เรื่องสายข่าวนั้น ผมเคยพูดไว้ในหลายๆ เรื่อง
เช่นใน 2 เรื่องนี้
<<< วิธีแฝงตัวเข้าไปเป็นสาย >>>
http://maha-arai.blogspot.com/2010/10/blog-post_7719.html
<<< ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ยังไงก็ดีกว่า ถูกข่าวลือเล่นงาน >>>
http://maha-arai.blogspot.com/2010/02/blog-post_07.html
และช่วงนี้ก็มีการกล่าวหากันเรื่องเป็นสายข่าว
ซึ่งความจริงผมก็พอจะรู้อะไรพอสมควร
แต่ถ้าไม่มีหลักฐานชัดเจน
จะไปชี้นิ้วกล่าวหาคนนั้นคนนี้เป็นสาย
จะทำให้เขาเสียชื่อได้
เผลอๆ จะโดนฟ้องเอาถ้าเขาไม่ยอม
ผมทำได้ดีที่สุด ในกรณีที่ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร
คือถือว่าทุกคนบริสุทธิ์ใจไว้ก่อน
ทำได้แต่เพียงเตือนเรื่องการมีสายข่าว
ใครมาเถียงว่าไม่มี หรือทำให้เป็นเรื่องขำขำให้ระวังไว้
เพราะว่าช่วง คมช. มีการเพิ่มอัตราจ้างคน
มาทำงานให้ กอ.รมน. หลายหมื่นอัตรา
ไม่รวมช่วงรัฐบาลนี้
และหน่วยงานความมั่นคงหลายหน่วยงาน
ถ้าพวกนี้บอกว่าไม่มีสายสืบในม็อบเสื้อแดง
ในเว็บไซด์การเมือง
ในชุมชนคนเสื้อแดง
แสดงว่าโกหก หรือไม่ก็สมควรถูกยุบทิ้งไป
เพราะชื่อมันก็บอกอยู่แล้วงานเกี่ยวกับความมั่นคง
ซึ่งมันก็อาจรวมอยู่กับความมั่นคงของรัฐบาลด้วย
ทั้งๆ ที่ไม่เกี่ยวกับชาติอะไร
แต่เมื่อคนเป็นใหญ่ใช้ พวกกินเงินเดือนก็ต้องทำงานให้
ผมเคยเจอสายบนรถแท็กซี่เยอะ
ทำให้ผมรู้ว่าหน้าตาเป็นยังไง
บางพวกก็ไม่เนียนเห็นก็รู้หน้าตาหุ่นพวกคนมีสี
แย็บสองสามทีไม่กี่คำถามก็ยอมรับแล้ว
บางพวกเนียนมาก
หุ่นและหน้าตานี่ ดูยังไงก็ไม่น่าเหมือนคนมีสี
แต่ก็เป็นเพราะคุยไปคุยมาไม่นานก็ยอมรับ
ซึ่งผมมีวิธีคุยเพื่อเช็คดูเหมือนกัน
และพอรู้ว่าเป็นสาย
ผมก็เทศนาด่าฝากไปหลายกัณฑ์เหมือนกัน
คือพวกสายข่าวเขาเป็นพวกไม่มีพิษไม่มีภัย
แค่มาหาข่าว ถ้าบนแท็กซี่ก็คงแค่ข่าวทั่วๆ ไป
แต่ถ้าในม็อบอาจอีกลักษณะอาจต้องการรู้ว่า
มีใคร เป็นนายทุน มีใครร่วมขบวนการ
มีจุดประสงค์วางแผนอะไรยังไง
ระดับพวกนี้เนียนกว่าพวกไปหาข่าวตามแท็กซี่เยอะ
ซึ่งพฤติกรรมจะก้ำกึ่งมากๆ
ดังนั้นไม่ชัวร์อย่าพึ่งไปชี้นิ้วกล่าวหา
แต่สามารถพูดได้เรื่องสายข่าว
ให้คนที่ต้องการปกปิดตัวเองระวัง
โดยเฉพาะพวกดังๆ ในทางที่จะเข้าคุก
เช่น ผมขอพาดพิง คุณ หมอตำแย นี่
ซึ่งผมก็ยังไม่แน่ใจหรอกว่าเป็นพวกเราหรือพวกเขา
ที่ทำงานปล่อยข่าวปั่นหัวพวกเรา
แต่ถ้าเป็นพวกเรา ผมแนะนำว่า
อย่าได้ไปงานใดๆ
ในลักษณะที่เขาสามารถสืบได้ว่าคุณเป็นใคร
เพราะมีอดีตมือโพสชื่อดัง พระยาพิชัย อะไรเนี้ยะ
โดนจับหลังไปร่วมงานสังสรรไม่นาน
โดยตำรวจสืบจากทะเบียนรถและสะกดรอยตาม
ซึ่งสามารถการสืบสามารถสืบได้หลายทาง เช่น
ทะเบียนรถ ลงชื่ออะไรพวกนี้ รวมไปถึงเบอร์โทรศัพท์
และการพูดคุยประวัติต่างๆ
ซึ่งกรณี ทะเบียนรถ ทราบข่าวจากพี่คนหนึ่ง
ที่อยู่ในเหตุการณ์ที่ม็อบอนุสาวรีย์ครั้งหลังสุดที่ผมไปด้วย
พบว่ามีคนมาถ่ายรูปทะเบียนรถที่จอดแถวนั้นด้วย
เกือบโดนชาวบ้านแถวนั้นไล่กระทืบ
พวกที่ชอบถ่ายรูปแล้วไม่รู้ไปโพสที่ไหน
เห็นหลายๆ งานก็ต้องสงสัยด้วย
เพราะว่าปกติคนถ่ายรูปก็ชอบนำมาอวด
ถ้าเล่นเน็ตได้ก็จะมาโพส
แต่ประเภทไปถ่ายทุกงานเหมือนกัน
แต่ไม่เคยเอาไปโพสที่ไหน
คุณว่าเขาไปถ่ายเพื่ออะไร
อันนี้อาจต้องสงสัยแล้วสืบกันต่อไป
กรณีที่มีเรื่องกันอยู่ กรณีคุณ fanny
ผมเห็นว่าถึงออกชื่อไม่เหมือนคุณ fanny ก็ตาม
ก็น่าให้คุณ fanny หรือคนที่รู้สึกถูกพาดพิงชี้แจงอย่างเต็มที่
ไม่มีการปิดกั้น
แล้วคนที่กล่าวหาถ้ามีข้อมูลเด็ดก็เอามาโต้ตอบกัน
ผมว่าคนอ่านเขาสามารถแยกแยะได้ว่าใครถูกใครผิด
แต่การปิดกั้นทำให้ทุกอย่างคลุมเครือ
ไม่เป็นผลดีต่อ คนที่ถูกกล่าวหา คนกล่าวหา คนไปปิดกั้น
รวมไปถึงมวลชนเสื้อแดงโดยเฉพาะในเว็บทั้งหมด
ที่เสียโอกาสจะได้รับรู้ความเป็นจริง ซึ่งไม่เป็นผลดีในระยะยาว
คนที่ยังไม่ชัวร์ไม่มีหลักฐาน
ขอร้องว่าอย่าพึ่งไประบุแบบนั้น
เพราะถ้ามันไม่จริงก็เสีย
เพราะคนที่ถูกกล่าวหาหลายคน
โดยภาพตอนนี้เขาทำงานเพื่อคนเสื้อแดง
ถ้าไม่มีหลักฐานคนที่กล่าวหาจะเสียหาย
แต่สามารถบอกให้คนที่ไม่อยากเผยตัวระวังเรื่องสายข่าวได้
ตามที่ผมว่ามา
ส่วนคนที่ต้องการเผยตัวหรือเผยก็ไม่เห็นมีอะไร
เพราะว่าไม่ค่อยได้โพสหรือโพสอะไรไม่แรง
จะเปิดเผยตัวอันนั้นก็เป็นสิทธิที่เขาตัดสินใจเอง
ทำได้แค่เพียงแนะนำอย่างเดียว
แล้วแต่ละคนระวังกันเอง
ไม่ระวังก็ไม่มีคนไปช่วยระวังให้
เป็นเรื่องที่เขาต้องดูแลตนเอง
สรุป คือผมเห็นว่าต้องเปิดโอกาสให้คนชี้แจงอย่างเต็มที่ไม่มีปิดกั้น
ทั้งฝ่ายสนับสนุนหรือฝ่ายคัดค้านในเรื่องต่างๆ
ถ้ามีบางข้อความผิดกฏกติกาก็เตือนเป็นเรื่องๆ
หรือลบหรือเปลี่ยนเป็นรูปสัญลักษณ์แทนก็ได้
โดยเฉพาะคนที่เราคิดว่าเป็นพวกอื่นเป็นตัวป่วน
ก็เปิดให้เขาโพสได้เต็มที่
ยกเว้นป่วนจนบอร์ดวุ่นมีเหตุผลก็ลบความเห็นไป
เช่นโพสซ้ำๆ เยอะๆ ตั้งกระทู้เยอะๆ ให้กระทู้อื่นตกไป
แต่กระทู้ไม่มีอะไรดูเจตนาเป็นเรื่องๆ
พยายามยืดหยุ่นมากๆ จะดีกว่า
เพราะชีวิตจริงก็คล้ายๆ แบบนี้
ไม่มีใครมาคอยปกป้องคุ้มครองใครไปตลอด
ทุกคนต้องฝึกอยู่ในสังคมที่เป็นแบบนี้ให้ได้
พวกสายนี้เขาไม่ต้องส่งข่าวเองแบบวิ่งไปบอกก็ได้
แค่ชี้เป้าพรรคพวกเขาก็สืบต่อได้
ดูกรณีที่มีการยิงกันช่วงกระชับพื้นที่สิ
แค่มีคนหนึ่งชี้เป้าอีกพวกยิง
จะเห็นได้ว่าคนชี้เป้าไม่ได้ทำอะไรร้ายแรง
แค่ชี้เฉยๆ ไม่ได้ ยิง
พวกสายข่าวเขาอาจคิดว่าเป็นแบบนั้น
แต่ถ้าข่าวหรือสิ่งที่เขาชี้เป้าหรือส่งไป
ทำให้เกิดมีคนเจ็บตายมากมายหรือเกิดความเสียหายขึ้น
พวกเขาไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบร่วมได้
และจะมีความผิดไม่ต่างจากพวกที่เอาข่าวไปทำอะไรต่อ
มีสายข่าวอยู่คนหนึ่ง ช่วง คมช.
หน้าตาเหมือนคนติดยา มีรอยสักทั้งตัว ผอมโซ
เชื่อไหมเขากินเงินเดือนของตำรวจ
อาชีพจริงๆ หาข่าวด้านยาเสพติด
แต่คนหาข่าวช่วยพวก คมช. ไม่พอหรือยังไงไม่รู้
เขาเลยต้องมาหาข่าวการเมืองด้วย
วิธีการของเขา เขาต้องติดยาจริงๆ
ต้องลองเสพยาแทบทุกชนิด
เพื่อจะได้สืบถึงหัวหน้าใหญ่ให้ได้
คิดดูว่าเขาทุ่มลงทุนเอาชีวิตไปเสี่ยงขนาดไหน
ต้องติดยาจริงๆ เแถมป็นโรคอะไรตามมาอีก
เพียงเพื่อหาข่าวให้กับเจ้าหน้าที่
ดังนั้นวิธีเข้าหาแหล่งข่าว
ยิ่งมืออาชีพยิ่งเนียน
แต่ไม่ต้องไปปวดหัวระแวงมาก
ผมรู้มากมาย ผมยังไม่มาปวดหัวเรื่องนี้เท่าไหร่
เพราะถ้าคุณทำอะไรไม่ผิดกฏหมาย ก็ไม่ต้องไปกลัวอะไร
เพียงแต่เรื่องหมาลอบกัดนี่ก็ต้องทำใจ
ถ้าลองกล้าออกมาแล้วเรื่องหมาลอบกัดก็เลิกสนใจแล้ว
แต่ถ้าระดับนายทุน นายใหญ่ของขบวนการ
พวกนี้ต้องระวังให้มาก
เพราะเขาต้องการหลักฐานมาแฉพวกคุณ
ไม่ต่างอะไรกับคลิปลับที่ดังๆ ช่วงนี้
เหมือนกันเพียงแต่คนละขั้วเป็นคนลงมือเท่านั้น
วันหนึ่งอาจเห็นคลิปของพวกเดียวกันก็ได้ใครจะรู้
ถึงต้องเตือนบ่อยๆ ให้ระวัง
คนทั่วไปผมไม่ห่วงเท่าพวกมีอำนาจคุมม็อบ
กรณีที่ชัดสุดคือกรณี สุรเกียรติ์
ถามว่าทักษิณและกองเชียร์ทักษิณร่วมทั้งผม
หรือแม้แต่คนทั้งโลกนอกจากพวกของสุรเกียรติ์ก็ได้ว่า
มีใครรู้ว่าสุรเกียรติ์ ไม่ใช่พวกทักษิณ ก่อน 19 กันยา 49 บ้าง
เนียนขนาดว่า
ทักษิณและกองเชยร์รวมทั้งเรา
ลุ้นให้ได้ตำแหน่งใหญ่ใน UN ด้วยซ้ำ
กว่าทักษิณจะรู้ตัวก็สายไปแล้ว
เรื่องนี้จึงไม่ควรซ้ำรอยเดิม
ต้องระวังไว้มากๆ
" อย่ายึดติดตัวบุคคล จงยึดติดเป้าหมาย
ใครทิ้งเป้าหมาย แยกไป หรือเปลี่ยนไป
อย่าได้เสียใจ ท้อใจ ขอให้เดินหน้าต่อไป
เพื่อให้ถึงเป้าหมายที่ฝันจะไปให้ถึงให้ได้ "
โดย มาหาอะไร
FfF
บันทึกเรื่องราว สืบสาวความจริง ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน.
Save the stories. Investigate the truth. Give to the next generation.