรกับ บทม.บ้าง ส่วนที่ 2 69 ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายในการทำงานในช่วงเวลารับประกัน 2 ปี ซึ่งจะต้องไปจ้างผู้เชี่ยวชาญมาดูแลการทำงานของเครื่องทั้งระบบ ทั้งผู้เชี่ยวชาญที่จะมาดูแลระบบสายพาน ผู้เชี่ยวชาญที่จะมาดูแลระบบเชื่อมโยงสายพานกับเครื่องตรวจวัตถุระเบิดผู้เชี่ยวชาญที่จะต้องดูระบบไฟฟ้า ดับเพลิง ผู้เชี่ยวชาญที่จะต้องดูแลรับผิดชอบระบบซอฟต์แวร์เชื่อมโยงกับระบบคอมพิวเตอร์ทั้งหมดของระบบสายพานลำเลียงกระเป๋า ตั้งแต่เคาน์เตอร์เช็กอินถึงกระเป๋าขึ้นเครื่อง เป็นเวลา 24 ชั่วโมงต่อวัน 2 ปีไม่มีวันหยุด ทำไม่ต้องถึง 24 ชั่วโมง เพราะเครื่องบินขึ้นลงตลอด 24 ชั่วโมง 365 วันต่อปี ไม่มีวันหยุดแม้แต่วันเดียว จะเสาร์-อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ก็ต้องมาทำงานให้ บทม. ถ้าระบบมีปัญหาดีเลย์ กระเป๋าหายกระเป๋าตกไฟลต์มันเกิดขึ้นไม่ได้สนามบินที่ลงทุนเป็นแสนล้าน นี่คือส่วนของ 69 ล้านบาทที่จะต้องทำงานให้ บทม.เป็นเวลา 730 วัน คิดแล้วตกวันละ 90,000 กว่าบาทต่อวัน สำหรับการจ่ายให้ผู้มาทำงานดูแลระบบสายพานที่ต้องลำเลียงและตรวจกระเป๋าชั่วโมงละ 10,000 ใบ วันละประมาณ 200,000 ใบ ซึ่งในส่วนนี้ยังมีส่วนที่จะต้องไปเตรียมค่าน้ำค่าไฟ เพื่อให้ทางบริษัท แพทริออต เวลาเข้ามาทำงานในสัญญาระหว่างแพทริออตกับไอทีโอจะต้องเตรียมอีกหลายเรื่องให้แพทริออต ก็จะอยู่ในส่วน 69 ล้านบาท ตกลง 605 ลบไป 280 ลบไป 69 เหลือ 255 ล้านบาท ผมจะอธิบายให้ฟังว่า บทม.จะใช้ประโยชน์อะไรกับการจ่ายเงิน 255 ล้านบาทนี้ เงิน 255 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ส่วนที่ 1 เป็นค่าจ้างในการออกแบบซอฟต์แวร์เชื่อมระบบสายพานลำเลียงกระเป๋ากับระบบตรวจระเบิดซีทีเอ็กซ์ที่แพทริออตทำระบบสารสนเทศของสนามบินเอมส์ และระบบอื่นๆ ในอาคารผู้โดยสารและอาคารเทียบเครื่องบิน เราซื้อระบบตรวจสอบระบบนะครับ เราไม่ได้ซื้อเครื่องตรวจสอบระบบส่วนของแพทริออตเขาทำแต่เครื่องตรวจสอบระเบิด เราซื้อระบบ ซึ่งระบบต้องประกอบด้วยสายพาน พูดง่ายๆ ก็คือ เงินที่จ่ายไป 100 ล้านบาท จะทำให้ บทม.ได้ซอฟต์แวร์เชื่อมโยงระบบการทำงานของระบบสายพานลำเลียงและเครื่องตรวจวัตถุระเบิดให้เข้ากับทุกระบบในสนามบิน และซอฟต์แวร์เหล่านี้จะเป็นทรัพย์สินของ บทม.ที่สามารถนำไปปรับกับสนามอื่นๆ ได้ ตรงนี้แหละครับที่คนพยายามกล่าวหาซ้ำซ้อน ระบบซอฟต์แวร์ของซีที่เอ็กซ์มีแล้วอยู่ในส่วนของแพทริออตแล้วทำไมจะต้องมาตั้งในส่วนของไอทีโอ อีก ตั้งไว้เอาเงินไปจ่ายให้ใคร ท่านก็คิดได้เท่านี้แหละครับ ข้อเท็จจริงเป็นดังนี้ครับ
ผมขออนุญาตท่านประธานใช้พาวเวอร์พอยต์เพื่อจะได้อธิบายถึงการทำงานของระบบซอฟต์แวร์ ท่านประธานครับผมขอให้ดูในพาวเวอร์พอยต์ ผมขออนุญาตในการนำเสนอเรื่องราว ที่เป็นข้อวิพากษ์วิจารณ์และกล่าวหาผม ถึงเรื่องการเพิ่มเนื้องานที่ทำให้เป็นปัญหาและนำมาสู่การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ ในระบบสายพานลำเลียงกระเป๋าทั้งหมดเส้นสีเหลืองคือสายพานลำเลียงกระเป๋าตามสัญญาเดิม ที่มีการประกวดราคาไว้ สำหรับรองรับผู้โดยสาร 30 ล้านคนต่อปี เดิมยาว 16 กิโลเมตร ตรงสีเหลืองยังไม่มีสีเขียวยังไม่มีซีทีเอ็กซ์ ความยาม 16 กม.เพื่อลำเลียงกระเป๋าจากที่เราโหลดกระเป๋าที่เคาน์เตอร์เช็กอินไปขึ้นเครื่องส่วนระบบคอมพิวเตอร์ควบคุมก็เป็นระบบสแตนอโลนอย่างที่เราเห็นในสนามบินดอนเมือง คือ ก่อนเช็คอินนำกระเป๋าเข้าไปตรวจที่เครื่องเอกซเรย์ก่อน แล้วจึงตามไปติดสติกเกอร์แล้วจึงลากกระเป๋าเข้าไปที่เช็กอินเคาน์เตอร์ ต่อมาท่านประธานมีการปรับปรุงระบบสายพานลำเลียงกระเป๋าเพิ่มเติม หลังจากมีการประชุมไอตาร์ในประเทศไทย ช่วง พ.ย.2545 ซึ่งการประชุมครั้งนั้นมีสายการบินทั่วโลกมาประชุมกัน เพื่อให้คำแนะนำในการก่อสร้างและปรับปรุงสนามบินสุวรรณภูมิให้เป็นสนามบินที่ตรงกับความต้องการของสายการบิน มีเรื่องอยู่ 2 ส่วน เรื่องที่ 1 แนะนำว่า ควรจะมีสนามบินเดียวไม่ใช่ 2 สนามบิน เพราะการมี 2 สนามบินนั้นจะทำให้ค่าใช้จ่าย แต่ละฝ่ายเพิ่มเติมขึ้นมาก ส่วนผู้โดยสารก็จะต้องมีขนย้ายถ่ายระหว่าง 2 สนามบิน รวมทั้ง ณ วันเปิดใช้สนามบิน สุวรรณภูมิในวันข้างหน้า ประมาณการเพิ่มของจำนวนผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นอีกมาก ตรงนี้เองก็เลยมาพิจารณาตรวจสอบตัวเลขกัน ก็สอดคล้องตรงกันว่า ต้องขยายให้รองรับผู้โดยสารเป็น 45 ล้านคน เท่ากับว่าที่ขยาย ขยายเพราะไอตาร์นะ ไม่ใช่เพราะผม ส่วนที่สอง เมื่อขยายเป็น 45 ล้านคน สายพานลำเลียงมันก็ต้องยาวขึ้นเป็นธรรมดาเพราะกระเป๋าจากผู้โดยสารที่มากถึง45 ล้านคน และจากประมาณการณ์ว่า จะต้องมีเที่ยวบินขึ้นลงรวมทั้งปีประมาณ 340,000 เที่ยวบินต่อปี เฉลี่ยแล้วประมาณ 1,000 เที่ยวบินขึ้นลงต่อวัน เพราะฉะนั้น จำนวนกระเป๋าของผู้โดยสารที่จะเดินทางก็จะมีจำนวนมหาศาล ก็จะมีจำนวนกระเป๋าต่อชั่วโมงเป็น 10,000 ใบ สายพาน ลำเลียงก็ต้องยาวขึ้นสำหรับกระเป๋าผู้โดยสาร 45 ล้านคน ในส่วนนี้เองเป็นผลสืบเนื่องจากการประชุมของไอตาร์ 1 มีการเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารเป็น 45 ล้านคน และเพิ่มความยาวสายพานอีก 6 กิโลเมตร ในส่วนแรกเพิ่มความยาวของระบบสายพานลำเลียงกระเป๋าเดิมอีก 2.82 กิโลเมตร กับอีก 3.18 กิโลเมตร เป็นการเพิ่มในระบบสายพานที่เป็นระบบพิเศษ ที่ใช้ลำเลียงกระเป๋าเข้าสู่ระบบเครื่องซีทีเอ็กซ์ เพื่อตรวจหาวัตถุระเบิดและยาเสพติดในกระเป๋า นี่คือภาพรวมนะ ทีนี้มาดูว่าทำอะไรบ้าง แพงไม่แพงมีการกล่าวหาว่าเพิ่มงานส่วนต่าง เป็นดังนี้ เรื่องที่มีการกล่าวหากันมาตลอดหลักสำคัญของอธิบายชี้แจงว่า เรื่องซอฟต์แวร์วันนี้มีการ กล่าวหาว่าซอฟต์แวร์มีอยู่แล้ว อยู่ในส่วนรายการที่แพทริออตเสนอควบคู่มากับเครื่องซีทีเอ็กซ์อยู่แล้ว แล้วมาตั้งค่าใช้จ่ายซอฟต์แวร์ซ้ำซ้อนในส่วนไอทีโอ ท่านประธานของระบบการทำงานเป็นดังนี้ อันที่ 1 ท่านประธาน ซอฟต์แวร์ในระบบของที่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับสายพาน และระบบสนามบินทั้งหมดมันมีซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 5 เรื่อง ซอฟต์แวร์ที่ 1 เป็นซอฟต์แวร์ของระบบเอมส์ ซึ่งเป็นระบบสารสนเทศหลักในการปฏิบัติหลักการสนามบินอยู่ความรับผิดชอบของผู้รับเหมารายอื่น ซอฟต์แวร์ที่ 2 เป็นซอฟต์แวร์ของระบบสายพานลำเลียงกระเป๋า ซึ่งเป็นระบบเดิมของไอทีโอ ที่มีอยู่ใน 2,600 ล้านบาทของการประมูลในสัญญาแรก ซอฟต์แวร์ที่ 3 คือซอฟต์แวร์ระบบตรวจสอบระเบิดที่อยู่ในความรับผิดชอบของไอทีโอ ซอฟท์แวร์ที่ 4 คือซอฟต์แวร์เครื่องซีทีเอ็กซ์ ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท แพทริออต ซอฟต์แวร์ที่ 5 คือซอฟต์แวร์ระบบอื่นๆ ในอาคารผู้โดยสาร เรื่องซอฟต์แวร์ที่เถียงกันว่าซ้ำซ้อนกันนะครับ
ท่านประธาน มันไม่ซ้ำ เพราะว่าซอฟต์แวร์ที่เราพูดถึงคือซอฟต์แวร์ของระบบตรวจระเบิดของไอทีโอ ซึ่งจะเป็นซอฟต์แวร์ที่เขียนมาเพื่อควบคุมระบบตรวจสอบ วัตถุระเบิดของตนเองแล้ว ยังต้องเชื่อมต่อประสานกันกับระบบทุกระบบ ตั้งแต่ระบบสายพานลำเลียงกระเป๋า ระบบ Aim ที่เริ่มต้นตั้งแต่เคาน์เตอร์เช็กอิน ไล่มาจนถึงผ่านระบบตรวจวัตถุระเบิด แล้วส่งกระเป๋าที่ตรวจสอบว่าปลอดภัยจากวัตถุระเบิด ขึ้นไปสู่เครื่องบิน
ท่านประธานครับ มาดูการทำหน้าที่ของมันนะครับ ว่ามันมีหน้าที่ที่ซ้ำซ้อนหรือไม่ซ้ำซ้อน ผมจะขออนุญาตท่านประธานอภิปรายว่า ระบบของการสั่งงานโดยระบบซอฟต์แวร์ในโครงการนี้มันเป็นอย่างไร เริ่มต้นที่ผู้โดยสารจะต้องนำกระเป๋ามาเช็คอิน แล้วก็จะเข้าสู่ระบบ พอเริ่มตั้ง ซอฟต์แวร์ตัวแรกคือซอฟต์แวร์ ของระบบสายพานลำเลียงกระเป๋าก็จะมีหน้าที่ 1.รับข้อมูลรหัสกระเป๋า คือบาร์โค้ด จากเคาน์เตอร์เช็กอิน 2.ซอฟต์แวร์ตัวนี้ก็จะไปควบคุมการทำงานของระบบสายพานลำเลียงกระเป๋า 3,400 ชุด สั่งงานด้วยมอเตอร์ 3,400 ตัว ของสายพานลำเลียงกระเป๋า เมื่อกระเป๋าเข้าสู่ระบบของการตรวจวัตถุระเบิด ซึ่งตอนนี้จะมาถึงซอฟต์แวร์ที่ไอทีโอจะต้องทำเชื่อมโยงทั้งหมด คือซอฟต์แวร์ระบบสายพานลำเลียง สื่อสารกับซอฟต์แวร์ระบบตรวจวัตถุระเบิด ซึ่งซอฟต์แวร์ตรวจระเบิดตัวนี้จะต้องทำหน้าที่ต่อไปนี้ 1.กำหนดกระเป๋าเข้าสู่สายพาน2.จะต้องจัดคิวกระเป๋าบนสายพาน เพื่อป้อนเข้าสู่เครื่องซีทีเอ็กซ์ 3.ควบคุมการทำงานของมอเตอร์สายพาน 938 ชุด ในสายพาน 3 กิโลกว่าๆ นี่ล่ะ จะมีสายพานที่ประกอบด้วยมอเตอร์อยู่ 938 ตัว เพื่อที่จะส่งกระเป๋าเข้าไปในเครื่องซีทีเอ็กซ์ ซึ่งมีอยู่ 26 ตัว
ท่านประธานเห็นไหมครับว่า ทำไมจะต้องกำหนดกระเป๋าเข้าสู่วงสายพานตรงนี้ ถ้าไม่เขียนซอฟต์แวร์นะครับท่านประธาน เคาน์เตอร์เช็กอินจะต้องมีเต็มสนามบินแน่นอนเครื่องบินขึ้น-ลงพันเที่ยวใน 1 วัน นับเป็น 10 ไฟลท์ต่อชั่วโมง ผู้โดยสารเข้าไปเช็กกระเป๋าต่างคนต่างเอากระเป๋าเข้ามาใส่ ถ้าไม่มีการกำหนดกระเป๋าให้เข้าสู่วงสายพานไม่มีการจัดคิวกระเป๋าเข้าสู่สายพานเพื่อเข้าซีทีเอ็กซ์ กระเป๋าใบไหนจะเข้าก่อนเข้าหลัง ไฟลต์บินไหนจะออกก่อน-หลัง ถ้าตัวนี้จัดระบบไม่ดี มันจะทำให้กระเป๋าตกเครื่องบินหรือเครื่องบินดีเลย์ นี่เป็นความจำเป็นที่ต้องมีและหัวข้อสำคัญ เพราะกระเป๋าเวลาขึ้นเครื่องบิน เราไม่ได้ไปก่อนเวลาเหมือนเราขึ้นรถเมล์ เพราะเราต้องไปก่อนเวลาเป็นชั่วโมง 2 ชั่วโมง ต่างคนต่างไป ไฟลต์ออกไม่พร้อมกันเพราะฉะนั้น ระบบที่จะต้องจัดคิวกระเป๋าเข้าเครื่องเพื่อตรวจก่อนและขึ้นก่อน ไฟลต์ไหนจะออกก่อนตรวจก่อน นี่ซอฟต์แวร์ที่ไอทีโอจะต้องเป็นคนเขียนและจะต้องเป็นคนจัดเมื่อเสร็จแล้วก็เข้าสู่ระบบสายพานจัดลำดับ เข้าสู่เครื่องอ่านรหัสกระเป๋าเพื่อรับทราบและติดตามการเคลื่อนไหวของกระเป๋าทุกใบ เมื่อเข้าไปสู่ระบบการตรวจสอบระเบิดและยาเสพติด เพื่อจะได้รู้ว่าใบไหนมีปัญหา ใบไหนไม่มีปัญหา นี่คือหน้าที่ของซอฟต์แวร์นี้ เมื่อกระเป๋าเข้าสู่วงสายพาน ซอฟต์แวร์นี้จะทำการเฉลี่ยกระเป๋าบนความเร็ววินาทีละ 1 ใบ เพื่อให้เข้าสู่เครื่องซีทีเอ็กซ์ ซึ่งมีอยู่ 26 เครื่อง ได้อย่างแม่นยำ ไม่เช่นนั้นจะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องซีทีเอ็กซ์ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ในช่วงเวลาเร่งด่วนนั้นต้อง 10,000 ใบ ต่อชั่วโมง อันนี้เป็นสาระสำคัญ ซอฟต์แวร์ก็จะต้องสั่งงานอย่างแม่นยำในการจัดเรียงกระเป๋า และส่งไม่ให้เครื่องแต่ละเครื่องว่างเลย เพราะเครื่อง 26 เครื่องมันจะต้องทำงานอยู่ตลอดเวลา มันจะต้องมีกระเป๋าวิ่งผ่านทั้ง 26 เครื่องทีนี้ เมื่อกระเป๋าจากวงสายพาน ซอฟต์แวร์ในระบบตรวจระเบิดก็จะจัดกระเป๋าเข้าสู่เครื่องซีทีเอ็กซ์ แล้วก็จะเชื่อมซอฟต์แวร์ทั้งหมดส่งต่อไปให้คอมพิวเตอร์ของซีทีเอ็กซ์ ซึ่งตรงนี้เห็นได้ว่าคือหน้าที่ หนึ่งแล้วนะครับที่ไม่เกี่ยวข้องกัน เพราะฉะนั้นข้อมูลจะถูกส่งเข้ากับซอฟต์แวร์ของซีทีเอ็กซ์ หน้าที่ของซอฟต์แวร์ของซีทีเอ็กซ์ เป็นเพียงว่าสแกนกระเป๋าเพื่อค้นหาวัตถุระเบิดและยาเสพติดในกระเป๋าเท่านั้น ซอฟต์แวร์ตัวนี้จะทำหน้าที่เฉพาะ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับซีทีเอ็กซ์ ซึ่งระบบซอฟต์แวร์ที่แพทริออตรับไปทำจะมีเพียงแค่การทำหน้าที่ในส่วนของการค้นหาระเบิดและยาเสพติดเท่านั้น ซึ่งจะมีระบบที่เกี่ยวข้องอยู่ 4 ส่วน ซอฟต์แวร์ที่แพทริออตเป็นคนจ่ายอยู่ในค่าจ้างก็คือ ซอฟต์แวร์ระบบมัลติเพล็กซิ่ง เชื่อมข้อมูลของการทำงานซีทีเอ็กซ์ไปสู่ห้องคอนโทรลรูมที่มีซีซีทีวี เข้าสู่ห้องโอเอสอาร์ ตรวจหาสารละอองเคมีที่เกี่ยวกับวัตถุระเบิด และยาเสพติด และเข้าไปสู่ห้องบีไออาร์ ดูภาพในกระเป๋าผ่านเครื่องซีทีเอ็กซ์เท่านั้น นี่คือระบบที่ท่านบอกว่ามีอยู่แล้วไปตั้งซ้ำซ้อน มันมีอยู่แค่นี้มันไม่ได้มีมากกว่านี้
ท่านประธานครับ ฉะนั้นส่วนที่เกินมาที่อธิบายตั้งแต่ต้นเป็นเรื่องที่ต้องเขียนโปรแกรมซอฟต์แวร์เข้ามาคุม นอกจากนั้น หลังจากกระเป๋าออกจากเครื่องซีทีเอ็กซ์แล้ว ซอฟต์แวร์ซีทีเอ็กซ์จะคืนซอฟต์แวร์ให้กับสายพานตรวจระเบิด ก็จะมาที่ซอฟต์แวร์ที่เป็นของไอทีโอส่งข้อมูลกลับมาที่นี่อีก ถ้าตรวจแล้วร้อยเปอร์เซ็นต์เคลียร์ก็ไม่มีปัญหาอะไร ถ้าเคลียร์แล้วก็ให้ขึ้นเครื่อง ก็จะส่งข้อมูลไปให้ระบบสายพานลำเลียงเพื่อจะเอาไปขึ้นเครื่องแต่ถ้าไม่เคลียร์ต้องส่งข้อมูลไปสู่ห้องตรวจวัตถุระเบิดและยาเสพติด มันจะต้องถูกสั่งงานซึ่งซอฟต์แวร์ซีทีเอ็กซ์จะเป็นคนตัดสินใจในเบื้องต้นโดยอัตโนมัติว่า กระเป๋าใดน่าสงสัยหรือไม่ นั่นคือส่วนที่แพทริออตรับทำถ้าส่วนที่ไม่มีก็ต้องรับต่อแล้วส่งมาทางนี้ ก็ต้องรับต่อแล้วส่งไปยังระบบสายพานลำเลียงเพื่อไปเอาขึ้นเครื่องบิน ในตรงนี้เองแม้ว่าซอฟต์แวร์ ของซีทีเอ็กซ์จะได้ตรวจแล้วซอฟต์แวร์ระบบนี้ยังจะต้องทำหน้าที่ประสานงานข้อมูลผลการ สแกนซอฟต์แวร์ของซีทีเอ็กซ์ด้วยว่าใบไหนมีปัญหาใบไหนไม่มีปัญหาเพราะเมื่อมีปัญหาจะได้แจ้งไปที่เคาน์เตอร์เช็กอิน แจ้งไปที่ไฟล์บินเพื่อเอาผู้โดยสารลงมาแล้วเอากระเป๋าผู้โดยสารส่วนที่เหลือออกเพื่อไม่ให้มีปัญหาในเรื่องของไฟล์บินที่จะต้องดีเลย์ต่อไป เมื่อหาไม่พบแล้ว เมื่อไปห้องตรวจละอองสารเคมีวัตถุระเบิดซอฟต์แวร์ซีทีเอ็กซ์จะถูกส่งกลับคืนมายังซอฟต์แวร์ของระบบตรวจสอบระเบิด และส่งไปยังระบบสายพานลำเลียงแล้วกระเป๋านี้จะขึ้นเครื่องบินไป นี่คือหน้าที่ทั้งหมดของซอฟต์แวร์ที่เรากำลังเถียงกันอยู่ เห็นมั้ยครับท่านประธาน ผมบอกว่ามีซอฟต์แวร์ในส่วนของแพทริออตที่คิดค่าใช้จ่ายจริงก็มีและมีระบบที่ใช้ส่วนตรงนั้นของซอฟต์แวร์อื่นมาคุมเพื่อเชื่อมโยงระบบทั้งระบบอย่างที่ผมชี้แจงไม่มีความซ้ำซ้อนครับท่านประธานครับ ส่วนสุดท้ายก็ 17 ล้านบาท ก็เป็นค่าจ้างผู้เชี่ยวชาญอิสระ เรียกกันว่า อินเฮาส์ สเปเชียลลิสต์ มาทำงาน 2 ปี มีหน้าที่พิจารณาหาข้อยุติในกรณีที่ผู้ออกแบบ ผู้ควบคุมงานผู้รับเหมา มีปัญหา ไม่สามารถตกลงการทำงานร่วมกันได้ เช่น แพทริออต ติดตั้งเครื่องซีทีเอ็กซ์เสร็จแล้ว ผู้ควบคุมงานไม่ยอมรับ มีข้อโต้แย้งกันทางการส่งมอบงานรับมอบงาน การจ่ายเงินค่าจ้าง ก็ต้องมีคนกลางตัดสิน ซึ่งก็คือผู้เชี่ยวชาญอิสระคณะนี้ การจ้างผู้เชี่ยวชาญอิสระของไอทีโอเป็นเรื่องปกติของการทำงานโครงการขนาดใหญ่ไม่ใช่เรื่องใหม่ที่เพิ่งมามีในโครงการนี้ โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่อื่นๆ ก็มีอยู่ หากพิจารณาวงเงินที่จัดจ้างทำงาน 2 ปีแล้ว เฉลี่ยก็ตกเดือนละประมาณ 7 แสน ซึ่งผมเชื่อว่าไอทีโอจ้างด้วยราคาที่มีเหตุผล สำหรับผู้ที่จะมาทำหน้าที่ชี้ขาดโต้แย้งของงานที่มีมูลค่าสูงถึง 6,900 ล้านบาท
ท่านประธานที่เคารพครับ จากที่ผมได้นำเสนอให้ท่านประธานได้รับทราบทั้งหมดนี้ เป็นการแสดงให้เห็นว่า เงินส่วนต่าง 605 ล้านบาท ที่มีการพูดกันมาก พูดกันเหลือเกินใส่ร้ายใส่ความกันทุกวันว่ามีนักการเมืองหากินกับส่วนต่าง 605 ล้านบาท นั้นเป็นเรื่องโกหกทั้งสิ้น การจ้างไอทีโอทำงานนี้เป็นการจ้างแบบล่ำซำในสัญญา ตั้งแต่สัญญาหลักเดิมคือเหมาจ่าย ไม่ได้แยกจ้างเป็นงานๆ แบบที่ท่านนำมาแยก 12 รายการ แต่การแยกของไอทีโอที่เสนอให้ บทม. เพื่อเป็นการแยกไว้ในกรณีที่ว่าอยู่ในช่วงระยะประกัน 2 ปี ถ้าเกิดปัญหาก็จะสามารถเคลมกันได้ เรียกร้องชดเชยค่าเสียหายกันได้ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ถ้าหากว่าผมเข้ามาบริหารงานแล้วปล่อยให้ผู้รับจ้างปล่อยให้เอกชน หรือใครคนใดคนหนึ่ง เข้ามาหากิน หาประโยชน์ เอาเงินหลวงเข้ากระเป๋าได้ง่ายๆ 600 ล้านบาท อย่างที่ท่านกล่าวหาผม อย่างที่ท่านจินตนาการ ถ้าท่านมีหลักฐานแต่เพียงชิ้นเดียวที่บ่งได้ว่าผมรู้เห็นเป็นใจกับพวกที่เข้ามาหากินกับเงินหลวง หรือผมมีส่วนไปเกี่ยวข้องกับขบวนการนั้น แค่ลงมติไม่ไว้วางใจผมยังไม่พอ ต้องไปแจ้งความดำเนินคดีจับผมเข้าคุกด้วยครับ เพราะถ้าทำกันแบบที่ท่านคิด ท่านจินตนาการมันเป็นพฤติกรรมที่เลวร้ายมาก ไม่ใช่แต่ท่านที่จะรับไม่ได้ ผมเองก็รับไม่ได้จากหลักฐานที่ผมนำมาแสดงในที่ประชุมสภาวันนี้ ก็พิสูจน์ให้เห็นว่า สมาชิกผู้อภิปรายผมในเรื่องนี้ ได้นำเอาความจริงครึ่งเดียวมากล่าวหาผม และเป็นการกล่าวอภิปราย โดยไม่สนใจศึกษาหารายละเอียดตกไปเรื่องหนึ่งครับ ในกรณี 137 ล้าน ผมยังไม่ได้ชี้แจง ผู้เชี่ยวชาญ ควบคุมงาน 137 ล้านบาท ขออนุญาตชี้แจงครับ คนพูดไม่เก่งก็อย่างนี้ล่ะครับ พอดีเป็นนักปฏิบัติ ไม่ได้ทำงานด้วยปากครับ ส่วนต่อไปเป็นส่วนของ 137 ล้านบาท เป็นวงเงินที่ไอทีโอจ้างคณะผู้เชี่ยวชาญด้านระบบรักษาความปลอดภัย คือ บริษัทเคจ มาทำหน้าที่เป็นผู้บริหารและควบคุมงาน คล้ายกับที่ บทม.จ้างพีเอ็มซี แต่ต่างกันที่พีเอ็มซีที่ บทม.จ้าง ในสมัยของท่าน ทำหน้าที่เป็นผู้บริหารอย่างเดียวอัตราค่าจ้างที่ท่านเซ็นสัญญาไว้ประมาณ 2 เปอร์เซ็นต์ ไอทีโอก็จ้างบริษัทเคจเป็นทั้งผู้บริหาร ควบคุมงาน อัตราประมาณ 2 เปอร์เซ็นต์ งานที่บริษัทเคจต้องทำในช่วงเวลา 2 ปี ที่รับเป็นผู้บริหาร และควบคุมงานก็คือการควบคุม การติดตั้งระบบสายพาน ตลอดระยะ 22 กิโลเมตร ซึ่งเป็นสายพานที่มีลักษณะเฉพาะ ออกแบบและผลิตมาสำหรับสนามบินสุวรรณภูมิ ควบคุมการติดตั้งและป้อนซอฟต์แวร์ทำงานของมอเตอร์ ประมาณ 6,000 ชุด ควบคุมการติดตั้งและป้อนซอฟต์แวร์ การทำงานของกล้องทีวีวงจรปิด 242 ชุด ควบคุมการติดตั้งและการทำงานของอุปกรณ์เครื่องรับส่งสัญญาณควบคุมความเร็วของสายพานและอุปกรณ์อื่นๆ รวมแล้วกว่า 10,000 ชุด ควบคุมการก่อสร้างงานโยธาของระบบสายพานทั้งระบบนอกจากนี้ยังมีระบบไฟฟ้า งานระบบคอมพิวเตอร์ งานติดตั้งเครื่องซีทีเอ็กซ์ งานเชื่อมโยงระบบสั่งการของระบบสายพาน กับระบบเครื่องซีทีเอ็กซ์ซึ่งมาจากคนละระบบให้ทำงานเป็นเนื้อเดียวกัน
ท่านประธานที่เคารพครับ ไม่ใช่การควบคุมงานเพียงอย่างเดียว บริษัท เคจ ยังต้องเป็นผู้บริหารงานติดตั้งระบบสายพาน และเครื่องซีทีเอ็กซ์ทั้งระบบ แล้วยังต้องรับผิดชอบทดสอบความพร้อมในการใช้งาน ของระบบสายพานและเครื่องซีทีเอ็กซ์เป็นเวลา 6 เดือน ในส่วนของแพทริออตต้องมาทดสอบติดตั้งแต่ต้องทำงานร่วมกับระบบสายพาน ซึ่งไอทีโอรับผิดชอบทั้งโครงการดังนั้นทางเคจจะมาดูแลทั้งหมด เพื่อให้เป็นไปตามระบบตรวจสอบความปลอดภัยไม่ใช่เฉพาะเครื่องซึ่งการทดสอบจะต้องทดลองระบบ 24 ชั่วโมงไม่มีวันหยุดเป็นเวลา 6 เดือน โดยทดลองโหลดกระเป๋าจริง และระบบทำงานลำเลียงกระเป๋า และตรวจจับวัตถุระเบิดเหมือนจริงทุกประการ ซึ่งตรงนี้พยายามเร่งเพราะมันมีปัญหามานาน เรื่องการทดลองจะต้องรีบเร่ง ในส่วนของการทดสอบระบบสายพานของไอทีโอจะต้องทดสอบทั้งระบบ อุปกรณ์ทุกชิ้นไม่ว่าจะเป็นสายพาน มอเตอร์ กล้องทีวีวงจรปิด อุปกรณ์ควบคุมความเร็ว ลำดับอ่านรหัสป้ายกระเป๋า สรุปแล้วคือทดสอบทั้งระบบไม่ใช่ทดสอบ เฉพาะอุปกรณ์ในส่วนของแพทริออตเท่านั้น ซึ่งการทดสอบทั้งระบบนี้อยู่นอกเหนือจากงาน และความรับผิดชอบของแพทริออต ซึ่งจะทดสอบเฉพาะเครื่องซีทีเอ็กซ์ 9000 เพียงอย่างเดียว เห็นค่าใช้จ่ายในส่วนของไอทีโอ จึงไม่ได้ซ้ำซ้อนกับแพทริออตอย่างที่สมาชิกอภิปราย ที่บอกว่าทดสอบระบบไม่มีงานเป็นชิ้นเป็นอันคิดค่าใช้จ่ายไม่ได้ ไอทีโอไม่ควรมีค่าใช้จ่ายส่วนนี้เพราะมีอยู่ในส่วนของแพทริออตจึงไม่เป็นความจริง
ท่านประธานครับลองคิดดูว่า แค่หากระเป๋าหมื่นใบ มาทดลองก็เป็นภาระที่ยุ่งยากอยู่แล้วครับ ซึ่งต้องทดสอบ ทดลองอย่างนี้ 3-6 เดือน แต่เหตุที่ท่านผู้อภิปรายคิดว่าไม่มีเนื้องาน ไม่มีอะไรก็เพราะท่าน ไม่ได้ใส่ใจที่จะค้นหารายละเอียด ผมขอจบคำชี้แจงในส่วนต่างๆ ของ 600 ล้าน จากด้านของแพทริออตมาไอทีโอ และไอทีโอมาที่ บทม.ได้อย่างไร ส่วนเรื่องของการที่ด้านแพทริออต ซื้อจากอินวิชั่นแล้วมาขาย ให้ไอทีโอ ขอชี้แจงในโอกาสต่อไป ที่บอกว่ามีการจ่ายกันล่วงหน้า ยังไม่เห็นของ ไม่เห็นเงาเลย จ่ายเป็นพันๆล้าน ซึ่งผมคิดว่าหัวหน้า ปชป.ก็ทราบดีแต่ก็พยายามจะพูดให้คนสับ สน เดี๋ยวผมจะชี้แจงให้ฟัง บทม.ได้ไปจ้างไอทีโอวงเงิน 4,335 ล้านบาท ซึ่งส่วนนี้ประกอบด้วยระบบสายพานและระบบตรวจสอบวัตถุระเบิด ซึ่งในสัญญาจะมีการไต่งวดงาน งวดที่ 1-28 งวดที่ 1 ก.ย.นั้น กำหนดไว้จ่าย 1% 43 ล้าน 1 ก.ย.46 ต้องจ่าย 43 ล้านบาท
ท่านประธานทราบไหมว่า 43 ล้านบาทไอทีโอก็ทำงานจนเสร็จเรียบร้อย ทาง บทม.ไปจ่ายเมื่อไร บทม.ไปจ่ายอีก 1 ปีให้หลัง วันที่ 17 ก.ย.47 งวดที่ 2 อีก 43 ล้านบาท จะต้องจ่าย ต.ค.46 จ่ายหลังจากนั้นอีก 11 เดือน 17 ก.ย.47 งวดที่ 3 พ.ย.46 43 ล้าน ก็ไปจ่ายหลังจากนั้นอีก 10 เดือน คือ 17 ก.ย. 47 ธ.ค.46 อีกงวดหนึ่ง ก็มาจ่าย ก.ย.อีก 9 เดือน งวดของ ม.ค.8 เดือนให้หลัง งวด ก.พ. อีก 7 เดือนให้หลัง แล้วงวดมี.ค.47 เป็นเงิน 823 ล้าน จ่ายให้ มี.ค.47 จ่าย ต.ค.47 อีก 7 เดือนให้หลัง งวด เม.ย. 86 ล้านจ่ายให้อีก 6 เดือนให้หลัง งวด พ.ค.47 งวดที่ 9 อีก 130 ล้าน ก็มาจ่ายเอาอีก 6 เดือนให้หลัง งวด มิ.ย. 47 จำนวน 216 ล้าน ก็มาจ่ายเอาเดือน พ.ย.ในงวด ก.ค.ที่ 11 อีก 130 ล้านก็มาจ่ายให้หลังอีก ส.ค.ก็จ่าย พ.ย. เพราะฉะนั้น ก.ย.ก็จ่าย ธ.ค. ถ้าจ่ายเงินลักษณะนี้ผมคิดว่าไม่ใช่เราไปเอื้อสำหรับการจ่ายเงินงวด 35 36 ที่ท่านพยายามจะบอกว่า เราไปจ่าย ทั้งที่ไม่ได้ของ กรณีซีทีเอ็กซ์กับกรณีเรือขุดแตกต่างตรงที่ว่า ซีทีเอ็กซ์ทั้ง 26 ตัวพร้อมอุปกรณ์ติดตั้งเสร็จสมบูรณ์ แพ็คลงกล่องพร้อมที่จะส่ง มายังประเทศไทยแล้ว ก่อนจะจ่ายให้ ไอทีโอ บทม.ไปตรวจดูว่ามีการทำของเสร็จยัง ท่านกำลังบอกว่าเราจ่ายเงินโดยไม่เห็นของลองคิดว่าสมัยซื้อเครื่องบินต้องจ่ายก่อนไหม ถ้าไม่จ่ายเขาจะทำให้ไหม กรณีสร้างบ้านเรา สมมติให้ผู้รับเหมาสร้างในราคา 10 ล้าน เป็นส่วนอาคาร 9 ล้าน และส่วนเฟอร์นิเจอร์ 1 ล้าน ท่านก็จ่ายล่วงหน้าไป สมมติ 6 งวดเป็นเงิน 3 ล้านบาท เสร็จแล้วท่านก็ไปในที่ดินของท่าน ท่านก็บอกว่าท่านนึกว่าจ่ายไป 6 งวด ท่านไปดูบ้าน ท่านต้องไม่เห็นเฟอร์นิเจอร์แน่นอน เพราะเฟอนิเจอร์ทำอยู่ที่ร้านเขา เพราะฉะนั้น เรื่องจัดซื้อจัดจ้างวัสดุอุปกรณ์ต่างประเทศ มันเป็นกระบวนการที่จำเป็นต้องจ่ายเป็นงวด แต่ในเรื่องปัญหาที่เกิด ความจริงถ้าไม่เกิดปัญหาชิปเมนต์ที่ว่ามาถึงเมืองไทยแล้ว แต่ประเด็นหลักนี้ที่จะทำให้ชาวบ้านสับสนถือว่าเราจ่ายเงินล่วงหน้าแต่ของไม่มา แล้วเราจะมีอะไรเป็นหลักค้ำประกัน กรณีที่ผู้รับเหมาไม่สามารถจ่ายเงินคืนได้ทำอย่างไร ทางไอทีโอมาวางแบงก์ค้ำประกันไว้ที่เราเป็นเงินทั้งหมด 433 ล้าน เป็นเงินเปอร์เฟอมอนบอล 433 ล้าน และออฟชอร์อีก 782 ล้าน รวมทั้งหมด 1,500-1,600 ล้านบาท และแถมไอทีโอเป็นบริษัทร่วมทุนของ 3 บริษัท ถ้ามีปัญหาเราจะยึดเฉพาะบอน ส่วนก่อสร้างที่ทำอยู่ใน บทม.ไม่จ่ายได้รึ เพราะฉะนั้น ประเด็นในเรื่องของว่าจ่ายไปแล้วเงินสูญ ขอให้รับว่าไม่มี ยังไงก็ไม่สูญแน่นอน ปัญหาว่าทำไมเราจ่ายในงวด ที่ทราบปัญหาอยู่แล้ว คืออย่างนี้ กรณีไอทีโอ เราจ้างให้บริษัทไอทีโอเป็นคนทำทั้งระบบ ส่วนไอทีโอจะไปจัดซื้อจัดจ้างกับใครเราไม่มีส่วนรับผิดชอบเราจะไล่เบี้ยกับไอทีโอ เรามีสัญญาผูกพันกับไอทีโอว่า เราต้องมีกำหนดงวดงานที่ต้องจ่ายเมื่อไร กรณีไอทีโอยังไม่ได้บอกว่ามีปัญหากับเรา ถ้าเรายุติการจ่ายเงินความรับผิดชอบของไอทีโอจะหมดไปเลย โดยเฉพาะผมขอเรียนให้ที่ประชุมแห่งนี้ทราบ โครงการติดตั้งระบบสายพาน ที่เราพูดว่ามันแพงถ้าผมพูดแล้วจะหาว่าทางผมเห็นใจผู้รับเหมา ในข้อเท็จจริงบริษัทก่อสร้างนั้น ในรายการนี้แทบไม่มีกำไร เพราะเขาไปจ้างระบบสายพานนี้ต่อให้กับคาวาซากิ ซึ่งเป็นผู้ผลิตให้เขา เมื่อจ้างไปที่คาวาซากิเอง ปรากฏว่าตอนคำนวนราคา เขาคิดว่าเป็นสายพานที่ไม่ได้ยุ่งยากมาก แต่พอสั่งทำจริงๆ พอคิดเงิน คาวาซากิขึ้นราคามาเกือบ 40-50% ทำให้ตั้งแต่ตอนติดตั้งสายพานมีความล่าช้าตลอด เพราะฉะนั้น ส่วนไอทีโอเองนั้นเป็นส่วนซึ่งการเกิดปัญหา ทางไอทีโอถ้าพูดกันตรงๆ อาจค่อนข้างดีใจ เพราะจะได้มีโอกาสใช้ข้ออ้างตรงนี้ ทำให้เวลามีการคิดค่าปรับเวลาไม่เสร็จงาน ในส่วนนี้ไอทีโอดีเลย์ไปพอสมควร เกิดจากการตกลงราคากับทางด้านคาวาซากิไม่ได้ ท่านรองไปสอบถามสมาชิกฝ่ายค้านหลายท่าน ท่านรู้จักเจ้าหน้าที่ บทม.เป็นอย่างดี บางท่านก็ได้โทรศัพท์ไปขู่เข็ญ ขู่เจ้าหน้าที่ตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา ท่านไปถามได้ว่าจริงหรือไม่จริง เพราะฉะนั้นตามที่ของเรา เรายังรับผิดชอบจ่ายเงินตรงเวลา เป็นการรักษาผลประโยชน์ของเรา ถ้าไอทีโอทำไม่ตามกำหนดเรื่องนี้ก็ไม่ใช่ความผิดเรา ทาง บทม.ไม่เคยมีส่วนรับรู้กับแพทริออต ไม่ได้เป็นคู่สัญญากับแพทริออต ไม่ได้เป็นคู่สัญญาอินวิชั่น คนที่เสียหายจากรายการนี้ก็จะต้องเป็นไอทีโอในกรณีที่บริษัท แพทริออต เอาเงิน 600 กว่าล้านไปใช้จ่าย ผมสอบถามไอทีโอว่า มีการจ่ายแล้วมีการวางค้ำประกันอย่างไร ทางแพทริออตเอาแบงก์ค้ำประกันมาไว้อยู่ 200 ล้านบาท ยังไม่พอ ทางไอทีโอได้แจ้งให้แพทริออตกับอินวิชั่นว่า อินวิชั่น เมื่อคุณยืนยันว่าคุณต้องการให้แพทริออตเป็นตัวแทนจำหน่ายของคุณ ทางไอทีโอไม่ค่อยเชื่อใจแพทริออต แต่เนื่องจากเป็นสัญญาระหว่างแพทริออตกับอินวิชั่นว่าจะเป็นตัวแทนจำหน่ายกันทางไอทีโอ บอกว่าถ้าอย่างนั้นอินวิชั่นกรุณาเอาแบงก์ค้ำประกันมาวางไว้อีก 200 ล้านบาท ก็เป็น 400 ล้านบาทแล้ว คือไอทีโอถ้าเกิดมีปัญหาในเรื่องของการจ่ายเงินให้แพทริออต แล้วเสียหายไอทีโออย่างน้อยได้ 400 ล้านบาทเก็บไว้แล้วยังมีงานส่วนหนึ่งที่แพทริออตทำไว้ที่หน้างานในที่สุวรรณภูมิแล้ว ก็มีส่วนหนึ่งได้มีการช็อปด้อยอิงส่งไปเยอะพอสมควร
ดังนั้น ผมขอกราบเรียนท่านประธานว่า ตอนนี้พี่น้องประชาชนสับสน และอาจจะเข้าใจผิดคิดว่าเงินส่วนที่ทางบริษัท แพทริออต เอาไปใช้จ่าย เอาไปซื้อลีลาวดีอะไรก็แล้วแต่ คิดว่าเป็นเงินส่วนของราชการอันนี้ไม่ใช่ ถ้ามีปัญหาขึ้นมาทุกบาททุกสตางค์ บริษัท อิตัลไทยทาเกนากะ และโอบายาชิ จะต้องรับผิดชอบ ไม่มีความสับสนแน่นอนในส่วนนี้ ท่านไม่ต้องห่วงอีกประเด็นท่านประธาน ขออนุญาตชี้แจงเกือบลืมประเด็นสำคัญ ที่จะต้องขอจับโกหกกันอีก
ท่านประธานเห็นไหมครับ นี่คือสารพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมีหม่อมราชวงศ์เสนี ปราโมช ปราฏอยู่ในภาพนี้ ผมขออนุญาตอ่านข้อความ ในสารพรรคประชาธิปัตย์ “สุริยะ” ยืนยันไม่มีการทุจริต “ซีทีเอ็กซ์” พร้อมโชว์ผลสอบจาก ก.ยุติธรรมสหรัฐฯ การันตี "จีอีฯ" ไร้โกง เย้ยฝ่ายค้านงัดข้อมูลชิ้นโบแดง-แค่เอกสารธรรมดา โบ้ยการงดใช้วิธีการจัดซื้อจัดจ้างมีขึ้นในสมัยพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล นายถาวร เสนเนียม รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการคมนาคม ได้เปรียบเทียบเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดซีทีเอ็กซ์ 9000 กับเครื่องยี่ห้อแอล 3 เอ็กแซมมิเนอร์ 6500 ซึ่งองค์กรเพื่อรักษาความปลอดภัยทางคมนาคมของสหรัฐฯ รับรองทั้ง 2 ยี่ห้อ พบว่า คุณภาพเครื่องแอล 3 กับเครื่องซีทีเอ็กซ์ 9000 มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกัน แต่ราคาถูกกว่ากันเท่าตัว โดยเครื่องแอล 3 ซื้อได้ในราคาเครื่องละ 880,000 เหรียญสหรัฐ ขณะที่ เครื่องซีทีเอ็กซ์ 9000 ราคาสูงถึงเครื่องละ 1.6 ล้านเหรียญสหรัฐ หากเปรียบเทียบรายละเอียดด้านเทคนิค เช่น น้ำหนัก เครื่องซีทีเอ็กซ์ หนัก 7.7 ตัน ขณะที่เครื่องแอล 3 หนัก 4.40 ตัน ทำให้ บทม.ต้องจ้างไอทีโอเสริมคานด้วยวิธีพิเศษอีก 900 ล้านบาท ส่วนสายพานใช้ขนาด 1 เมตรเท่ากัน เครื่องซีทีเอ็กซ์ตรวจสอบกระเป๋าได้ 450 ชิ้นต่อชั่วโมง ส่วนเครื่องแอล 3 ตรวจสอบได้ 600 ชิ้นต่อชั่วโมง เครื่องซีทีเอ็กซ์สแกนกระเป๋า มีความยาวเพียง 1.397 เมตร ขณะที่เครื่องแอล 3 รับได้ถึง 2.5 เมตร นอกจากนี้เครื่องซีทีเอ็กซ์รองรับน้ำหนักได้ 50 กิโลกรัม เครื่องแอล 3 รองรับได้ถึง 130 กิโลกรัม ซึ่งขัดกับสิ่งที่นายกรัฐมนตรีพูดว่า คุณสมบัติซีทีเอ็กซ์ 9000 ดีที่สุด หากใช้เครื่องแอล3 จะประหยัดค่าใช้จ่ายถึง 30 เปอร์เซ็นต์
ท่านประธานครับ เมื่อการอภิปรายคราวที่แล้ว ตอนผมชี้แจงตอนถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ผมได้กล่าวหาพรรคประชาธิปัตย์ว่าจับแพะชนแกะ อันนี้ชัดเจน ออกไปเมื่อ มิ.ย.นี่แหละครับจับแพะมาชนแกะอีกแล้ว ทั้งๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่าตอนที่ บทม.ดำเนินการพิจารณาจัดซื้อเครื่องซีทีเอ็กซ์ 9000 นั้น รุ่นแอล 3 เอ็กซ์ไมเนอร์ 6500 ยังไม่มีในโลกนี้เพิ่งกำลังจะออกมาแล้วท่านมาเปรียบเทียบว่า รุ่นนี้ดีกว่าซีทีเอ็กซ์ทำไมถึงไม่ซื้อ แล้วทำไมเปรียบเทียบท่านยังใช้ข้อมูลบิดเบือน ท่านบอกว่าแอล 3 เครื่องใหม่ซื้อได้ในราคา 8.8 แสนล้านเหรียญ ขณะที่เครื่องซีทีเอ็กซ์ สูงถึง 1.6 ล้านเหรียญ ซึ่งความจริงซีทีเอ็กซ์ท่านก็ทราบอยู่แล้วว่า เราซื้อมาในราคาเพียง 1.3 ล้านเหรียญ แต่ก็จงใจบิดเบือนแล้วท่านทราบมั้ยครับว่าเมื่อเร็วๆ นี้เอง วันที่ 20 พ.ค. 2005 กับ 19 พ.ค. 2005 ทางทีเอสเอยังไปซื้อเครื่องแอล 3 รุ่นเก่าอยู่เลยครับ พ.ค.ยังซื้อเครื่องเก่าอยู่เลย ซื้อไปจำนวน 32 เครื่อง แล้วเห็นมั๊ยครับว่า ทางทีเอสเอ วันใกล้เคียงกันก่อนหน้านี้ 1 วัน พ.ค. 19 เดือนที่แล้ว ก็ซื้อซีทีเอ็กซ์ จำนวน 42 เครื่อง ราคา 1.2 ล้านเหรียญ ท่านเห็นมั๊ยครับราคามองแล้วแพงกว่าแต่ซื้อมากกว่าอย่างนี้ถ้าอยู่เมืองไทยจะต้องถูกพรรคประชาธิปัตย์เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจและยื่นตรวจสอบให้ ป.ป.ช.ทุจริตแน่นอน แพงกว่า ซื้อทำไม สิ่งเหล่านี้เลยที่ทำให้ประชาชนสับสน แล้วก็บอกว่าถ้านักธุรกิจลงทุนจะขาดความเชื่อมั่นก็เพราะระบบใส่ร้ายป้ายสี จับแพะชนแกะ ซึ่งผมหวังว่าท่านหัวหน้าพรรคซึ่งเป็นคนน้ำดี ได้โปรดกรุณาช่วยๆ กันล้างวัฒนธรรมนี้ออกไปด้วย เพราะผมคิดว่า ถ้าท่านคิดว่าพรรคซึ่งเก่าแก่มา 50 ปี ข้อมูลที่จะมาลงในนี้ควรจะเป็นข้อมูลซึ่งไม่สร้างความสับสน ควรจะพูดความจริง ผมขอจับโกหกต่อไปอีก ที่ท่านบอกว่า ทาง บทม. เพราะเครื่องซีทีเอ็กซ์หนักมาก จะต้องไปทำเสริมคานด้วยวิธีพิเศษอีก 900 ล้านบาท ของเราไปทำแท่นรองแค่ 120 หรือ130 ล้านบาทเท่านั้น ท่านก็โกหกไปอีก 7 เท่า อย่างนี้ประชาชนจะสับสนไหม เพราะฉะนั้น สิ่งที่ท่านอภิปรายมาตั้งแต่ตอนเช้าหลายๆ ประเด็น ผมเองฟังดูแล้วข้อมูลไร้น้ำหนักเลยครับ แล้วไร้น้ำหนักจริงๆ แต่เดี๋ยวผมจะขอเวลาดำเนินการไปรวบรวมข้อมูลที่จะอธิบาย แล้วสามารถอธิบายให้กับพี่น้องประชาชนฟังเพื่อความไม่สับสนในช่วงแรกนี้ผมขอกราบเรียนชี้แจงข้อมูลที่เป็นจริงให้ท่านทราบเพียงเท่านี้ก่อน ซึ่งเพียงแค่นี้ก็สามารถจับโกหก และจับการใช้ข้อมูลเท็จ ของท่านสมาชิกพรรคฝ่ายค้านได้หลายประเด็นแล้ว
ท่านประธานครับ เพียงแค่ประเด็นเล็กๆ น้อยๆ ถ้อยคำไม่กี่ถ้อยคำ ท่านก็บิดเบือนเสียแล้ว แล้วเรื่องใหญ่ๆ ที่ท่านจะพูดต่อไป ผมจะมั่นใจได้อย่างไรว่าท่านจะไม่บิดเบือนอีก ท่านประธานครับ วันนี้เราจะต้องเสียเวลากันทั้งวัน ผมอยากจะชี้แจงข้อกล่าวหา อยากจะตอบคำถาม ตอบข้อสงสัยที่ไม่เข้าใจ ที่ประชาชนไม่เข้าใจซึ่งผมมั่นใจผมตอบได้ทุกคำถาม อาจมีบางคำถามที่ผมตอบไม่ได้ ถ้าท่านไปเอาข้อมูลเท็จ มากล่าวหาผม เพราะผมไม่รู้จะตอบอย่างไร นอกจากจะตอบว่าท่านพูดเท็จเท่านั้นไหนๆ เราก็ต้องเสียเวลากันทั้งวันแล้ว ประชาชนก็ต้องเสียเวลาฟังท่านถาม ผมตอบ ผมอยากจะให้เกิดประโยชน์กับประชาชนมากที่สุดไม่อยากให้ประชาชนผิดหวัง แทนที่จะได้ฟังเนื้อหาสาระ กลับต้องมาดูท่านอภิปรายด้วยเอกสารเท็จ และผมก็ต้องมานั่งจับโกหกเพราะฉะนั้น ประเด็นที่ท่านจะนำเสนอต่อจากนี้ไป ผมขอให้ท่านเอาพยานหลักฐานที่เป็นของจริงยืนยันได้ อ้างอิงได้ แหล่งที่มาที่ไป ที่ผมต้องพูดเช่นนี้เพราะก่อนจะเปิดอภิปรายในวันนี้ผมได้ยิน ได้เห็นท่านสมาชิกฝ่ายค้านบางท่านใช้เอกสารเท็จไปสัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ไปบอกกับประชาชน ก็อยากจะขอร้องไว้อย่าเอาเรื่องเท็จมาพูดซ้ำในสภามันเสียเวลาครับ เอาเรื่องจริงมาพูดกันดีกว่า เพื่อที่การอภิปรายในวันนี้จะเกิดประโยชน์กับประชาชนสูงสุด ขอบคุณครับ”
-----------------------------------------------------------------
โดย คุณหนูเอง
ที่มา
เวปประชาไทวันที่ 15 มกราคม 2550
แหล่ง ข่าวจากกระทรวงฯ แฉในเน็ต โดยกล่าวว่า คตส.มั่วข้อมูลเรื่องซีทีเอ๊กซ์ สืบค้นข้อมูลมาสี่เดือน หาความผิดปรกติอะไรไม่พบ เตรียมเดินเกมกลบเกลื่อน บีบหน่วยงานรัฐฟ้องกันเองแล้วเผ่น
คนในกระทรวงทนไม่ไหว สื่อฯและคนไทยชั่วๆ บางคน สร้างความปั่นป่วนข้า ราชการกระทรวงแห่งหนึ่ง ใช้นามว่า "คุณหนูเอง" สุดทนกับความอยุติธรรมที่เกิดขึ้น จนต้องออกมาแฉเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับเครื่องซีทีเอ๊กซ์ หรือเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด ที่สื่อชั่วๆ และคนไทยเลวๆ บางคนพยายามตีแผ่ สร้างความเข้าใจผิดให้เกิดขึ้นแก่สังคม สุดท้ายสร้างเงื่อนไข จนก่อให้เกิดการยึดอำนาจและทำรัฐประหารในท้ายที่สุด
อธิบายอย่างสรุป ด้วยข้อมูลเชิงลึกจากกระทรวงฯแหล่งข่าวอธิบายด้วยการปูเรื่องดังกล่าว ด้วยการอธิบายแบ่งเป็น 6 ข้อดังนี้: -
1. สัญญาที่มีถูกกล่าวหาไม่ใช่สัญญาซื้อซีทีเอ๊กซ์ แต่เป็นสัญญาจ้างทำระบบสายพานพร้อมติดตั้งเครื่องตรวจสอบระเบิด โดย CTX 9000 เป็นองค์ประกอบส่วนหนึ่งภายในระบบ (เหมือนสร้างบ้าน แล้วเครื่องแอร์เป็นองค์ประกอบหนึ่ง)
2. ปัญหาของบริษัท อินวิชั่น กับกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เกิดเพราะบริษัทไม่มีระบบตรวจสอบภายใน เป็นที่เชื่อว่า อาจมีการเตรียมงบประมาณเพื่อให้เงินตอบแทนฝ่ายไทย แต่สุดท้ายอัยการสูงสุดไทยส่งเรื่องไปถามต่อกระทรวงยุติธรรม ประเทศสหรัฐฯ และได้คำตอบกลับมาว่า
"ไม่พบมีการให้สินบนใดๆ เกิดขึ้น"3. เรื่องนี้ถูกจับเป็นเรื่องการเมือง เพราะฝ่ายค้านหลงเข้าใจผิด คิดว่าอิตาเลียนไทย (ITO) ผู้รับเหมาซื้อซีทีเอ๊กซ์ 26 ตัวในราคา 1,504 ล้าน แต่กลับมาขายแพงโก่งราคากินส่วนต่างให้บทม. ถึง 2,608 ล้านบาท แต่ในความเป็นจริงแล้ว จำนวนเงิน 2,608 ล้านบาทกลับกลายเป็นราคาระบบสายพานทั้งระบบ โดยแหล่งข่าวอธิบายเปรียบว่า "เหมือนบอกผู้รับเหมาซื้อแอร์ราคา 1,504 บาท ทำไมมาคิดเจ้าของตั้ง 2,608 บาท ทั้งที่ความจริง 2,608 บาท คือ ราคาตัวบ้านทั้งหมด"
4. ต่อมากระทรวงยุติธรรมและบริษัทจีอีอินวิชั่น ได้ประณีประนอมยุติคดี โดยตกลงว่า จีอีอินวิชั่นจะไม่ยอมขาย CTX แก่เอกชน จะขายตรงให้แก่หน่วยราชการไทยเท่านั้น คือ บทม.
5. ITO ซึ่งเป็นผู้รับเหมา ประสบปัญหาซี้อ CTX ไม่ได้ ก็ขอให้ผู้ว่าจ้างช่วย เพราะผู้ขายบอกว่าจะขายแก่ บทม. เท่านั้น
6. บทม. มีทางเลือก ๓ ทาง คือ
-
เพิกเฉยต่อคำขอ ทำให้ผู้รับเหมา ITO ไม่สามารถซื้อ CTX ได้ตามสัญญา เมื่อถีงวันส่งงานระบบสายพาน ส่งไม่ได้ ก็ปรับ ITO และยกเลิกสัญญา แล้ว หาผู้รับเหมาใหม่มาทำต่อ (หมายเหตุ เลิกสัญญาทันทีไม่ได้ เพราะยังไม่ถึงกำหนดส่งระบบสายพาน และ ITO ยังไม่ได้ผิดสัญญา ผลคือ งานก่อสร้างอื่นๆที่เกี่ยวพันกันจำนวนมากทำต่อไม่ได้ สนามบินจะเสร็จล่าช้าเป็นปีๆ)
-
เปลี่ยนยี่ห้อเครื่องตรวจจับระเบิดใหม่ (เปลี่ยนแอร์) สมัยนั้นมีเพียง 2 ยี่ห้อ คือ ของ INVISION กับของ L3 บทม.พิจารณาแล้ว ทำไม่ได้ เพราะโครงสร้างรองรับ รวมทั้งขนาดสายพานทางเข้าทางออก ผู้รับเหมาได้สร้างตามเสปค CTX ไปหมดแล้ว พื้นที่ก็จำกัด จึงทำตามเสปคของ L3 ไม่ได้
-
บทม.ยอมช่วยเหลือ ITO เป็นการแก้ไขปัญหา แทนที่จะลอยตัวปล่อยให้งานล่าช้าจนเปิดสนามบินตามกำหนดไมได้ (ความเสียหายต่อประเทศจะมากกว่าจนเทียบกันไม่ได้) โดย บทม.ช่วยเป็นผู้สั่งซื้อ CTX ให้ แต่ ITOต้องยอมทำสัญญากับ บทม.ว่า ยังต้องมีความรับผิดชอบต่อการติดตั้ง การเชื่อมระบบ และถ้าเกิดมีความล่าช้า ก็ยังต้องรับผิดชอบเหมือนเดิม
คตส.หาจุดผิดที่เคยโดนสื่อและฝ่ายค้านหลอกไม่เจอ สุดท้ายจะหาเรื่องรังแก คนดีและคนทำงานด้วย ความเป็นธรรม ถ้าท่านอยากให้บ้านเสร็จทันเวลาเข้าไปอยู่ ท่านจะไม่เลือกวิธี ๓ หรือ? ข้อกล่าวหาปัจจุบันกลับไม่ใช่เรื่องความต่างของราคา เพราะตรวจตัวเลขและสัญญา ก็รู้ทันทีว่า เป็นเรื่องเข้าใจผิด เอาราคาค่าจ้างทั้งระบบไปเปรียบเทียบกับราคาอุปกรณ์เดียว แต่กลับไปกล่าวหาเรื่องอื่น ดังนี้ : -
(๑) ทำไมต้องเปลี่ยนจากระบบ x-ray ธรรมดาเป็นระบบ inline-screening (คือกระเป๋าถูกตรวจระหว่างเดินผ่านสายพานโดยอัตโนมัติ) ซึ่งเป็น requirement ของ ICAO (องค์การการบินพลเรือนระหว่างชาติ)
(๒) ทำไมไปทำสัญญาอำพราง เพื่อช่วย ITO ในการซื้อตรง ทั้งที่เป็นแค่ซื้อในนาม (เหตุผลง่ายๆ คือ เป็นการแก้ไขปัญหาโดยเอาผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นที่ตั้ง)
ที่กล่าวหาว่าเป็นนิติกรรมอำพราง อำพรางอะไร หรือว่ากล่าวหามั่วคตส. ชี้ข้อมูลซื้อตรงที่ บทม. ช่วย ITO ซึ้อให้ ว่า เป็นนิติกรรมอำพราง คำว่าอำพราง หมายความว่าอะไรคะ หมายความว่า หลอกคนอื่นใช่ไม้คะ อำพรางใครคะ? อำพรางคนไทยด้วยกัน ก็ไม่ได้อำพรางอะไร เพราะทำอย่างเปิดเผย ทุกคนก็รู้ว่า บทม. ช่วยซื้อให้แต่ในนาม เพื่อผูกมัดให้ ITO ต้องรับผิดชอบในการติดตั้ง การเชื่อมระบบ การใช้งานทุกอย่างเหมือนเดิม เรื่องนี้ ก็ไม่ได้ทำกันเป็นความลับอะไร
อำพรางสหรัฐฯ ก็ไม่ได้อำพราง เพราะในสัญญาที่ บทม. ทำกับจีอีอินวิชั่น บอกไว้อย่างชัดเจนว่า บทม. จะชำระเงินให้จีอีอินวิชั่น ผ่านทาง Main Contractor คือ ITO ซึ่งจีอีอินวิชั่นจะต้องนำไปแสดงต่อกระทรวงยุติธรรม สหรัฐฯเขาก็รู้ deal นี้ ทุกประการ ถ้าเขาไม่เห็นด้วย เขาก็ต้องระงับการส่งสินค้าแล้ว เพราะ CTX จัดเป็นสินค้า security การขาย จะต้องให้รัฐบาลเขาอนุมัติ
พวกปั่นเรื่องไม่ดูสถานการณ์ อ้าง"แล้วที่บอกซื้อตรงทำไมราคาไม่ถูกลง" คำ ตอบคือ สัญญาที่ บทม. ทำกับ ITO เป็นสัญญาจ้างทำระบบ ซึ่งรวม CTX อยู่ด้วย ราคาทั้งระบบเป็น lumped sum เหมือนเราสร้างบ้าน เจ้าของอยากได้แอร์ยี่ห้อหนึ่ง บอกผู้รับเหมาว่า ให้คิดราคาทั้งหมด ซึ่งมีรายการของแอร์ยี่ห้อดังนี้ด้วย ผู้รับเหมาก็คิดราคามา รวมราคาแอร์ยี่ห้อนี้เข้าไป เจ้าของตรวจสอบแล้ว ก็ตกลงตามราคาเหมา ซึ่งรวมแอร์ตัวดังอยู่ด้วย วันดีคืนดี ผู้รับเหมาไปมีปัญหากับตัวแทนที่ขายแอร์ เจ้าของแอร์ชื่อดังก็ตัดตัวแทนที่ขายแอร์ออกไป และบอกกับผู้รับเหมาว่า อั๊วไม่ขายให้ผู้รับเหมาแล้ว โครงการนี้ ถ้าอยากซื้อต้องให้เจ้าของบ้านเป็นคนมาซื้อเอง ในราคาเดิม เจ้าของแอร์ก็วิ่งไปบอกเจ้าของบ้านว่า แอร์ยี่ห้อดังนี้ มันไม่ยอมขาย มันบอกถ้าจะซื้อ เจ้าของต้องไปซื้อเอง และจะขายในราคาเดิมเท่านั้น
เจ้าของบ้าน มีทางเลือก 3 ทาง คือ
(1) บอกกับผู้รับเหมาว่า เป็นเรื่องของเอ็ง ถ้าเองหาแอร์ตัวดังให้ข้าตามสัญญาไม่ได้ ฉ้นจะเลิกสัญญากับแก และจะปรับตามสัญญา ถ้าเจ้าของบ้านเลือกทางนี้ ก็ต้องรออีกหลายเดือน จนครบกำหนดส่งบ้านตามสัญญา ถึงเลิกสัญญาได้ และให้คนอื่นมาทำได้ อ้าว.. แล้วเราจะไปอยู่ที่ไหนเนี่ย บ้านก็กำลังถูกไล่ ทางเลือกนี้จึงไม่มีผลดี
(2) ให้ผู้รับเหมา ไปหาแอร์ยี่ห้ออื่น ยี่ห้อดังเทียบเท่ามีอีกยี่ห้อเดียว แต่ขนาด วิธีการติดตั้ง สายน้ำเข้าออก มันต่างกันโดยสิ้นเชิง ผู้รับเหมาเขาทำส่วนรองรับไปหมดแล้ว เอาสิ ถ้าเลือกวิธีนี้ ก็ต้องรื้อแล้ว ทำใหม่หมด แล้วใครจะรับผิดชอบละ ในเมื่อเจ้าของบ้านยินยอมให้เปลี่ยนยี่ห้อแอร์ได้ รับรองทางเลือกนี้ บ้านไม่เสร็จทันกำหนดแน่
(3) ช่วยผู้รับเหมา โดยให้ยืมชื่อไปซื้อแอร์ยี่ห้อดัง ยอมลงนามในสัญญาซื้อตรงกับเจ้าของแอร์ โดยให้ผู้รับเหมาจ่ายตังค์ให้ เจ้าของแอร์เขาก็รู้นี่ ว่าใครจ่ายตังค์ ก็ไม่เห็นเขาโวยวายอะไรว่า หลอกกันนี่ เจ้าของบ้านรอบคอบ บอกกัยผู้รับเหมาให้มาทำสัญญาอีกฉบับนะ ว่า ถ้าฉันซื้อให้แก แล้วแกก็ยังมีหน้าที่รับผิดชอบติดตั้ง ต่อสายไฟสายน้ำ และถ้ามีปัญหา หรือ ล่าช้า จะนำการซื้อตรงมาเป็นข้ออ้างไม่ได้นะ ผู้รับเหมาตกลง
ถ้าเป็น คุณ ที่ต้องการให้บ้านเสร็จทันกำหนด คุณจะเลือกทางไหนหรือ ส่วนราคาทำไมไม่ลดลง เพราะในสถานการณ์ขณะนั้น คนขายมี power มากกว่าคนซื้อ เขาไม่ขายแพงกว่าเดิม ก็ถือว่าบุณหนักหนาแล้ว แล้วอย่างนี้ คุณจะว่า เจ้าของบ้านทำนิติกรรมอำพรางหรือไม่?
เทียบราคาซื้อของไทยและจีนถ้าเทียบราคาของเครื่อง CTX ที่ประเทศไทยซื้อ กับที่ประเทศจีนซื้อ ตามที่ปรากฏในเอกสารของกระทรวงยุติธรรม(รูปใน คห 1 ในกระทู้
พันทิพประเทศจีน ซื้อ เครื่อง CTX9000 จากอินวิชั่น 2 ตัว ราคา 2.8 ล้านหรียญ หรือราคาตัวละ 1.400 ล้านเหรียญ
ประเทศไทย ซึ้อ เครื่อง CTX9000 จากอินวิชั้น 26 ตัว ราคา 35.8 ล้านหรียญ หรือราคาตัวละ 1.376 ล้านเหรียญ
ไทยซื้อ CTX 9000 ถูกกว่า ที่จีนซื้อ เป็นส่วนต่างเท่ากับ 0.634 ล้านเหรียญ = 25 ล้านบาท
สรุปสุดท้าย การเมืองของฝ่ายค้านและพันธมิตรฯทำให้บ้านเมืองพังอย่าง ที่หนูเองบอก ประเด็นที่ทำให้พรรคฝ่ายค้านตาลุกวาว คือ คิดว่า ITO (ผ่านทางผู้รับเหมาย่อย คือ Patriot) ซิ้อ CTX 26 ตัวราคา 35.8 ล้านเหรียญ หรือ 1,504 ล้านบาท แล้วทำไมมาขาย บทม. ถึง 2,608 ล้านบาท ทำไมกำไรมากมายก่ายกองอย่างนี้ แล้วเอาส่วนต่างไปให้ใครหรือเปล่า ทั้งที่ 2,608 ล้านบาท เป็นราคาของระบบสายพานทั้งระบบ
เรื่องนี้ที่หนูเอง ทนไม่ได้ จึงต้องนำมาอธิบายอีกครั้ง เพราะอยู่กระทรวง ถึงไม่มีส่วนเกียวข้อง แต่ก็มีโอกาสได้ติดตามข้อมูล และรู้สึกว่า ฝ่ายที่ถูกชี้มูล ได้รับความไม่เป็นธรรมอย่างยิ่งยวด ไม่เคยเห็นความไม่เป็นธรรมแช่นนี้มาก่อน เพราะสังคมถูกปั่นหัวโดยไม่มีข้อเท็จจริงว่า พอพูดถึง CTX คือ การโกงระดับชาติ
สาธารณชนลองคิดดู ถ้าผิดเต็มตาอย่างที่ว่า ข้อมูลทุกอย่างก็อยู่ในอำนาจของคมช. หาได้หมด ทำไมยังใช้เวลาตั้งสามสี่เดือน แล้วเมื่อผิดหวัง ก็หาทางออก โดยการชึ้มูลด้วยการเหวี่ยงแหไปก่อน อย่างที่ท่านรองอัยการสูงสุดร้องหาความยุติธรรมดังกล่าว ทั้งๆ ที่ท่านเป็นนักกฏหมายมือฉมังในประเทศไทยเอง
อ่านเพิ่มเติม :
http://www.sec.gov/litigation/complaints/comp19078.pdfhttp://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P5048375/P5048375.html
ที่มา http://thaienews.blogspot.com/2007/01/blog-post_6786.html
-----------------------------------------------------------------
5 พฤศจิกายน 2551
ทีมข่าวไทยอีนิวส์
6 พฤศจิกายน 2551
จาก ที่เคยได้รับรางวัลข่าวยอดเยี่ยมปี 48 จากหัวข้อข่าว "ข่าวผ่าขบวนการคอร์รัปชั่น ...สินบนข้ามชาติซีทีเอ็กซ์" หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจในเครือเนชั่นฯ ต้องมาลงข่าวแสดงการขอโทษ พร้อมทั้งชี้แจงข้อเท็จจริง หลายประเด็น
หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ หนึ่งในหนังสือพิมพ์เครือเดอะเนชั่นกรุ๊ป ตีพิมพ์คำขอโทษอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 22 ก.ย. 51 ในกรณีที่ได้แสดงความเท็จ กล่าวหาว่ามีการทุจริตคอรัปชั่นการจัดซื้อเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด CTX เพื่อใช้ติดตั้งในสนามบินสุวรรณภูมิ การตีพิมพ์ข่าวเท็จดังกล่าวนอกจากจะทำให้เกิดความเสียหายต่อบริษัท แพทริออท บิซิเนส คอนซัลแตนส์ จำกัด และนายวรพจน์ ยศะทัตต์ หรือเสียเชแล้ว บรรดาพันธมิตรฯและสมุนของกลุ่มอำมาตยาธิปไตย ยังได้ใช้เรื่องดังกล่าวโจมตีรัฐบาลในขณะนั้น และทำโพรพาแกนด้าสร้างเงื่อนไขในการทำรัฐประหารรัฐบาลประชาธิปไตยอีกด้วย
เปิดปูมประกาศชี้แจงกรณีซีทีเอ็กซ์ของกรุงเทพธุรกิจ
ในประกาศลงวันที่ 22 ก.ย. (
ลิงก์) ของหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ มีเนื้อหาคร่าวๆที่เราจะสรุปดังนี้
1. กรุงเทพธุรกิจยอมรับว่าได้เสนอข่าวกรณี CTX ผิดพลาดจริง และขอโทษเสี่ยเชและบริษัท
2. เคยระบุว่าเสี่ยเชเป็นนายหน้า ค้ากำไรเครื่อง CTX เกินจริงกว่าพันล้านบาท อีกทั้งใส่ความว่าได้ให้ค่าคอมมิชชั่นกับนักการเมือง แต่วันนี้ยอมรับว่าเสี่ยเชไม่ได้เป็นนายหน้า การค้ากำไรเกินควร รวมถึงเรื่องใต้โต๊ะคอรัปชั่นต่างๆ ที่กล่าวหาไป ล้วนเป็นเรื่องที่ใส่ความเขา
3. ยอมรับว่า เข้าใจตัวสัญญาผิด โดยเฉพาะที่เคยระบุว่างานทั้งระบบสี่พันกว่าล้านบาท ซึ่งในความเป็นจริงเป็นงานรวมการติดตั้งและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ไม่ใช่เฉพาะตัวเครื่อง
4. แปลข้อความของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯผิดหลายประการ จนไปกล่าวหามั่วๆ ว่ามีการคอรัปชั่น
5. ยอมรับว่าไม่มีสินบนใดๆ เกิดขึ้น ตามที่หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจเคยนำเสนอ
อ่านหนังสือชี้แจงฉบับเต็ม
ประกาศชี้แจงกรณีซีทีเอ็กซ์
หนังสือ พิมพ์รายวันกรุงเทพธุรกิจ และนายจักรกฤษ เพิ่มพูน โดยตำแหน่งบรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา ใคร่ขอโทษ บริษัท แพทริออท บิซิเนส คอนซัลแตนส์ จำกัด และนายวรพจน์ ยศะทัตต์ หรือที่เรียกในข่าวว่า "เสี่ยเช" ที่ได้เสนอข่าวผิดพลาดเกินความจริง จนทำให้เกิดความเสียหายต่อกิจการ และชื่อเสียง จากการที่หนังสือพิมพ์รายวันกรุงเทพธุรกิจ และจากเว็บไซต์ www.bangkokbiznews.com/2005/special/ctx ของหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ได้ตีพิมพ์ข่าวและวิเคราะห์ข่าวในวันที่ 25 เมษายน 14 พฤษภาคม และ 16 พฤษภาคม 2548 เป็นต้น ได้ลงข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์และเว็บไซต์อย่างต่อเนื่อง อันเป็นความเข้าใจผิดและวิเคราะห์ข่าว หรือสรุปข่าวคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง ได้ข้อเท็จจริง บริษัท แพทริออท บิซิเนส คอนซัลแตนส์ จำกัด เป็นผู้รับเหมาช่วงงานจัดซื้อและติดตั้งเครื่องตรวจวัตถุระเบิดทั้งระบบ คือ บริษัท แพทริออท ไม่ใช่บริษัทนายหน้า รับงานมูลค่า 2,003 ล้านบาท และมูลค่าของเครื่อง CTX9000Dsi จำนวน 26 เครื่อง มีมูลค่า 1.43 พันล้านบาท หรือ 35.81 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นเพียงส่วนหนึ่งของงานติดตั้งที่บริษัทแพทริออทได้รับงานเท่านั้น โดยมีบริษัทผู้รับเหมาช่วงอื่นรับงานระบบสายพานลำเลียงอีก 2,300 ล้านบาท รวมงานทั้ง 2 ระบบเป็นมูลค่างานรวมเป็นเงิน 4.3 พันล้านบาท ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่บริษัทแพทริออท จะได้ผลกำไรถึงกว่า 1,000 หรือ 2,000 ล้านบาท จากที่มีกำไรเพียง 3.15% ต่อเครื่อง หรือ 52 ล้านบาท ตามที่นายวรพจน์ หรือเสี่ยเช ได้ลงข่าวในวันที่ 11 มิถุนายน 2548
และ จากการแปลเอกสารมีความคลาดเคลื่อนในการแปลเอกสารการสืบสวนของกระทรวง ยุติธรรม สหรัฐ ที่สรุปว่า บริษัทอินวิชั่น มีความเป็นไปได้อย่างสูง มิใช่ยอมรับว่ามีการจ่ายเงินให้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐและบุคคลในพรรคการเมือง ของไทย ในการขายอุปกรณ์ตรวจสอบวัตถุระเบิดภายในท่าอากาศยาน และยังแปลคลาดเคลื่อน คำว่า Distributor ที่แปลว่า ตัวแทน ผู้ค้าส่ง หรือผู้จัดจำหน่าย เป็นบริษัทนายหน้า ทำให้บริษัทแพทริออทกลายเป็นบริษัทนายหน้า ที่แปลว่าบุคคลผู้ชี้ช่องหรือจัดการให้บุคคล 2 ฝ่ายได้เข้าทำสัญญากัน ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ปี 2542 ต่างจากสถานะบริษัทแพทริออทเป็นผู้รับเหมาช่วง ซึ่งจะต้องดูแลรับผิดชอบจัดซื้อและติดตั้งเครื่องตรวจวัตถุระเบิดทั้งระบบ
ทั้ง นี้ การวิเคราะห์หรือสรุปข่าวว่าบริษัทแพทริออท และนายวรพจน์ หรือเสี่ยเช เป็นบริษัทนายหน้าที่ให้สินบนเจ้าหน้าที่รัฐและบุคคลในพรรคการเมืองของไทย นั้น เป็นเสมือนการพิพากษาบริษัท แพทริออท และนายวรพจน์เป็นจำเลยสังคม ซึ่งนายวรพจน์ ยศะทัตต์ หรือเสี่ยเช ได้ยืนยันในการเสวนาที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2548 และกับคณะกรรมการสืบสวนคดีทุจริตการจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิด ทุกคณะ ว่า ไม่ได้เป็นคนจ่ายสินบน และไม่ชอบการจ่ายสินบน ประกอบการธุรกิจด้วยความสุจริต
โดยข้อเท็จจริงจำต้องนำสืบข้อมูลและ พยาน เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงในชั้นศาล ว่า ข้อกล่าวหาของกระทรวงยุติธรรม สหรัฐ ที่สรุปว่า บริษัทอินวิชั่นมีความเป็นไปได้อย่างสูงว่า มีการจ่ายเงินให้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐและบุคคลในพรรคการเมืองของไทย มีความเกี่ยวข้องกับบริษัทแพทริออท และนายวรพจน์หรือไม่
จากข่าวผิด พลาดเกินความเป็นจริง จนทำให้เกิดความเสียหายต่อกิจการและชื่อเสียงของความที่กล่าวข้างต้นนั้น จึงใคร่ขอโทษบริษัท แพทริออท บิซิเนส คอนซัลแตนส์ จำกัด และนายวรพจน์ ยศะทัตต์ หรือที่เรียกในข่าวว่า "เสี่ยเช" และหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจและบรรณาธิการ จึงขอแสดงความรับผิดชอบในการแก้ข่าวเผยแพร่ข้อเท็จจริง
ที่มา เอกสารแนบท้าย บันทึกข้อตกลง คดีหมายเลขดำที่ 2775/2548
ประชาชนท้วง น่าจะเรียกคืนรางวัลยอดเยี่ยม (ในการกล่าวร้าย)อิศรา อมันตกุล
ประชาชน หลายคนที่ทราบข่าว เรียกร้องให้มีการเรียกคืนรางวัลในวงการสื่อมวลชนที่เคยมอบให้กับ บก.กรุงเทพธุรกิจ "อย่างนี้ มูลนิธิอิศรา อมันตกุล น่าจะเรียกรางวัลคืนนะครับ ใครรู้จักเรียกร้องกันหน่อย" คุณว่านสี่ทิศจากเว็บบอร์ดประชาไทกล่าว
อนึ่ง ข่าวการมอบรางวัลอัปยศดังกล่าวซึ่งเกิดขึ้นเมื่อปี 2548 มีรายละเอียดดังนี้
สินบนซีทีเอ็กซ์ รับรางวัลข่าวยอดเยี่ยม (3/3/48)
สมาคม นักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ได้จัดพิธีมอบรางวัล "อิศรา อมันตกุล" ประเภทข่าวยอดเยี่ยม และภาพข่าวยอดเยี่ยม รางวัลข่าวอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดีเด่น และรางวัลข่าวยอดเยี่ยม ของหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น ประจำปี 2548 ปรากฏผลดังนี้
รางวัลอิศรา อมันตกุล ประเภทข่าว ผลการตัดสินปรากฎว่า รางวัลยอดเยี่ยมได้แก่
"ข่าวผ่าขบวนการคอร์รัปชั่น ...สินบนข้ามชาติซีทีเอ็กซ์"
โดยกองบรรณาธิการ นสพ. กรุงเทพธุรกิจ ได้รับรางวัลเงินสด 50,000 บาท จากมูลนิธิอิศรา อมันตกุล พร้อมโล่รางวัลประกาศเกียรติคุณ
กระตุกต่อมจริยธรรมจารุวรรณ ขอให้มีความละอายแก่บาปกรรมที่ตนกระทำ
นอก จากหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจที่เป็นผู้ตีข่าวเท็จดังกล่าว สร้างความสับสนให้กับสังคม สร้างความเสียหายให้กับผู้อื่นและประเทศชาติ นางจารุวรรณ เมณฑกา และคตส.ก็ยังเป็นอีกกลุ่มคนที่ประชาชนเห็นควรให้ออกมาแสดงความรับผิดชอบ โดยนางจารุวรรณกล่าวผ่านสื่อโดยไร้ยางอายว่า
"เรื่องใหญ่ที่จะ ต้องออกมาใน 1-2 วันนี้คือ ซีทีเอ็กซ์ เราสรุปผลเสร็จแล้วเหลือแค่กลั่นกรองคำพูดเล็กน้อย เรื่องซีทีเอ็กซ์อยากจะให้ทันในสัปดาห์นี้ แต่บอกตรง ๆ ว่าทุกเรื่องสำคัญหมด เงินมันเยอะเป็นพันเป็นหมื่นล้านบาท แต่เรื่องซีทีเอ็กซ์ตอนนี้พร้อมสุด มั่นใจว่าเอาผิดได้แน่นอน” - 21 กันยายน พ.ศ. 2549 หลังการทำรัฐประหารสองวัน (
ลิงก์)
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของคดี CTX
คุณ ว่านสี่ทิศ แจ้งความเคลื่อนไหวล่าสุดของคดีดังกล่าวดังนี้ "ข่าวล่าสุดแจ้งว่า ปปช.เห็นด้วยกับความเห็นของอัยการสูงสุดที่จะไม่ฟ้องตามสำนวนของ คตส. ที่อ่อนด้วยหลักฐาน ขณะนี้ กำลังสอบสวนพยานสำคัญ (ที่ คตส. กันไว้เป็นพยาน เพื่อให้ซัดทอดถึงท่านคุณทักษิณ) ปรากฎว่าพยานสารภาพว่า กล่าวเท็จตามคำขอของ คตส. คดีนี้จึงมีแนวโน้มจะตกกระป๋องไป ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ คุณหญิงเป็ดย่น บอกตอนรัฐประหารใหม่ๆว่า สามารถสรุปฟ้องได้ภายในอาทิตย์เดียว"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
คตส.มึน หาจุดผิดซีทีเอ็กซ์ไม่เจอ เตรียมเดินเกมแก้เก้อ (15 มกราคม 2550)
Nation Group Apologises for Getting it Wrong in an Award Winning Report of Thaksin Corruption (November 6, 2008 by thaiintelligentnews)
เขียนโดย editor01 ที่ 22:19
ที่มา http://thaipresslog.blogspot.com/2008/11/ctx.html
-----------------------------------------------------------------
ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับปัญหาของสนามบินสุวรรณภูมิทั้งหมด
SUVARNABHUMI FAQs
สุวรรณภูมิ ตอนที่ 1 ฟันธง! "สุวรรณภูมิ" โปร่งใส...
สุวรรณภูมิ ตอนที่ 2 บทพิสูจน์ ‘เหล็ก’ สุวรรณภูมิ ‘มาตรฐาน’ ชัวร์-ไม่มั่วนิ่ม!
สุวรรณภูมิ ตอนที่ 3 เจาะ‘จุดเด่นสุวรรณภูมิ’ ‘หลังคาผ้าใบ’ ไร้ปัญหา!
สุวรรณภูมิ ตอนที่ 4 "คาร์ปาร์ค" สุวรรณภูมิ! เพียงพอ "ปลอดซิกแซก"
สุวรรณภูมิ ตอนที่ 5 สุวรรณภูมิกับ ‘ผู้รับเหมา’ ‘ผ่อนปรน’ เพื่อคุณภาพ!
สุวรรณภูมิ ตอนที่ 6 สุวรรณภูมิ ‘รันเวย์ร้าว’ ‘เรื่องจริง’ ที่ต้องชี้แจง!
สุวรรณภูมิ ตอนที่ 7 ‘ไฟฟ้า-แอร์’ เครื่องบิน! อีกข้อกังขา ‘สุวรรณภูมิ’
สุวรรณภูมิ ตอนที่ 8 บริหาร ‘ฟรีโซน’ สุวรรณภูมิ ทำไม? ต้องเลือก ‘แท็กส์’
สุวรรณภูมิ ตอนที่ 9 ‘รถเข็นกระเป๋า' สุวรรณภูมิ ‘แก้เกณฑ์-เร่ง' เพื่ออะไร?
สุวรรณภูมิ ตอนที่ 10 ‘พิสูจน์’ ระบบปรับอากาศสุวรรณภูมิ ‘แอร์ไม่เย็น?’
สุวรรณภูมิ ตอนที่ 11 'เทอร์มินอล 'สุวรรณภูมิ ทำไม? 'พื้นร้าว-ท่อแตก'
สุวรรณภูมิ ตอนที่12 ‘ค่าธรรมเนียม ’เครื่องบิน สุวรรณภูมิเก็บ ‘ถูก-แพง?’
สุวรรณภูมิ ตอนที่13 ‘หอฯ การบิน ’สุวรรณภูมิ เสี่ยง-ไม่เสี่ยง ‘เอียง-ถล่ม’
สุวรรณภูมิ ตอนที่14 ตรวจโปร่งใส ‘จ้างเอกชน' ‘งานเช็คอิน' สุวรรณภูมิ!
สุวรรณภูมิ ตอนที่15 ผ่าระบบลำเลียง ‘กระเป๋า’ ‘สุวรรณภูมิ’ ชัวร์แค่ไหน?
สุวรรณภูมิ ตอนที่ 16 ‘ตรวจระเบิด’ สุวรรณภูมิ ทำไมต้องใช้ ‘CTX 9000’
สุวรรณภูมิ ตอนที่ 17 สุวรรณภูมิ‘เข้มเต็มร้อย’ ‘ปลอดภัย’เกณฑ์ ICAO
สุวรรณภูมิ ตอนที่ 18 ‘พื้นที่พาณิชย์’ สุวรรณภูมิ กับข้อกังขา ‘ล็อคสเปค’
สุวรรณภูมิ ตอนที่ 19 ผ่าระบบ ‘ไอที’สุวรรณภูมิ ‘AIMS’ มาตรฐานโลก!
สุวรรณภูมิ ตอนที่ 20 เปิดแผนปฏิบัติการ ‘ไล่นก’ ‘สุวรรณภูมิ’ ทำอย่างไร?
สุวรรณภูมิ ตอนที่ 21 ‘กล้องวงจรปิด ’สุวรรณภูมิ ทำไม? ต้อง ‘IP CCTV’
สุวรรณภูมิ ตอนที่ 22 ‘กำจัดขยะ’ สุวรรณภูมิ ใช้บริษัทใหญ่ ‘ไร้ปัญหา’
สุวรรณภูมิ ตอนที่ 23 เปิดระบบ‘ประปา-น้ำเสีย’ ‘สุวรรณภูมิ’ พร้อมเต็มสูบ!
สุวรรณภูมิ ตอนที่ 24 ‘ที่สุด’ สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่ออะไร-ไฉนต้อง‘เร่งเปิด’
สุวรรณภูมิ ตอนที่ 25 ‘ระบบไฟฟ้า’ สุวรรณภูมิ กับข้อสงสัย‘ท่อร้อยสาย’
สุวรรณภูมิ ตอนที่ 26 สำรวจ ‘ ลานจอดระยะไกล ’ สุวรรณภูมิ‘จ้างถูกต้อง?’
สุวรรณภูมิ ตอนที่ 27 ‘ระบายน้ำ’ สุวรรณภูมิ ฝนตก 7 วันก็ ‘ไร้ปัญหา’
สุวรรณภูมิ ตอนที่ 28 ‘ไฟรันเวย์’ สุวรรณภูมิ 27,000 โคม ‘มั่นใจได้?’
สุวรรณภูมิ ตอนที่ 29 รถลีมูซีน’สุวรรณภูมิ 6 แบบ ‘ปลอดอิทธิพล’
สุวรรณภูมิ ตอนที่ 30 ปัญหา ‘เสียงเครื่องบิน’ ‘สุวรรณภูมิ ’รับผิดชอบ?
http://www2.airportthai.co.th/faq/main_th.htm#
<<< ข้อเท็จจริงที่ควรรู้ เรื่อง เกี่ยวกับสนามบินสุวรรณภูมิ >>>
http://maha-arai.blogspot.com/2009/06/blog-post_8691.html
-----------------------------------------------------------
เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ที่ใช้เป็นข้ออ้างในคดียึดทรัพย์ทักษิณ
มีการใส่ร้ายป้ายสีต่างๆ นานา
สุดท้ายสื่อที่ใส่ร้ายก็ต้องลงคำขอโทษ
ผมพยายามรวบรวมไว้ให้มากที่สุด
แล้วให้ผู้อ่านพิจารณากันเอง
ลองเปรียบเทียบกับเรื่อง GT200
ที่มีความพยายามใช้วิธีพิเศษบ้าง งบลับบ้าง
ผลาญกันไปเท่าไหร่เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้รับ
และเงินภาษีประชาชนที่ต้องสูญเสียไปเพราะค่าคอมมิชชั่น
ท่านคิดว่าเรื่องไหนจะมากกว่ากัน
และสุดท้ายจะตรวจจับหาคนทำผิดเหมือนกรณี CTX9000 หรือไม่
แล้วจะมีการยึดทรัพย์อภิสิทธิ์หรือไม่
รวมไปถึงจะเกิดคดี GT200 ขึ้นศาลหรือไม่
ล้วนแล้วแต่ต้องติดตาม
จะได้รู้ว่าระบบยุติธรรมประเทศนี้มี 2 มาตรฐาน
อย่างที่คนทั่วไปว่ากันไหม
อ่านเรื่อง GT200 ได้ที่นี่
<<< ข้อเท็จจริงที่ควรรู้ เรื่อง เครื่องตรวจระเบิด GT200 >>>
http://maha-arai.blogspot.com/2010/01/blog-post_521.html
โดย มาหาอะไร
-------------------------------------------------
ป.ป.ช.สั่งไม่ฟ้อง 'ทักษิณ-สุริยะ'คดี ซีทีเอ็กซ์
คณะกรรมการป.ป.ช.มีมติเอกฉันท์ ยกฟ้องคดีซีทีเอ็กซ์
ซึ่งเป็นการยืนตามชั้นอัยการ ที่ไม่สั่งฟ้อง ระบุชัดหลักฐานไม่ชัดเจน
แต่มีมติไต่สวนความผิดต่ออีก 6 คนที่เกี่ยวข้อง
วันนี้ (28 ส.ค. 55)
ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
(ป.ป.ช.)มีมติเอกฉันท์ 7
เสียงยกฟ้องข้อกล่าวหาการทุจริตจัดซื้อเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด
ซีทีเอ็กซ์ 9000 จำนวน 26 เครื่อง ซึ่งมีผู้เกี่ยวข้อง 28 คน รวม
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ
อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
โดยนายวิชัย วิวิตเสวี คณะกรรมการ ป.ป.ช.
ในฐานะประธานอนุกรรมการไต่สวนคดีการจัดซื้อและติดตั้งเครื่องตรวจจับวัตถุ
ระเบิด( ซีทีเอ็กซ์ 9000)
และการก่อสร้างระบบสายพานลำเลียงกระเป๋าในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ แถลงว่า
กรณีการจัดซื้อและติดตั้งเครื่องซีทีเอ็กซ์ฯ นั้น
คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.)
ได้ตั้งข้อหามา 2 ข้อหา คือ 1.บริษัทท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ (บทม.)
ว่าจ้างบริษัทกิจการร่วมค้าไอทีโอ จัดหาระบบสายพานฯ
ไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
2.บทม.ออกหน้าเป็นตัวแทนบริษัทนายหน้าจัดซื้อเครื่องตรวจสอบซีทีเอ็กซ์เสีย
เองหรือไม่
ทั้งนี้ในการพิจารณาคดีดังกล่าวนอกจากสำนวนของ คตส. 560 แผ่น
และเอกสารอื่นๆแล้ว คณะกรรมการ ป.ป.ช.เห็นว่ายังไม่เพียงพอ
เพื่อเป็นการอำนวยความยุติธรรมจึงได้ขอความร่วมมือกับกระทรวงยุติธรรม
สหรัฐอเมริกา โดยสำนักงานสอบสวนกลางแห่งสหรัฐอเมริกา
(เอฟบีไอ)ได้ส่งเอกสารเพิ่ม 5,000 แผ่นมาให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม
คณะกรรมการป.ป.ช.เห็นว่าขาดหลักฐานที่จะนำไปสู่การกระทำผิดโดย
ปราศจากข้อสงสัย จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ไม่ฟ้องผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมด
เช่น พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ
อดีต รมว.คมนาคม และผู้บริหาร บทม. ที่เกี่ยวข้องเป็นต้น
เนื่องจากเห็นว่ามีหลักฐานไม่เพียงพอที่จะพิสูจน์ให้ศาลเห็นว่าผู้ถูกกล่าว
หากระทำผิดได้ ซึ่งในการพิจารณาครั้งนี้ไม่มีนายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ
ป.ป.ช. ซึ่งเป็นอดีต คตส. ร่วมพิจารณาด้วย
นอกจากนี้
ที่ประชุมฯมีมติให้ไต่สวนต่ออดีตกรรมการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิอีก 6
คนซึ่งพบหลักฐานว่ามีส่วนเกี่ยวพันกัน ได้แก่ นายศรีสุข จันทรางศุ
,พล.อ.สมชัย สมประสงค์ ,นายชัยเกษม นิติสิริ ,นายเทิดศักดิ์ เศรษฐมานพ
,นายศุภเดช พูนพิพัฒน์ และ พล.อ.อ.ณรงค์ศักดิ์ สังขพงศ์
สำหรับโครงการจัดซื้อและติดตั้งเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดแบบซีทีเอ็กซ์
9000 และการก่อสร้างระบบสายพานลำเลียงกระเป๋า
ในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิคดีดังกล่าว
สืบเนื่องมาจากคณะทำงานร่วมระหว่างอัยการสูงสุดและ
ป.ป.ช.มีความเห็นไม่ตรงกันว่าสมควรสั่งฟ้องคดีต่อศาลหรือไม่ซึ่งอัยการสูง
สุดมีดุลยพินิจว่าไม่สั่งฟ้อง
เพราะพยานหลักฐานไม่เพียงพอทำให้ป.ป.ช.ต้องขอดึงสำนวนกลับมา
เพื่อพิจารณาว่าจะดำเนินการฟ้องคดีเองหรือจะยุติการฟ้องคดีตามความเห็นของ
อัยการสูงสุด
อย่างไรก็ตาม คดีดังกล่าวยังเป็น 1 ใน คดีที่ คตส.เดิม
เคยโอนสำนวนคดีนี้มาให้ป.ป.ช.
ซึ่งทางก็ตั้งแท่นออกข่าวว่าจะยื่นฟ้องเองมาตลอดโดยมีการติดต่อให้ทีมทนาย
ความของสภาทนายความคอยเตรียมการเอาไว้ในการยื่นฟ้องและว่าความดำเนินคดี
แต่แล้วคดีก็ยืดเยื้อมาหลายปี
ทั้งที่อัยการได้ตีสำนวนกลับมาให้ป.ป.ช.นานแล้ว
ท่ามกลางกระแสข่าวว่ามีป.ป.ช.บางคนไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับการยื่นฟ้อง
เพราะบอกว่าสำนวนของคตส.อ่อนจริงไม่มีพยานหลักฐานและพยานบุคคลที่จะเอาผิด
เรื่องการทุจริตเรียกรับผลประโยชน์ในการจัดซื้อจัดจ้างได้ ซึ่งในที่สุด
คณะกรรมการป.ป.ช.ก็มีมติออกมาว่าไม่ฟ้องในที่สุด
นอกจากนี้ หากย้อนไปดูคำสัมภาษณ์ของ คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา
อดีตคตส. ที่เคยระบุในหน้าหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันศุกร์ที่ 22
กันยายน 2549 ในหัวข้อข่าว "จารุวรรณ เช็คบิลซีทีเอ็กซ์คิวแรก"
ความตอนหนึ่งว่า ... คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา
ผู้ว่าการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)
เปิดเผยถึงภารกิจที่ต้องทำหลังเข้าพบคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.)วานนี้ (21 ก.ย.)ว่า
หลังคปค.ให้อำนาจคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.)มาอยู่ที่ผู้ว่าการสตง.
เท่ากับว่ามีสิทธิพิจารณากลั่นกรองแทนงานคตง. เรื่องใหญ่ที่ต้องออกมาใน 1-2
วันนี้ คือ การตรวจสอบการจัดซื้อเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดซีทีเอ็กซ์ 9000
จำนวน 26 เครื่อง ของสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งได้สรุปผลเสร็จแล้ว
เหลือแค่กลั่นกรองคำพูดเล็กน้อย
"เรื่องซีทีเอ็กซ์อยากให้ทันในสัปดาห์นี้
แต่บอกตรงๆว่าทุกเรื่องสำคัญหมด เงินมันเยอะเป็นพันเป็นหมื่นล้านบาท
แต่เรื่องซีทีเอ็กซ์ ตอนนี้พร้อมสุด มั่นใจว่าเอาผิดได้แน่นอน" ...(บางส่วนจากข่าว จารุวรรณเช็คบิลซีทีเอ็กซ์คิวแรก)
28 สิงหาคม 2555 เวลา 17:40 น.
http://news.voicetv.co.th/thailand/48733.html
----------------------------------------------
FfF