บันทึกเรื่องราว สืบสาวความจริง ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน.
Save the stories. Investigate the truth. Give to the next generation.


13 กุมภาพันธ์ 2554

<<< ตอนนี้มีกลุ่มที่เรียกร้องประชาธิปไตยแล้วคือ กลุ่มแดงสยาม กลุ่ม นปช. ขอเพิ่มอีกสักกลุ่ม กลุ่มคนรักประชาธิปไตย >>>

กลุ่มคนรักประชาธิปไตย ตั้งชื่อกันตรงๆ
แบบที่ไม่ต้องแปลหรือต้องตีความอะไรกันอีก
วันนี้ผมมาเชิญชวนพี่น้องที่ผ่านไปมา
จะใส่เสื้อสีอะไรอยู่ก็แล้วแต่
ทั้งแดง ขาว เหลือง เขียว ม่วง ชมพู ดำ รับหมด
กลุ่มใหม่นี้ไม่มีแกนนำ แต่ละคนนำกันเอง
มีแนวทางชัดเจน เรียกร้องจนกว่าจะได้ประชาธิปไตยที่แท้จริง จริงๆ
ไม่ได้ไม่เลิก พร้อมไปร่วมกับทุกกลุ่มที่มีอยู่แล้วในการจัดกิจกรรมต่างๆ
เช่น ม็อบคอนเสิร์ต หรือ ม็อบลุย เอาหมด
แล้วแต่สะดวกของแต่ละคน
เข้าได้ทุกกลุ่มทั้ง แดงนปช. หรือ แดงสยาม ตอนนี้

กลุ่มนี้ไม่เน้นเรื่องแกนนำ
ไม่ต้องปวดหัวว่า ใครจะเป็นแกนนำ
หรือจะมี หรือไม่มี หรือใครจะตีกัน
หรืออนาคตแกนนำคนไหนจะเปลี่ยนไป ไม่สนใจ
สนใจที่จะเรียกร้องประชาธิปไตยที่แท้จริง จริงๆ อย่างเดียวเลย
กลุ่มไหนจะหยุดไปก่อนไม่ว่ากัน
กลุ่มนี้ไปสุดทางเท่านั้นลงกลางทางไม่เป็น

แนวทางคือ ทุกคนต้องพยายามคิดว่าตัวเองเป็นแกนนำ
มีอะไรแนะนำติชม ว่ากันมาได้เลย เล่นกันบนเน็ตนี่ก็ได้
ไม่ต้องปกปิดเพราะไปสุมหัวคุยกันที่ไหนก็มีสายอยู่ทุกที่
ไม่เว้นแม้แต่ในหมู่แกนนำทั้งอดีตและปัจจุบันตอนนี้
ดังนั้นเมื่อรู้อยู่แล้วว่ามีสายก็ไม่ต้องไปปวดหัวหลบๆ ซ่อนๆ
ข้อเสนอที่ดีมวลชนต้องรับทราบโดยทั่วกัน
และฝ่ายตรงข้ามทำอะไรไม่ได้ ต่อให้รู้ล่วงหน้าก็เหอะ
เหมือนการหาเสียงนั่นแหล่ะ
ที่แต่ละพรรคจะประกาศนโยบายแนวทางหาเสียง
พรรคคู่แข่งรู้ก็รู้ไป ถ้าไม่ยอมให้ใครรู้ ชาวบ้านจะรู้ได้ยังไง
สำหรับสมาชิกกลุ่มคนรักประชาธิปไตยแล้ว
ทุกคนต้องพยายามคิดว่าตนเองเป็นแกนนำ

ไม่ต้องสมัครที่ไหน ไม่มีระบบสมาชิกอะไร
พร้อมร่วมด้วยช่วยอะไรได้ ช่วยได้เลย
ตอนนี้เน้นช่วยกลุ่มที่มีอยู่แล้ว ทั้งแดง นปช. แดงสยาม
แต่ต้องเผื่อบางกลุ่มเลิกกลางคัน บางกลุ่มติดงานด้วย
หรืออนาคตจะมีกลุ่มใหม่อีกกี่สิบกลุ่ม
ถ้าแนวทางไปด้วยกันได้ ร่วมด้วยช่วยกันทุกงานได้ ทำไปเลยครับ
จุดเด่นหนึ่งของคนที่จะรักประชาธิปไตยจะต้องใจกว้างครับ
เพราะว่าอนาคตจะต้องเจอการตัดสินใจ
ที่มีทั้งเสียงสนับสนุนและเสียงคัดค้านในแทบทุกเรื่อง
ถ้าใจแคบจะเครียดหนักขึ้นทุกวัน ถ้าใจกว้างไว้
เห็นว่ามันเป็นธรรมดาของโลก ก็จะเป็นเรื่องธรรมดา
มีเกิด มีดับ ทุกสิ่งล้วนอนิจจัง

ไม่มีเอกลักษณ์ประจำกลุ่ม เช่น โลโก้กลุ่ม สีเสื้อของกลุ่ม
เน้นธรรมดาปกติใช้ชีวิตกันยังไงแต่งตัวกันสไตล์ไหน
ก็แต่งแบบนั้นแหล่ะ ไม่ต้องยุ่งยากหรือมากความ
หรือใครจะยึดใส่แดง เหลือง ชมพู อะไรก็ตามสบาย

ตอนนี้ผมเสนอเน้นแนวทางให้ทุกคนพยายามฝึกตนเอง
ให้รู้สึกมั่นใจได้ว่า เป็นแกนนำตนเองได้
พร้อมพาตนเองไปร่วมกลุ่มนั้นกลุ่มนี้
หรือคัดค้านเรื่องนั้นเรื่องนี้ ด้วยการไตร่ตรองของตนเอง
แล้วทำได้อย่างอิสระโดยไม่จำเป็นต้องรอการส่งการใดๆ จากใคร
ผมเชื่อว่าแนวทางนี้ ถ้าทำให้มีคนแบบที่ว่านี้เยอะๆ
ประชาธิปไตยที่แท้จริงจะบังเกิดขึ้นบนแผ่นดินนี้อย่างถาวรและยั่งยืน
เพราะถ้าทุกคนเน้นจะต้องมีผู้นำ
แล้วพยายามทำตามอย่างเดียวราวกับขาดผู้นำไม่ได้
ต่อให้ยื้อแย่งอำนาจมาได้ แผ่นดินนี้ก็ยังไม่เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริงอยู่ดี
จะเป็นเผด็จรูปแบบใหม่หรือเผด็จการคนใหม่แทน
แต่ถ้าในขณะที่กำลังยื้อแย่งอำนาจไปด้วย พยายามฝึกฝนตนเองไปด้วย
จนเกิดความมั่นใจ กล้าแสดงความคิดเห็น
กับผู้คนบนเน็ตหรือตามม็อบตามสภากาแฟอะไรก็แล้วแต่ได้
มีคนแบบนี้เยอะๆ เชื่อเหอะว่า ต่อให้ยังยื้อแย่งอำนาจไม่สำเร็จในเร็ววัน
แต่แสงสว่างปลายอุโมงค์เริ่มเห็นแล้วว่า
อนาคตอีกไม่ไกล ถ้ามีคนแบบที่ว่ามากขึ้นเท่าไหร่
มันจะเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริงไปโดยอัตโนมัติ
โดยแทบอาจไม่รู้ตัวว่าไปยื้อแย่งอำนาจจากผู้มีอำนาจมาได้แล้ว
เพราะอาจมีการชิงปรับตัวรองรับกับมวลชนลักษณะนี้ก็เป็นได้

จะว่าไปแล้วผมไม่อยากมานั่งเสนออะไรอยู่คนเดียว
วันไหนใครคิดอะไรออก ลองเสนอมาได้
เดี๋ยวถ้าผมเห็นว่าน่าสนใจ จะรวบรวมเก็บไว้ที่บล็อคมาหาอะไร
เผื่อมีใครมาอ่านเจอภายหลังหรือมีใครจะ copy ไปเผยแพร่ก็จะง่ายขึ้น
เน้นอีกที แนวนี้ไม่เน้นพยายามหาแกนนำ
เน้นพยายามทำตนให้เป็นแกนนำให้ได้ทุกคน
จะว่าไปแล้ว แค่ทุกคนมั่นใจในตนเองก็ทำได้แล้วง่ายมากๆ
แล้วไม่ต้องมาเสนอให้ผมเป็นแกนนำด้วย ไม่เอา
เพราะผมยึดหลักว่าทุกคนจะต้องพยายามเป็นแกนนำตนเองให้ได้เท่านั้น

ส่วนใครมีข้อเสนอแนะอะไรดีๆ ส่งมาให้ผมได้
ที่ E-mail : chaowaritc@yahoo.com
ผมจะเก็บรวบรวมไว้ให้ เผื่อมีคนสนใจมาหาอ่านภายหลัง
แต่ละคนสามารถเสนอแนวทางได้อิสระ
แม้จะขัดกันไปมาสามารถทำได้ตลอดไม่มีการห้ามปราม
เมื่อทุกคนเป็นแกนนำตนเอง ต้องทำ หน้าที่คล้ายแกนนำ
จะต้องทำงานหนักขึ้นโดยต้องคิดไตร่ตรอง ด้วยตนเองทุกเรื่อง
อาจค้นคว้าหาข้อมูลเพิ่มเติม หรือ ฟังจากคนนั้นคนนี้วิเคราะห์
หรือเสนอแนวทางอะไรมา จะต้องคิดเองอีกที
ว่าจะเลือกเชื่ออันไหน หรือเลือกแนวทางใด
ไม่ใช่ใครเสนออะไรมา ทำตามทันทีหมด
โดยไม่คิดไตร่ตรองให้รอบคอบก่อน

เป็นการฝึกคิดและใช้วิถีทางประชาธิปไตยที่แท้จริงไปในตัว
ค่อยๆ ฝึกกันไปในช่วงการยื้อแย่งอำนาจ
เมื่อได้ประชาธิปไตยที่แท้จริงจะเป็นแบบที่ผมว่านี่แหล่ะ
คือมีหลายความคิดทั้งเห็นด้วยหรือคัดค้านไม่ว่าจะทำเรื่องอะไร
หรืออาจจะมีการลงประชามติอะไรกันเยอะขึ้น
ดังนั้นแต่ละคนก็คือ 1 สิทธิ 1 เสียง
จะเฮโลแบบพวกมากลากไป เหตุผลไม่มี ก็ไม่มีประโยชน์อะไร
เพราะอาจสร้างปัญหาใหม่ในการไม่ยอมรับผลอยู่ดี
การฝึกใช้เหตุผลไปเรื่อยๆ และฝึกทำใจกว้างไปเรื่อยๆ
รวมทั้งการยอมรับว่าเป็นเรื่องธรรมดา
ทั้งเรื่องความเห็นแตกต่างหรือแตกกันจนเป็นสารพัดกลุ่มเล็กกลุ่มน้อย
ถือเป็นธรรมดาของระบอบประชาธิปไตย
ก็จะทำให้ประชาธิปไตยที่ยื้อแย่งจนได้มา
อยู่ได้อย่างถาวรและมั่นคง ส่งต่อๆ ให้รุ่นลูกรุ่นหลานได้ต่อไป
อยู่ที่ทุกคน ไม่ได้อยู่ที่ใครจะเป็นฮีโร่ แค่ไม่กี่คนที่ช่วยนำชัยชนะยื้อแย่งอำนาจมาได้
แต่ถ้าทุกคนไม่มีวิญญาณประชาธิปไตย ก็จะไม่เกิดประชาธิปไตยที่แท้จริงอยู่ดี
ดังนั้นทุกคนจึงต้องฝึกฝนให้เป็นนักประชาธิปไตย
ที่มีความรู้ ความเข้าใจ ในเรื่องต่างๆ มากขึ้น
ทั้งการเมือง เศรษฐ กิจ สังคม
เพื่อจะได้ช่วยให้การลง ประชามติหรือโหวตเรื่องอะไร
เป็นไปด้วยเหตุผลที่ถูกไตร่ตรองมาแล้วจากความรู้ของแต่ละคน
จะได้ผลโหวตที่ทุกคนยอมรับได้และ ดีที่สุดด้วย

แนวทางให้ทุกคนเป็นแกนนำตนเองให้ได้นั้น
ไม่ต้องกลัวว่าจะเกิดการแตกแยกจนมวลชนอ่อนล้าลง
เพราะมันแตกละเอียดเป็น 1 กลุ่มต่อ 1 คนอยู่แล้ว
ไม่มีแตกไปมากกว่านี้แล้ว แต่ยังสามารถเคลื่อนไหว
ได้อย่างอิสระต่อไป จนกว่าจะได้ประชาธิปไตยที่แท้จริง จริงๆ
เคยเขียนไว้แล้วใน 2 เรื่องนี้

<<< ประชาธิปไตยที่แท้จริงและสมบูรณ์ มากๆ ถ้าหากแตกตัวจนเหลือ 1 คน ต่อ 1 กลุ่ม >>>
http://maha-arai.blogspot.com/2010/09/blog-post_17.html

<<< มวลชนประชาธิปไตยที่ดี ต้องกระจายแบบมีเป้าหมาย >>>
http://maha-arai.blogspot.com/2010/05/blog-post_31.html

ในช่วงแตกหัก ถ้ากรณีเป็นแนวไม่มีแกนนำจริงๆ
ก็ไม่ต้องกังวลอะไร เพราะวันแตกหักไม่มีแกนนำหน่ะดีแล้ว
จะได้ไม่ต้องมีคนคอยฉุด เพราะถูกดึงไปเจรจาต่อรองเสียเวลาเปล่าๆ
คนเยอะๆ พยายามพากันไปที่เดียวกันให้ได้ก็จบเห่แล้ว เหมือนอียิปต์ตอนนี้
นอกนั้นแนวทางการเคลื่อนไหวต่อสู้อย่างอื่น
ก่อนถึงวันนั้นนผมเชื่อว่า ทุกคนจะได้รับรู้โดยทั่วถึงกัน
จากการอ่านหรือฟัง ในสิ่งที่มีคนช่วยๆ กันเสนอแนะแนวทางมาให้อยู่แล้ว
และการที่ทุกคนมีวิญญาณประชาธิปไตยจากที่ได้ฝึกฝนกันมา
หรือมีคนรักประชาธิปไตยเยอะๆ แล้ว
จะเป็นหลักประกันได้ว่า ไม่มีใครกล้ามาชุบมือเปิบ
หรือเกิดรัฐประหารชิงตัดหน้า หรือเล่นกลอะไรต่อไปได้อีก
เพราะว่าทุกคนจะไม่ยอม จะพร้อมสู้ต่อไป
เพื่อให้ได้โครงสร้างที่เป็นประชาธิปไตย ที่แท้จริงให้ได้

ส่วนโครงสร้างประชาธิปไตยที่แท้จริงนั้น
อยากให้ช่วยๆ กันเสนอและเก็บเอาไว้
วันหนึ่งอาจมีการนำมาเป็นแนวทาง
ในการทำโครงสร้างประชาธิปไตยที่แท้จริงก็เป็นได้

ตัวอย่างโครงสร้างประชาธิปไตยที่แท้จริง
ที่ผมฝันไว้ จนแต่งเป็นนิยายได้เรื่องหนึ่งคือ

<<< ความฝันอันสูงสุด >>>
http://maha-arai.blogspot.com/2010/11/blog-post_66.html

ยังมีบทความเกี่ยวกับโครงสร้างประชาธิปไตยอีก
แต่จำไม่ได้แล้วว่าเขียนเอาไว้ในเรื่องไหนบ้าง
ทุกคนสามารถสร้างจินตนาการในสิ่งที่ทุกคนอยากเห็น
รวบรวมไว้เยอะๆ อนาคตไม่แน่
ฝันนั้นอาจกลายเป็นจริงก็ได้ใครจะรู้

โดย มาหาอะไร
FfF