บันทึกเรื่องราว สืบสาวความจริง ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน.
Save the stories. Investigate the truth. Give to the next generation.


23 มกราคม 2554

<<< ในที่สุด เทศกาลราชดำเนิน และ เทศกาลราชประสงค์ ก็จบลงอย่างง่ายๆ เฮ้อ >>>

เสื้อแดงปรับรูปแบบชุมนุมเหลือเดือนละครั้ง เปลี่ยนบรรยากาศไปเขาใหญ่ ปราศรัยพิเศษราชมังคลาฯ
วันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2554 เวลา 20:20:17 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้าน เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 23 มกรมาคม ว่ามีการปราศรัยจากบรรดาแกนนำ รวมทั้งภรรยาของแกนนำเสื้อแดง ที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ

นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำเสื้อแดง กล่าวว่า พอใจภาพรวมการชุมนุมที่ไม่กระทบกับประชาชน เพราะมีการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ และผู้ประกอบการที่ราชประสงค์ไว้ ก่อน ทั้งนี้ จะยุติการชุมนุมในเวลา 24.00 น.

"กลุ่มเสื้อแดงจะปรับรูปแบบการชุมนุม โดยเปลี่ยนมาชุมนุมเดือนละ 1 ครั้ง เพราะไม่ต้องการให้ประชาชนเดือดร้อน โดยจะชุมนุมครั้งต่อไปในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ แต่ยังไม่มีการกำหนดสถานที่ รวมถึงจะมีการเปิดปราศรัยพิเศษ ที่ราชมังคลากีฬาสถาน หากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาอนุญาต ตลอดจนมีแผนจัดการชุมนุม ที่โบนันซ่า เขาใหญ่ด้วย"นายจตุพร กล่าว

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1295788850&grpid=00&catid&subcatid

-----------------------------------------------------------------

เหตุการณ์ช่วงหนึ่งของม็อบที่ไม่มีแกนนำ
<<< สี่ปีรัฐประหาร กับการกลับมาของม็อบเสื้อแดง อย่างยิ่งใหญ่อลังการ ที่ราชประสงค์ >>>
http://maha-arai.blogspot.com/2010/09/blog-post_19.html
<<< ครบรอบ 6 เดือนย้ำเตือนความทรงจำ เสื้อแดงถูกกระทำที่แยกคอกวัวและแถวอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย >>>
http://maha-arai.blogspot.com/2010/10/blog-post_11.html
<<< เทศกาลราษฎร์ประสงค์ >>>
http://maha-arai.blogspot.com/2010/11/blog-post_20.html

แต่สุดท้ายก็พยายามทำให้มีแกนนำจนได้
และช่างเป็นไปตามแผนปรองดองของวีระเลย เฮ้อ
<<< แผนปรองดองของวีระ >>>
http://maha-arai.blogspot.com/2010/10/blog-post_08.html

จากมวลชนที่ไม่มีแกนนำที่คึกสุดขีด ตะโกนร้องเพลงอย่างห้าวหาญ
จนมีความหวังว่าเทศกาลราชดำเนินและราชประสงค์
จะยังคงอยู่ไปอีกนานจนสร้างความหวั่นไหวให้กับผู้มีอำนาจ
จนตำรวจต้องเรียกร้องให้เสื้อแดงมีแกนนำ เพราะไม่รู้จะเจรจากับใคร
ในที่สุดก็ตั้งแกนนำมาแบบมุบมิบ แล้วก็ทำตามโอวาทผู้มีอำนาจในที่สุด

ต่อไปถ้าจะเรียกว่า ม็อบในโอวาทผู้มีอำนาจ ก็น่าจะได้น่ะ
การมีแกนนำที่พาม็อบตะเวนไปทั่วเรื่อยเปื่อย
สู้ไม่มีแกนนำแล้วอยู่กับที่ยังคึกกว่า กดดันฝ่ายตรงข้ามได้มากกว่า
แถมก็เคยทำมาแล้วในการตะเวนไปทั่ว
สุดท้ายเขายอมดีๆ ไหม เห็นแจกลูกตะกั่วให้ว่อนไปหมด
ถ้ามีแกนนำแล้วคิดทำแบบนี้ สู้กลับไปเป็นแบบเดิมไม่มีแกนนำแล้วคึกจะดีกว่า
กดดันฝ่ายตรงข้ามสุดๆ และสร้างความฮึกเหิมให้เสื้อแดงมากมายด้วย

ไอ้ที่ชอบบ่นๆ กัน ว่าเมื่อไหร่จะชนะ มันจะชนะไปได้ยังไง
ในเมื่อมีแกนนำทำตามสั่งผู้มีอำนาจแบบนี้
ก็คงเป็นม็อบคอนเสริต์ไปจนถึงสิ้นปีนี้
แล้วก็เลิกไปโดนปริยาย เพราะจะมีการเลือกตั้ง
น่าเสียดายจริงๆ กำลังมาถูกทางและกดดันฝ่ายตรงข้ามสุดๆ แล้ว
ต่อไปถ้าทำอย่างที่แกนนำว่า พาทัวร์นั่นนี่ผลาญเงินทุนทั้งนายทุนและชาวบ้านไปวันๆ
กดดันอะไรไม่ได้เลย เขาคงนอนเกาไข่เล่นอย่างครื้นเครงแน่ๆ เฮ้อ เฮ้ออีกที เซ็ง

ถ้าไม่กล้าก็ไม่ควรอาสาหรือเข้ามาแย่งคนอื่นเลยจริงๆ
แถมเขาไม่มีแกนนำแล้วกล้ายังจะ ดีกว่าอีก
เสียเวลาไปอีกปีไม่มีอะไรดีขึ้นมา น่าเบื่อหน่ายจริงๆ
ตอนจบก็มี 2 อย่างคือ ยอมจบเพื่อเลือกตั้ง
กับยอมมอบตัว หลังพาตะเวนไปทั่ว
แล้วนายทุนอยากเร่งเกม ก็มอบตัวตอนจบ
เขียนเป็นหลักสูตรไว้ได้เลย เล่นทำเหมือนกันเด๊ะๆ
ไม่พัฒนาเลยจริงๆ เสียความรู้สึกมากๆ
แทนที่จะไม่มีแกนนำ ถ้าเกิดไม่กล้ากันจริงๆ
ต้องให้เขาเอาคดีมาล่อก่อนม็อบใหญ่ทุกครั้ง
ขนาดเขียนดักคอไว้หลายเดือนก็ย ังทำให้เห็นแบบไม่อายกัน เฮ้อ
<<< ล่อด้วยคดี >>>
http://maha-arai.blogspot.com/2010/12/blog-post_1051.html

สรุปว่า ถ้าเสื้อแดงยังถูกควบคุมได้ง่ายๆ ผ่านแกนำที่ถูกควบคุมมาอีกที
ก็เป็นได้แค่ม็อบสร้างสีสรรไป วันๆ ห่างไกลกับชัยชนะไปเรื่อยๆ
เนื่อ งจากผู้มีอำนาจที่สั่งควบคุมแกนนำได้
เขาก็คงไม่คิดทำอะไรให้ม็อบกดดันเขาได้หรอก เฮ้อ

ส่วนกรณี ถ้าคนมาชุมนุมมากๆ แล้วจะไม่ให้มีคนเดือดร้อน
เข้าใจว่าต้องลดจำนวนคนให้มาร่วมชุมนุมน้อยๆ
หรือชุมนุมตามเว็บไซด์ดีกว่า จะได้ไม่มีใครเดือดร้อนแน่ๆ
ต่อให้ไปเขาใหญ่ก็ไปทำให้รถติดชาวบ้านแถวนั้นเดือดร้อนอยู่ดี
คนเยอะๆ แบบนี้มีที่ไหนบ้าง ที่ไปแล้วไม่มีใครเดือดร้อน
ถ้ายึดคติแบบนี้ อย่ามานำม็อบเลย
เพราะว่าวันหนึ่ง จะต้องไปเจรจากับเด็กประถมมัธยม
เพราะเดือดร้อนจากเส้นทางผ่านของม็อบ
หรือไม่ก็คนขายหวยแถวกองสลาก
นั่นนี่ทั่วไปที่ขายของไม่ได้เพราะมีม็อบ
ก็จบกันไม่ต้องไปทำอะไร

แถมที่ราชประสงค์ ผมก็ไม่เคยเห็นด้วยตั้งแต่แรกแล้ว
แต่เมื่อไปอยู่กันหลายเดือนจนมีคนตายที่นั่น
แล้วไม่กล้าไปชุมนุมที่นั่นเพราะกลัวคนเดือดร้อน
แล้วคนเสื้อแดงที่ตายไปแถวนั้นเราก็ไม่ต้องไปเดือดร้อนใช่ไหม
แถวราชดำเนินอีก ตายกันหลายสิบเจ็บเกือบพันคน
เขาสู้ถวายชีวิตเพื่อปกป้องแถวนั้นในตอนนั้น
ถ้ารู้ว่าแกนนำเป็นแบบนี้ ยอมง่ายๆ แบบนี้
เขาอาจไม่ต้องไปสู้จนบาดเจ็บล้มตายมากมาย
งวดที่แล้วก็ถอนตัวออกจากราชดำเนินและราชประสงค์ ดีๆ ก็จบเรื่อง
ถ้ากลัวประชาชนเดือดร้อน มันก็เดือดร้อนกันหมดแหล่ะ
นั่งอยู่บ้านเฉยๆ ก็เดือดร้อนได้ ถ้าเห็นรัฐบาลนี้
บริหารประเทศไม่ได้เรื่อง สวาปามกันสนุก
แล้วคนที่เดือดร้อนอย่างเสื้อแดงจะให้ไปชุมนุมแถวไหน
ที่คิดว่าไม่เดือดร้อน ไปหน้ารามสนามกีฬา รถก็ติดอีก
ทุกวันนี้แถวนั้นก็ติดกันอยู่แล้ว เดือดร้อนไหมหล่ะ
แล้วไปชุมนุมในสนามกีฬา กดดันอะไรผู้มีอำนาจหรือ
ถ้ากดดันได้งวดที่แล้ว ก็เคยไปชุมนุมแล้ว ก็น่าประสบความสำเร็จไปแล้วซิ

อันที่จริงถ้าต้องการเร่งเกม
ควรชุมนุมทุกวันเสาร์หรือวันอาทิตย์ที่ใดที่หนึ่งไปเลยด้วยซ้ำ
ช่วง คมช. ก็ชุมนุมทุกวัน ช่วงม็อบใหญ่ก็มีทุกวัน
แต่ถ้าลดเหลืออาทิตย์ละครั้ง ก็ยังไม่ถึงกับโหลดมากเท่ากับมีทุกวัน
แต่ถ้านานๆ เดือนละครั้งจะทำให้ความกระตือรือร้นความคึกคักหายไป
ความฮึกเหิมก็จะหายไปเรื่อยๆ ด้วยซ้ำ ไม่งั้นก็ลองจัด 3 เดือนครั้ง 6 ดือนครั้งดูก็ได้
จะรู้เลยว่าความคึกหายไปเยอะเลย
ไม่งั้นช่วงแตกหักเขาจะรนจนต้อง มาทุกวันหรือ
ส่วนถ้าจัดทุกอาทิตย์หรือทุกวันแล้วมวลชนบางส่วนมาไม่ได้ทุกวัน
ก็แล้วแต่ความสะดวกของแต่ละคนบางทีมีธุระมาไม่ ได้
จะเว้นบ้างก็ไม่เห็นเป็นอะไร หรือทุนน้อยก็เว้นวรรคบ้างก็ได้
สำคัญที่สุดอยากให้ไปกันจริงๆ คือวันที่เขาจะเอาจริงหรือวันแตกหัก
นอกนั้นอู้ได้ไม่มีปัญหาไม่จำเป็นต้องมากมายทุกนัด
แค่พอเยอะๆ ให้อุ่นใจก็เพียงพอแล้ว
อย่างวันนี้ผมก็ไม่ได้ไป เพราะเป็นหวัด กลัวไปติดชาวบ้าน
หวัดอะไรก็ไม่รู้เหมือนกันไม่ได้ไปหาหมอ ก็ซื้อยาตามร้านมากิน
ยังมึนๆ อยู่ที่ทำงานผมก็ไอกันแทบทุกวัน ไม่รู้ไปติดจากที่ทำงานหรือเปล่า
เขาให้หยุดก็ไม่หยุดกันอาจไปแพร่เพื่อนๆ ได้
ผมก็เลยหยุดไม่ไปเดี๋ยวไปติดคนอื่น
แต่นัดที่ผมจะไปคือนัดสำคัญๆ นอกนั้นก็แล้วแต่สะดวกเหมือนกัน
ไม่จำเป็นว่าทุกคนต้องไปทุกนัด เน้นนัดสำคัญที่จำเป็นควรต้องไปทุกนัด
จะกดดันเขาได้ดี เขาจะขู่ทำรัฐประหาร จะทำอะไรเรื่องของเขา
แต่เรากดดันไว้ตลอด ดีกว่าเราผ่อน เราผ่อนทีไรมันก็มาหาเรื่องทุกที
ว่างมากมันก็ไล่เก็บไปเรื่อยเปื่อย กดดันไว้เรื่อยๆ จะดีกว่า
ทำม็อบต้องกดดัน ถ้าไม่คิดกดดันอย่าทำ ถ้าไม่รุกตั้งรับก็ไม่ควรทำ
ถ้าเป็นแบบนั้น นอนอยู่บ้านดีกว่า

บทเรียนงวดที่แล้วที่เราตั้งรับต้องเสียกำลังไปดูแลรอบทิศ
ต่อไปต้องรุกการไปแค่วันเดียวเลิกแต่รุกเพราะเสียงสรรเสริญเยินยอ
แค่นี้ก็แทบจะรีบประเคนแกนนำมาให้แล้วมีที่ไหนในโลก
ผู้มีอำนาจห่วงใยอยากให้ม็อบมีแกนนำ
แสดงว่าเขากังวลมากมายกลัวบานปลาย
แต่เรากลับไปทำให้เขาคลายกังวล
เดินตามทางที่เขากำหนด เฮ้อ
อยู่กับที่เฉยๆ มีวิธีกดดันมากมาย
ไม่ต้องเดินยั่วไปยั่วมาด้วยซ้ำ

แค่ทำให้คนตาสว่างอยู่กับที่ก็เหอะลมแทบจับ ควันออกหูได้เหมือนกัน
กับทำตัวเป็นพวกไฮเปอร์ชอบไปนู้น ไปนี่เปลี่ยนที่ไปเรื่อยๆ
เปลืองเงินเปลืองทอง ไม่มีเวที ไม่มีการ์ด ไม่มีแกนนำ คนมาออกทุนมาเอง
จัดม็อบได้ยาวใช้ทุนน้อยสุดๆ เพราะต้นทุนต่ำมากๆ
การมีเวทีนายทุนที่ไหนเขาจะหนุนไปได้ตลอด
เครื่องเสียงดีๆ วันหนึ่งเป็นล้าน รองๆ มาก็เป็นแสน
ใครเขาจะทนดูให้จัดแบบใจเย็นได้
แถมทำแบบนี้ ก็กดดันพวกเดียวกันโดยเฉพาะนายทุน
ถ้าตัดนายทุนออกไปไม่พึ่งมากไม่จำเป็นต้องมีเวที
ป้ายก็ลงทุนสีป้ายทาซ้ำไปซ้ำมาได้ ทำให้ประหยัดเข้าไว้
บอกให้เขารับรู้ด้วยว่าม็อบต้นทุนต่ำแบบนี้
จัดสิบปีก็ยังอยู่ได้ อย่าซื้อเวลา
ไม่งั้นเขาเห็นใช้ทุนมากๆ ซื้อเวลาไปเรื่อยๆ
เดี๋ยวทุนหมดก็อาละวาดเข้าทางเขาจนได้

ที่คิดจะไปเขาใหญ่ก็คงพากันไปพักร้อนดีๆ นี่เอง
จะได้หลบจากราชประสงค์ ที่มีนักธุรกิจเจ้าของห้างดังๆ โรงแรมดังๆ ย่านนั้น
จะได้ไม่เดือดร้อน และคงมีเพาเวอร์ทำให้แกนนำยอมจำนนด้วยแหล่ะ
ไม่ใช่แค่นักธุรกิจที่ออกมาเป็นข่าวเท่านั้นหรอก

จากแนวคิดของแกนนำที่แสดงออกมา
ทำให้รู้เลยว่าที่พยายามเข้ามาเป็นแกนนำอีกครั้งช่วงนี้
ไม่ใช่ต้องการเปิดเกมรุกเพราะไม่ทันใจพวกม็อบไม่มีแกนนำ
แต่เป็นการเข้ามาถ่วงเวลาไปเรื่อยเปื่อยไปวันๆ มากกว่า
แถมถ้าคิดจะกดดันเพื่อให้แกนนำ ในคุกออกมา
การอยู่กับที่ ที่จุดยุทธศาสตร์ทั้งราชดำเนินและราชประสงค์ต่อไป
ยังไงก็ดีกว่าหนีไปจัดตามต่างจังหวัดหรือในสนามกีฬา
นี่แสดงให้เห็นว่าไม่ได้คิดจะรุก คนที่คิดจะรุกก็แค่ไม่รู้ไม่ชี้
หรือไม่จำเป็นต้องยื่นหน้ามาเป็นแกนนำ เพื่อมารับผิดชอบอะไร
ก็ให้ม็อบไม่มีแกนนำเขาจะทำอะไรก็ไม่ต้องไปเดือดร้อน
แถมเขาก็ไม่ได้ทำอะไรมากแค่เย้วๆ ร้องรำทำเพลงอะไรอยู่กับที่ด้วยซ้ำ
ไม่ได้เดินยั่วไปยั่วมาด้วยซ้ำยังกดดันฝ่ายตรงข้ามได้มากกว่า
ช่วงมีแกนนำ ทั้งๆ ที่มีคนน้อยกว่าด้วยซ้ำ
ถ้าคนมากเท่าช่วงนี้ซึ่งฝ่ายการเมืองส่งมาหนุนแล้วไม่มีแกนนำ
ปล่อยให้เขาหูตาสว่างไปเรื่อยๆ รับประกันได้
ไม่มีใครนอนเกาไข่ทนอยู่เฉยๆ ไปได้หรอก
เมื่อพวกนั้นทนไม่ได้ เดี๋ยวก็จะทำให้ชาวบ้านทั่วไปตาสว่างเพิ่มอีก
ลองคิดดูก็ได้แบบแปลนแบบไหน รุกมากกว่ากัน

<<< กลยุทธ์การโยนหินถามทาง กับ เทคนิคการร้องบอกเมื่อไม่เห็นด้วย >>>
http://maha-arai.blogspot.com/2011/01/blog-post_2667.html

โดย มาหาอะไร
FfF